ในมุมทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ชายหนุ่มและหญิงสาวสองคนแต่งตัวงดงามอดไม่ได้ที่จะมองไปด้านข้าง
ผู้หนึ่งคือองค์ชายแห่งราชวงศ์หยางโม่ และอีกผู้หนึ่งคือจวิ้นจู่แห่งราชวงศ์หยางมั่นราชวงศ์ซึ่งมีฐานะสูงส่งมากนมายนัก
“จุดเส้นวรยุทธชั้นที่เก้า นางได้ขึ้นถึงจุดเส้นวรยุทธขั้นที่เก้าแล้วจริงๆ” หยางโม่อุทานด้วยความตกใจ
หยางมั่นขมวดคิ้ว “จู่ๆนางก็ได้เพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ หรือว่าเมื่อก่อนแสร้งทำเป็นอ่อนแอมาโดยตลอดนะ”
ในช่วงระยะเวลาสั้นๆเช่นนี้ แม้แต่ผู้มีพรสวรรค์ที่สุดก็ยังไม่สามารถทะลวงจุดเส้นวรยุทธขั้นที่เก้าได้ในชั่วพริบตา
มีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือกู้ชูหน่วนได้ซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้โดยตลอด
เพียงแค่พวกเขาไม่เข้าใจว่านางปิดบังความแข็งแกร่งเอาไว้ไปเพื่อสิ่งใด?
ในวันนี้นิสัยที่เย่อหยิ่งของนางก็แตกต่างจากแต่ก่อนมากมายนัก
หากพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาพวกเขาคิดว่าตนเองคงจะจำคนผิดไป
สีหน้าของไป๋หลี่หมิงแปรเปลี่ยนเป็นเขียวปรี๊ด เขาก่นด่าด้วยความโมโหว่า “เศษสวะ พวกเศษสวะทั้งนั้น ยังไม่รีบถอยออกไปอีก”
เหล่าคุณชายผู้สูงศักดิ์สองสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังไป่หลี่หมิงหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า "ท่านพี่หมิง ก็เพียงแค่เศษสวะผู้หนึ่งเท่านั้นเองพวกเราช่วยท่านจัดการนางเป็นอย่างไร?"
แม้ว่าไป๋หลี่หมิงจะไม่กล่าวสิ่งใดแต่กลับยิ้มขึ้นด้วยความเห็นด้วยโดยปริยาย
คุณชายทั้งสี่ล้อมรอบกู้ชูหน่วนเอาไว้พร้อมกับท่าทีที่ไม่ต้องกล่าวก็แสดงออกในตัวมันเองอยู่ในดวงตา
“มู่หน่วนเห็นแก่ที่เจ้าพอมีความงามอยู่บ้าง เพียงแค่เจ้าคุกเข่าอ้อนวอนอย่างเชื่อฟังแล้ววันนี้ก็อยู่เป็นเพื่อนสนุกสนานกับพวกข้าไม่กี่คนบางทีพวกเราสามารถพิจารณาที่จะปล่อยเจ้าไป”
ท่าทางขยับเขยื้อนของพัดของเซี่ยวอวี่เซวียนแข็งทื่อลงบางส่วน
หลินหย่วนรู้สึกกังวลใจ
กู้ชูหน่วนกลับไม่ได้ใส่ใจจากนั้นเหลือบมองพวกเขาแล้วกล่าวคำพูดประโยคหนึ่งที่หยิ่งยโสนัก
“พวกเจ้าทั้งสี่คนปรนนิบัติข้าให้ดี บางทีอารมณ์ข้าอาจจะดีขึ้นแล้วทนฝืนที่จะปล่อยพวกเจ้าไป”
“โอหัง ก็เพียงแค่เศษสวะผู้หนึ่งเท่านั้นเอง ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเจ้าขึ้นถึงจุดเส้นวรยุทธขั้นที่เก้าเจ้าก็ยังเป็นเศษสวะผู้หนึ่ง ความแข็งแกร่งของพวกเราขึ้นถึงระดับที่หนึ่งแล้วซึ่งใช่ว่าจุดเส้นวรยุทธขั้นที่เก้าของเจ้าจะสามารถเทียบเทียมได้"
“ระดับหนึ่งยังมีขั้นสูงกลางต่ำด้วย พวกเจ้าเป็นขั้นสูงขั้นกลางหรือขั้นต่ำกันหล่ะ?”
สีหน้าของคุณชายทั้งสี่ย่ำแย่นัก
ความแข็งแกร่งของพวกเขาเป็นขั้นต่ำระดับหนึ่งอยู่แล้ว
ระดับหนึ่งขั้นต่ำนี้ยังเป็นการเพิ่มพูนขึ้นเนื่องด้วยการกินยาอายุวัฒนะจำนวนมากด้วย ไม่เช่นนั้นด้วยอายุวัยนี้ของพวกเขาขึ้นไปถึงระดับหนึ่งได้อย่างไร
“ไว้หน้าแล้วยังไม่เอางั้นก็อย่าโทษที่พวกเราไม่เกรงใจแล้ว”
คุณชายทั้งสี่คนลงมือพร้อมกันและลงมือก็ต้องการฉีกเสื้อผ้าของกู้ชูหน่วนทำให้นางขายหน้าต่อผู้คน
ร่างของกู้ชูหน่วนขยับครู่หนึ่งก็เกรงว่าจะเกิดเสียงเพี๊ยะๆๆๆตรงปากดังขึ้นมา
จากนั้นกู้ชูหน่วนก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหลือไว้เพียงคุณชายทั้งสี่คนที่ปะทะเข้าด้วยกันโดยที่บนใบหน้าของแต่ละคนมีรอยตบอันชัดเจน
ช่างรวดเร็วว่องไวนัก......
ความว่องไวนี้เทียบได้กับขั้นสูงระดับหนึ่งเลยกระมัง
แล้วก็มองดูคนทั้งสี่คนนั้น แม้ว่าวรยุทธของพวกเขาจะทั่วๆไปแต่เช่นไรพวกเขาก็เป็นระดับหนึ่งแล้วเหตุมใดถึงได้ถูกตีได้น่าอนาถเช่นนั้นได้
ที่สำคัญคือสี่ต่อหนึ่ง......
นี่......ช่างน่าขายหน้าเกินไปแล้ว
คุณชายสี่คนนั้นก็รู้สึกน่าอายมากมายเช่นกัน ในขณะที่กำลังต้องการดึงอาวุธออกมาจัดการกับกู้ชูหน่วน กางเกงของพวกเขาก็ฉีกขาดไปหมดเลย
ชู่ว์......
มีชายหญิงจำนวนนับไม่ถ้วนมองดูกันอยู่ที่นี่
แม้ว่าพวกเขาจะรักอิสระเพียงใดก็อดที่จะหน้าแดงขึ้นไม่ได้
แต่ละคนปกปิดร่างกายท่อนล่างเอาไว้อย่างรวดเร็วและรีบวิ่งหนีไปโดยที่ในใจนั้นต้องการสับกู้ชูหน่วนให้เป็นชิ้นๆ
เซี่ยวอวี่เซวียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น ได้ปรากฏรอยยิ้มผ่านตรงมุมปากไป
ไป๋หลี่หมิงโมโหยิ่งนัก เขาชี้ไปยังทหารคุ้มกันติดตามตัวที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ
ความแข็งแกร่งของทหารคุ้มกันเหล่านี้สูงกว่าแต่ก่อนมากมายนัก โดยพื้นฐานแล้วอยู่ขั้นกลางระดับหนึ่งกันทั้งสิ้น
ทหารคุ้มกันได้ยินเข้าคนยังไม่ฝ่ามือก็ได้มาถึงก่อนซะแล้ว
หูของกู้ชูหน่วนขยับ
ร่างนั้นลอยขึ้นไปในอากาศพร้อมด้วยหมัดอันดุดันหมัดหนึ่งก็ซัดเข้าไปยังทหารคุ้มกันผู้หนึ่ง
"ตุ๊บ......"
หมัดทั้งสองชนกันทำให้เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น
กู้ชูหน่วนถอยหลังไปสองสามก้าวแต่ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บสาหัสให้เห็นได้ชัด
ทหารคุ้มกันมีทั้งหมดสองคน
นางพลิกฝ่ามือแล้วซัดหมัดไปยังทหารคุ้มกันอีกคนหนึ่งอีกครั้ง
"ตุ๊บ......"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...