จากการประมูลสิ้นสุดลงไม่นานนักเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็บิดตัวคลานมายังตรงหน้ากู้ชูหน่วนพร้อมกับวงแหวนอวกาศ มันมอบวงแหวนอวกาศให้แก่กู้ชูหน่วนราวกับถวายสมบัติล้ำค่าให้
กู้ชูหน่วนลูบวงแหวนอวกาศเบาๆจากนั้นก็สวมวงแหวนอวกาศบนนิ้วกลางเลย
แหวนวงนี้ให้ความรู้สึกราวกับคุ้นเคยกันมาก่อนแบบหนึ่งกับนางอยู่ตลอดและก็มีความรู้สึกคุ้นเคยอย่างหนึ่งราวกับความรู้สึกว่าได้รับการดูแล ราวกับว่าเดิมทีมันก็เป็นแหวนของนาง
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เจ้าทำได้ดีมาก ข้าจะให้รางวัลหมูย่างหัวหนึ่งกับเจ้า แล้วข้าจะย่างให้เจ้ากินทีหลัง”
“ฟ่อฟ่อ......นายท่านช่วยย่างให้มากหน่อยได้ไหม เพื่อให้ได้แหวนวงนี้มาเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ใช้พละกำลังเป็นอย่างมากเลยนะ”
"มีหัวหนึ่งก็ดีแล้วยังจะต่อรองอีก"
กู้ชูหน่วนเขกหัวเป็นรางวัลให้แก่มันอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็ถอดแหวนอีกวงหนึ่งที่ได้ขโมยมาจากหอเจินเป่าออก
วงแหวนอวกาศ นางต้องการเพียงวงเดียวก็พอแล้ว
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความประทับใจว่า "วงแหวนอวกาศวงนี้ยิ่งดูข้าก็ยิ่งชื่นชอบนัก บางทีชาติที่แล้วข้าอาจจะเป็นเจ้าของวงแหวนอวกาศวงนี้"
ในสถานที่ไม่ไกลนักเยี่ยจิ่งหานซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นจู่ๆหัวใจก็เต้นเร็วขึ้นโดยที่มือทั้งสองจับที่จับเก้าอี้ไว้แน่นโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว
เดิมทีนางเป็นเจ้าของแหวนในชาติที่แล้ว
อาหน่วนนาง.......จำสิ่งใดได้แล้วหรือเปล่า?
เยี่ยจิ่งหานมองไปยังกู้ชูหน่วนด้วยความตื่นเต้น ต้องการดูว่านางจะสามารถนึกสิ่งใดออกหรือไม่แต่น่าเสียดายที่นางไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอื่นใดเลย
แต่เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลับพันนางไว้พร้อมกับออดอ้อนอยู่ในอ้อมแขนของนางไม่หยุดซึ่งทำให้เจ้าเสือน้อยไม่พอใจอย่างมาก งูตัวหนึ่งกับเสือตัวหนึ่งก็เริ่มหึงหวงกันขึ้น
เจี้ยงเสวี่ยกล่าวว่า "หญิงผู้นี้เพื่อหลีกหนีการตามล่าสังหารของตระกูลไป๋หลี่ได้เข้าไปซ่อนตัวในหอเจินเป่า เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เห็นแม่นางมู่แล้วก็ตามติดนางไม่ยอมปล่อย ข้าน้อยคาดเดาว่าน่าจะเนื่องจากในตัวนางมีดวงจิตของพระชายาอยู่ดังนั้นเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ถึงได้ติดตามนางโดยตลอด กระทั่งช่วยนางยกเค้าหอเจินเป่า
"วงแหวนอวกาศก็เป็นนางที่ให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์หลอกมา เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์......รับปากว่าจะทำสัญญาข้อตกลงกับตระกูลไป๋หลี่หลังจากได้รับแหวน แต่หลังจากได้แหวนมาแล้วเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ก็เตลิดหนีไปเลย ตอนนี้คนนของตระกูลไป๋หลี่กำลังตามหาเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กันหมด แม้แต่ผู้นำตระกูลไป๋หลี่ก็โมโหจนแทบหมดสติ”
“นายท่าน พวกเราจะเรียกเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กลับมาแล้วเอาวงแหวนอวกาศคืนมาหรือไม่ขอรับ?”
เยี่ยจิ่งหานเงียบเพียงแค่จ้องมองกู้ชูหน่วนไม่หยุด
เห็นเพียงแค่กู้ชูหน่วนใช้ความนึกคิดของตนเองเปิดวงแหวนอวกาศออกและนำสิ่งของต่างๆในวงแหวนอวกาศออกมาทีละชิ้นๆ
แต่ก่อนวงแหวนอวกาศของกู้ชูหน่วนได้เก็บสะสมของรักของหวงเอาไว้มากมาย แต่ตอนนี้ไม่มีสิ่งใดอยู่ในวงแหวนอวกาศมีเพียงแค่ขนมเปี๊ยะดอกไม้
ดูเหมือนว่าขนมเปี๊ยะดอกไม้จะถูกเก็บไว้นานหลายปีซึ่งมีหลากหลายรสชาติ ขนมเปี๊ยะดอกไม้แต่ละชิ้นยังคงรูปลักษณะเดิมเอาไว้แม้กระทั่งยังมีกลิ่นหอมจางๆลอยออกมาด้วย
เมื่อเห็นขนมเปี๊ยะดอกไม้ที่คุ้นเคยและแปลกหน้าเหล่านี้ คิ้วของกู้ชูหน่วนก็กระตุกและดวงตาก็ได้แปรเปลี่ยนแดงขึ้นโดยไม่รู้ตัวพร้อมด้วยน้ำตาเป็นหยดๆได้ไหลรินลงมา
“นายท่านอิ๋นท่านเป็นอันใด?” เจ้าเสือน้อยเห็นเข้าก็ไม่หึงหวงปะทะกับเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์อีกต่อไป แต่ว่ากางกรงเล็บออกช่วยกู้ชูหน่วนเช็ดน้ำตาจากตรงหางตา
กู้ชูหน่วนเช็ดน้ำตาออกจากดวงตาตามแต่ใจ
“ช่างน่าแปลกนัก เห็นขนมเปี๊ยะดอกไม้เหล่านี้เจ้ารู้สึกเศร้าเสียใจแล้วยังน้ำตาไหลด้วยความประหลาดใจ เจ้าว่าเจ้าของแหวนนำสิ่งใดมาไว้ไม่ดีหรือเหตุใดถึงเป็นขนมเปี๊ยะดอกไม้หล่ะ? เป็นไปได้หรือไม่ว่าเจ้าของแหวนแต่ก่อนเป็นผู้ที่ชื่นชอบการกิน?"
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงฟ่อฟ่ออย่างไม่พอใจ
นั่นเป็นของที่อี้เฉินเฟยทำให้นางกินก่อนตาย นายท่านเห็นเป็นสิ่งของล้ำค่ามาโดยตลอดเสียดายที่จะกินแม้แต่หนึ่งชิ้นแล้วยังปิดผนึกไว้ในวงแหวนอวกาศด้วยวิชาลับเฉพาะ นอกจากตัวนางเองแล้วใครก็ไม่สามารถนำออกมาได้
แม้ว่าตอนนี้นางจะสูญเสียความทรงจำไป แต่ว่าบางสิ่งบางอย่างที่ประทับอยู่ในใจเช่นไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ซึ่งแน่นอนว่าต้องรู้สึกทุกข์ใจอยู่แล้ว
เยี่ยจิ่งหานบังเกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
อาหน่วน......
เป็นอาหน่วนที่กำลังทุกข์ใจใช่ไหม?
ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยก็ตื่นเต้นด้วย
เป็นเวลานานหลายปีที่ดวงจิตของพระชายาไม่ได้รู้สึกเคลื่อนไหวอันใดมาโดยตลอด
คิดไม่ถึงว่าวันนี้กลับ......กลับมีปฏิกิริยาตอบสนองไม่น้อย
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตื่นเต้นยิ่งกว่าก็คือ
ได้มีดวงวิญญาณอีกดวงหนึ่งของกู้ชูหน่วนถูกกลิ่นหอมของขนมเปี๊ยะดอกไม้ดึงดูดมา แล้วก็หมุนไปโดยรอบขนมเปี๊ยะดอกไม้และกู้ชูหน่วนไม่หยุด และในที่สุดก็ได้แทรกซึมเข้าไปในหว่างคิ้วของกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนกระโดดขึ้นมาในทันที
“เหตุใดดวงจิตของหญิงผู้นั้นถึงได้เจ้ามาสู่ในร่างกายของข้าอีก? ไม่ใช่ว่านางจะยึดดวงวิญญาณของข้าหรอกนะ"
เจ้าเสือน้อยหน้าตาสับสน
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตื่นเต้นมากเสียจนขยับหางไปมาไม่หยุด
“นายท่าน......นายท่าน......”
ใจของเยี่ยจิ่งหานเต้นจนแทบจะกระโดดออกมา
หากไม่ใช่ว่าเขาทนฝืนบังคับไว้เกรงว่าคงจะพุ่งออกไปตั้งนานแล้ว
เป็นดวงวิญญาณอีกดวงของอาหน่วน
หญิงผู้นี้กลับสามารถดึงดูดดวงจิตของอาหน่วนมาได้
นี่เป็นเพียงแค่เวลาไม่กี่วันเท่านั้น
เป็นไปได้หรือไม่ว่านางจะสามารถรวบรวมดวงจิตทั้งหมดของอาหน่วนมาครบได้
“นายท่าน ข้าน้อยจะเข็นท่านลงไป?”
“ไม่ ดูกันก่อนว่านางจะยังสามารถดึงดูดวิญญาณอื่นของอาหน่วนมาได้หรือไม่”
ความหวังเกิดขึ้นในใจอันสิ้นหวังของเยี่ยจิ่งหาน “ชิงเฟิงเจี้ยงเสวี่ยให้ส่งคนชั้นยอดที่สุดของแผ่นดินวิญญาณน้ำแข็งเราจะต้องจับตาดูมู่หน่วนไว้เมื่อนางดึงดูดดวงวิญญาณของอาหน่วนมาได้อีกครั้งต้องแจ้งให้ข้ารู้โดยเร็วที่สุด"
“ท่านไม่ลงไปดูนางสักหน่อยหรือ?”
“ไม่หล่ะ ดวงวิญญาณของอาหน่วนอยู่ในมือข้ามานานหลายปี แสงสุดท้ายของดวงวิญญาณที่สาบสูญไม่เคยได้สัมผัสมาโดยตลอด อย่าว่าแต่กลับมาแม้แต่ในความฝันนางก็ไม่เคยมาหาข้าบางที......ในใจนางยังคงตำหนิถือโทษโกรธข้าอยู่บ้าง”
ตำหนิที่เขาไม่ได้คุ้มครองซือม่อเฟย
ซือม่อเฟย......
เมื่อนึกถึงจอมมารในใจของเยี่ยจิ่งหานก็ปวดร้าวขึ้นในทันใด
ย้อนกลับไปในตอนนั้นผู้อาวุโสสูงสุดทุ่มเทกำลังทั้งชีวิต แม้กระทั่งยอมเสียสละชีวิตของตนถึงได้ปกป้องหัวใจของจอมมารอันน้อยนิดไว้ได้ เพื่อไม่ให้เขาสิ้นลมหายใจไป
แต่ว่าจอมมารไม่ฟื้นขึ้นสักทีราวกับผู้ที่ตายทั้งที่ยังมีชีวต
นี่ก็ช่างเถอะ
หลังจากที่จอมมารหลับไปเป็นเวลาสองปี เขาได้รับข่าวว่าจู่ๆจอมมารก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปที่ใด
หรือว่าใครนำตัวเขาที่หลับใหลไป
เผ่าหยกและเขาได้ส่งลูกน้องที่เก่งกาจที่สุดไปและค้นหาอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งปี
ดังเช่นเดิม......
หาตัวจอมมารไม่พบ
การหายตัวไปของเขาเสมือนเรื่องราวลึกลับ
ราวกับว่าจู่ๆก็หายไปในอากาศโดยไร้ซึ่งร่องรอยแม้เพียงเล็กน้อย
เยี่ยจิ่งหานจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์
ดวงวิญญาณสองดวงล่องลอยเข้าไปในร่างของกู้ชูหน่วนซึ่งก็ทำให้เยี่ยจิ่งหานตัดสินใจที่จะปกป้องคุ้มครองหญิงตรงหน้าผู้นี้ให้ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...