ผู้ใดประมูลได้ก็สามารถสร้างสัมพันธ์ทำข้อตกลงกับผู้นั้นได้แล้ว?
นั่นคือราชางูเหลือมหยกเก้าเศียรนะ ตอนที่ถึงระดับสูงสุดสามารถไปได้ถึงระดับเจ็ด จนกระทั่งระดับเจ็ดขึ้นไปเชียว
วันนี้พละกำลังความสามารถมันคือระดับห้า
หากสามารถสร้างสัมพันธ์ทำข้อตกลงกับมันได้ เกรงว่าจะไปถึงระดับหก จนกระทั่งระดับเจ็ดได้เลย?
นี่เป็นสิ่งที่ยั่วยวนใจมาก ทั้งสองคนต่างไม่กล้าละทิ้ง
ไป๋หลี่เจิ้นกล่าวว่า“ท่านบอกมัน ข้าจะต้องประมูลวงแหวนอวกาศมาได้อย่างแน่นอน”
ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์กระแอมไอ หาทางลง กล่าวขึ้นว่า“ไม่ว่าประมูลวงแหวนอวกาศมาแล้วจะให้ผู้ใด ถึงอย่างไรตระกูลไป๋หลี่ของเราจะต้องประมูลมาจงได้”
“หกแสนตำลึง….มีคนประมูลราคาถึงหกแสนตำลึงแล้ว ยังมีคนจะประมูลต่อหรือไม่?”
“เจ็ดแสนตำลึง”ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์ตะโกนออกมาอย่างไม่คิด
ไป๋หลี่เจิ้นกล่าวว่า“แปดแสนตำลึง”
ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์ชะงักงันกล่าวว่า“พวกเราล้วนเป็นคนของตระกูลไป๋หลี่ เหตุใดท่านถึงได้แย่งราคาข้า?”
“แย่งราคาอะไร? พี่อวิ๋นเย่ว์พูดเช่นนี้ไม่น่าฟังเกินไปแล้ว แม้พวกเราล้วนเป็นคนของตระกูลไป๋หลี่ แต่…ท่านกล้าพูดว่าตนเองไม่มีเจตนาเห็นแก่ตัวหรือไม่?”
“เช่นนั้นท่านล่ะ หรือว่าท่านไม่มีเจตนาเห็นแก่ตัว?”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราแต่ละคนก็เรียกราคาตามความสามารถเถิด?”
“หนึ่งล้านตำลึง”เยี่ยจิ่งหานกล่าวตะโกนขึ้น
ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์กับไป๋หลี่เจิ้นต่างมองสบตากัน
เหตุใดเยี่ยจิ่งหานถึงได้วิ่งมาแย่งวงแหวนอวกาศแล้ว?
หรือว่าวงแหวนอวกาศนี้มีความแตกต่างจริง?
“เยี่ยจิ่งหานเป็นขุนนางต่างรัฐที่พวกเราเชิญมา ผู้นำตระกูลกล่าวว่า เพียงแค่เขาต้องการ จะต้องพยายามทำให้เขาพึงพอใจ พวกเรายังต้องการจะแย่งเสนอราคากับเขาหรือ?”ไป๋หลี่อวิ๋นเย่ว์กล่าว
ไป๋หลี่เจิ้นสะบัดเสียง เขาเพียงแค่อยากสานสัมพันธ์กับราชางูเหลือม อย่างอื่นไม่ได้สนใจเกรงใจ
“ผู้นำตระกูลบอกพยายามทำทุกอย่างให้เขาพึงพอใจ ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไรก็ต้องทำให้เขาพอใจไปเสียหมด อยู่ที่งานประมูล ผู้ใดให้ราคาสูงย่อมชนะ ใครประมูลไม่ได้ก็ไม่สามารถบ่นผู้ที่ประมูลได้”
“ก็ใช่ เช่นนั้นไม่ต้องสนใจเขาแล้ว”
ด้านล่างเวทีประมูล กู้ชูหน่วนตื่นตะลึงพูดไม่ออก
นางรู้วงแหวนอวกาศนั้นโด่งดัง แต่คิดไม่ถึงว่าที่งานประมูลอันโอ่อ่าจะมีคนแย่งกัน อีกทั้งเรียกราคายิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆด้วย
“ถอยหน่อย ขอทางหน่อย…..”
ด้านนอกงานประมูล อารักขาจำนวนหนึ่งแหวกกลุ่มคน ออกไปเป็นทาง เพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญด้านนอกเข้ามา
เพราะว่างานประมูลครึกครื้น ทุกคนประมูลจนตาแดงแฉะ จะมาสนใจฟังว่าพวกเขาพูดอะไรกันที่ไหนล่ะ อีกทั้งจะหลีกทางให้ได้อย่างไร
กู้ชูหน่วนถูกพวกเขาผลัก จนแทบจะล้มลง
โชคดีที่มีมือย่นคู่หนึ่งมาประคองนางไว้
“แม่นางน้อย เจ้ามิเป็นไรใช่ไหม”
กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นมอง
นั่นคือคนที่มีอายุมากผู้หนึ่ง แววตาดูอ่อนโยน เป็นมิตร มีความอมตะแบบเซียนด้วย
บนเอวของเขามีแผ่นป้ายแผ่นหนึ่งห้อยอยู่ เขียนว่าหนิง และด้านหลังมีลูกศิษย์จำนวนหนึ่งด้วย
คนของงานประมูลกล่าวด้วยความละอายว่า“ท่านผู้เฒ่า ต้องขออภัยจริงๆ วันนี้คนที่งานประมูลมีจำนวนมาก ด้วยเหตุนี้…..ช่องทางฉุกเฉินได้ถูกขวางไว้เช่นกัน ข้าจะพาท่านไปที่ห้องส่วนตัวที่ชั้นสองขอรับ”
“มิเป็นไร มาทันก็ดีแล้ว”
กู้ชูหน่วนอยู่ที่ห้องโถงใหญ่ชั้นหนึ่ง นางหมดความอดทนตั้งนานละ ด้านในคนเบียดเสียดกัน บนตัวของคนจำนวนไม่น้อยยังมีกลิ่น นางสูดดมจนนางจะอาเจียนออกมา
นางรั้งท่านผู้เฒ่าหนิงไว้ จากนั้นกล่าวว่า“ท่านผู้เฒ่า ท่านชนข้า อย่างน้อยจะต้องชดเชยสักหน่อยไหม”
ไม่รอให้ท่านผู้เฒ่าหนิงเอ่ยปากพูด คนข้างกายของเขาจึงได้กล่าวขึ้นอย่างไม่พึงพอใจว่า“เจ้าจงใจหาตอไหม คนที่ชนเจ้าไม่ใช่ท่านผู้เฒ่าของข้า อีกทั้งหากไม่ใช่ท่านผู้เฒ่าของข้า เจ้าล้มไปนานแล้ว”
“แน่นอนไม่ใช่เขาชนข้า แต่หากไม่ใช่เพราะเขามา จะเกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร?”
“เจ้าคือมู่หน่วน คนไร้ประโยชน์ของตระกูลมู่หรือ?”หลานชายของท่านผู้เฒ่าหนิง หนิงเทียนโย่วกล่าวขึ้น
ท่านผู้เฒ่าหนิงพินิจพิจารณากู้ชูหน่วนอย่างละเอียด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...