"ขอโทษด้วย ดึกมากแล้วและข้าก็มองอะไรไม่เห็น อีกทั้งข้าก็ไม่ได้เตะไปโดนและยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่ได้จับไปโดนด้วย"
นางไม่พูดก็ไม่เป็นไร
เมื่อพูดเช่นนี้ สถานที่แห่งนี้ไม่มีเงินสามร้อยตำลึงอย่างนั้นหรือ?
กู้ชูหน่วนอยากจะหนีออกไป แต่ก็กลัวว่าอีกฝ่ายจะคิดบัญชีกับนางในภายหลังเหมือนกับชายสวมหน้ากาก
ถึงอย่างไรเสียเขาก็สวมหน้ากากผีเสื้อเช่นกันและผู้ที่สวมหน้ากากผีเสื้อมักไม่ใช่คนดีอะไร
จากนั้นฉีกชายเสื้อออกมาชิ้นหนึ่งเพื่อปกปิดใบหน้าของตัวเองและเผยให้เห็นเพียงดวงตาทั้งคู่
นางกลับมาและอยากจะถอดหน้ากากของผู้ชายสวมหน้ากากที่อยู่ข้างล่างและไม่สามารถขยับได้
และนางพยายามอยู่หลายครั้งก็ไม่สามารถถอดออกได้
ไม่รู้ว่าวัสดุในการทำหน้ากากของเขาเป็นอะไร
ภายใต้แสงจันทร์
นางเห็นอย่างคลุมเครือว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าสวมใส่ชุดสีขาว ดูโดดเด่นและสง่างาม รูปร่างของเขาก็ดีไม่มีที่ติ
เพียงแต่แววตาของเขาเยือกเย็นเหลือเกิน ซึ่งช่างไม่เข้ากับทุกสิ่งบนร่างกายของเขาเลย
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างเขินอาย "เอ่อ......คืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เจ้าเพียงแค่ฝันไปเท่านั้น ข้าไปก่อนล่ะ เจ้าชมจันทร์ต่อไปเถอะ"
นางขยับขาและคิดอยากจะหนีออกไป
ต้นขาเล็กๆ ของนางถูกจับไว้แน่น ไม่ว่ากู้ชูหน่วนจะสะบัดอย่างไรก็ไม่เป็นผล
มือทั้งสองข้างนั้นจับไว้แน่นเหมือนกับกำแพงเหล็กยังไงยังงั้น
"จับก็จับไปแล้ว เตะก็เตะไปแล้ว ข้าไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย เจ้าจับข้าไว้ก็ไร้ประโยชน์"
"ตุ่บ......"
ในขณะที่กู้ชูหน่วนคิดอยากจะออกแรงถีบเขาออกไป ทันใดนั้นชายชุดขาวที่หล่อเหลาก็กระอักเลือดออกมา จากนั้นเขาก็หมดสติไป
เพียงแต่มือนั้นยังคงจับนางเอาไว้แน่น ไม่แม้แต่จะปล่อยนางไปเลยสักนิด
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้จงใจที่จะก่อกวนคนอื่น อีกทั้งที่นี่ก็เปล่าเปลี่ยวและห่างไกล กู้ชูหน่วนจึงใจอ่อนและประคองเขาขึ้นมา จากนั้นทำการตรวจชีพจรให้เขา
ชีพจรของเขาเต้นแรงและอ่อนแอ ขณะที่เต้นแรงมีพลังที่แข็งแกร่งแทบจะกดทับเขาให้ได้
ขณะที่อ่อนแอ แม้แต่หัวใจก็แทบจะหยุดเต้น
แม้แต่ร่างกายของเขายังมีร่องรอยบาดแผลของสะสมเป็นเวลานาน
บาดแผลในอดีตนั้นสาหัสอย่างมาก แม้ว่าเขาจะได้รับการรักษาแล้ว แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้และมักออกอาการอยู่บ่อยครั้ง
"เจ้าโชคดีอย่างมากที่ได้มาเจอข้า ไม่เช่นนั้นคืนนี้ชีวิตของเจ้าคงไม่รอดแน่"
"ขอโทษด้วย แต่หากคิดอยากจะรักษาชีวิตของเจ้าไว้ จำเป็นต้องปลดเสื้อผ้าของเจ้าออกทั้งหมด จากนั้นใช้ฝังเข็มด้วยเข็มเงินเพื่อชักนำลมปราณแท้ที่แข็งแกร่งของเจ้าออกมา"
ดึกดื่นเช่นนี้
ป่ารกร้างห่างไกลและเปล่าเปลี่ยว
กู้ชูหน่วนปลดเสื้อผ้าของเขาทีละชั้นและด้วยความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ในหัว นางใช้เข็มเงินเพื่อช่วยเขาสลายลมปราณแท้ที่ยุ่งเหยิงและไม่เป็นระเบียบ
การจัดการนี้ ใช้เวลากว่าหนึ่งคืน
กู้ชูหน่วนเหนื่อยล้าแทบไม่ไหวและผลุบหลับไปบนร่างกายของเขา
เช้าวันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้น
กู้ชูหน่วนพลิกตัวและคิดหาท่านอนที่สบายกว่า จากนั้นมือของนางก็สัมผัสไปที่สิ่งหนึ่งที่นุ่มนวล
สิ่งที่นุ่มนวลนั้นมีความอบอุ่นเล็กน้อย
นางขมวดคิ้ว
ไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดผ้าห่มถึงเปลี่ยนเป็นรูปทรงกระบอกไปได้
นางลูบสัมผัสไปมาและลืมตาขึ้นมา
และสิ่งที่เห็นตรงหน้าก็คือ ชายสวมหน้ากากผีเสื้อที่กำลังค่อยๆ ลืมตาที่เย็นชาขึ้น จากนั้นจ้องมองนางอย่างเกรี้ยวโกรธ
กู้ชูหน่วนตัวสั่นตกใจอย่างมากและตื่นขึ้นจากอาการงัวเงีย
"เจ้าตื่นแล้ว"
ร่างกายของเหวินเส่าอี๋สั่นเทาอย่างเย็นชา
หากสายตาของเขาสามารถฆ่าคนได้ เช่นนั้นกู้ชูหน่วนคงไม่รู้ถูกฆ่าตายไปกี่ครั้ง
"ข้าช่วยเจ้า เจ้าอย่าลืมบุญคุณเอาล่ะ"
"ข้าจะพูดอีกเป็นครั้งสุดท้าย นำมืออันสกปรกของเจ้าออกไป"
กู้ชูหน่วนตกตะลึงเล็กน้อย
จากนั้นขยับสายตามองลงไป
นางแทบอยากเป็นลมหมดสติไป
เหตุใดถึงจับไปที่ตรงนั้นอีกแล้ว?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...