กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 841

“พวกเจ้าสองคนพาพวกนางไปเอาผลหนิวโหยว”

“ไต้อ๋อง เหตุใดถึงเป็นเราสองคนไปเอา?”

“เจ้าไม่เห็นหรือว่าข้าถูกย่างสุกไปหกส่วนแล้ว? ข้าจะต้องไปจัดการกับบาดแผลเสียก่อน”

กระทิงไฟสี่เขาสองตัวพูดด้วยความรู้สึกไม่เป็นธรรม

“ไต้อ๋อง ข้าก็ถูกย่างไปห้าส่วนแล้ว ท่าทางช่างน่าเกลียดยิ่งนัก”

"ข้าย่ำแย่กว่าข้าสุกไปเจ็ดส่วนแล้ว"

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลียปากแล้วจ้องไปยังกระทิงไฟสี่เขาอด้วยสายตาตะกละตะกลาม ซึ่งจ้องมองเสียจนในใจพวกเขารู้สึกขนลุกเลยโดยตรง

พวกเขาไม่ต้องการอยู่กับราชางูเหลือมเลยจริงๆ

สีหน้ากระทิงไฟเก้าเขาเปลี่ยนไป “พวกเจ้าโง่เขลานัก พวกเจ้ามีหน้าที่นำพวกเขาไปข้างต้นหนิวโหยวแล้วบอกกับพี่น้องคนอื่นๆว่าอย่าได้ทำให้พวกเขาอึดอัดใจก็พอแล้ว”

“นี่......เอาเถอะ......”

กระทิงไฟสี่เขาสองตัวนำกู้ชูหน่วนกับเซี่ยวอวี่เซวียนไปถึงข้างๆต้นหนิวโหยวด้วยความราบรื่นตลอดทาง

ระหว่างทางที่ผ่านมีซากศพบัณฑิตของสำนักศึกษาอี้เหอและซากกระทิงชั้นต่ำอยู่บ้างนอนอยู่บนพื้น ฉากนั้นยุ่งเหยิงวุ่นวายและคราบเลือดเป็นจุดๆ

ดูออกว่าเพื่อหนิวโหยวหนึ่งต้นทั้งสองฝ่ายเสียหายหนักหนายิ่งนัก

กระทิงไฟสี่เขาก่นด่าและสาปแช่งบัณฑิตของสำนักศึกษาอี้เหอไม่หยุด

ในที่สุด......

พวกเขาเห็นบัณฑิตลูกศิษย์หลายสิบคนจากสำนักศึกษาอี้เหอซึ่งนำโดยไป๋หลี่หมิงกำลังต่อสู้อยู่กับเหล่าฝูงกระทิง ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกันและก็ได้รับบาดเจ็บกันทั่ว

เจ้ารองเจ้าสามเผชิญฝูงกระทิงร้องมอๆๆอยู่สักพักหนึ่ง

ก็ไม่รู้ว่ากำลังพูดคุยสิ่งใดกัน ฝูงกระทิงที่กำลังต่อสู้อยู่อย่างดุเดือดต่างก็ถอยออกไปพร้อมจ้องไปยังบัณฑิตทั้งหลายไกลๆ

กู้ชูหน่วนกับเซี่ยวอวี่เซวียนเดินไปยังสนามรบอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา จากนั้นก็เดินไปทางต้นอะโวคาโด

ต้นหนิวโหยวยงหนึ่งเมตรเศษเท่านั้น และบนต้นมีผลห้อยอยู่เพียงผลเดียวเท่านั้นซึ่งเขียวเป็นเงามันวาว เปลือกไม่ค่อยดีแต่ว่ารอบๆผลได้กลิ่นอันรุนแรงออกมา

ไป๋หลี่หมิงอุทานว่า “เป็นพวกเจ้าสองคนอีกแล้ว เหตุใดพวกเจ้าสองคนถึงยังไม่ตาย”

“เจ้ายังไม่ตายเลยแล้วพวกเราจะกช้าตายก่อนได้อย่างไร”

กู้ชูหน่วนไม่ได้มองเขาเลยแม้แต่น้อยเพียงแค่มาถึงยังด้านข้างของต้นผลไม้พร้อมกับเอื้อมมือออกไปหยิบผล

ซั่งกวนหมิงหลานหัวเราะเยาะแล้วกล่าวว่า “ซื่อบื้อ ผลหนิวโหยวเด็ดได้ง่ายเช่นนั้นหรือ? ไม่เห็นอสุรกายระดับต่ำจับจ้องมองอย่างดุร้ายหรือ?”

“นางต้องการรนหาที่ตายเอง เหตุใดพวกเราถึงต้องขวางไว้ด้วย”

“ช่างไม่รู่จักหวาดกลัวเลยจริงๆ กระทิงอสูรแต่ละตัวแต่ละเขาเหล่านี้สามารถเหยียบย่ำนางจนแหลกเป็นชิ้นๆ ทุกคนมารอดูนางถูกเหยียบจนตายกันเถอะ”

เมื่อกล่างจบกู้ชูหน่วนก็ได้ผลหนิวโหยวมาอย่างง่ายดายแล้วยังโบกมือให้พวกเขาด้วย

อสูรกระทิงทั้งหลายเหล่านั้นไม่ได้ขัดขวาง เพียงแค่มองดูผลหนิวโหยวในมือของนางเป็นแถวอยู่ด้านหนึ่งพร้อมกับน้ำลายไหล

นี่......

นี่เกิดเรื่องอันใด?

เหตุใดอสูรกระทิงถึงไม่โจมตีพวกเขา?

พวกเขาคิดว่าอสูรกระทิงกำลังอั้นกระบวนท่าร้ายกาจอันใดอยู่

คิดไม่ถึงว่ากู้ชูหน่วนได้กินผลหนิวโหยวไปในคำเดียวเลยโดยตรงแล้วยังขมวดคิ้วด้วยความรังเกียจ

"ทั้งขมทั้งฝาด ไม่อร่อยเลยแม้แต่น้อย"

นี่......

นี่เกิดเรื่องอันใด?

ไป๋หลี่หมิงชี้ไปยังกู้ชูหน่วนแล้วตะโกนว่า "นางกินผลไม้ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้าไปเหตุใดถึงไม่สังหารนางหล่ะ?"

เมื่อเหล่าอสูรกระทิงได้ยินคำพูดของไป๋หลี่หมิงไม่เพียงไม่โจมตีกู้ชูหน่วนแต่พวกกลับถอยออกไปอย่างพร้อมเพรียงกัน และก็หายตัวไปจากสายตาของทุกคนในชั่วพริบตา

ทุกๆคนสับสนวุ่นวายไม่ประจักษ์ในเหตุผล

“มู่หน่วน เจ้าคายผลผลหนิวโหยวออกมา นั่นพวกเราได้ค้นพบก่อนนะ”

“ข้ากินลงไปในท้องแล้ว หากว่าคายออกมาจริงๆ เจ้ากล้ากินหรือ?”

"เจ้า......เจ้านี่มันหญิง ข้าจะฆ่า......"

“ฆ่าศิษย์สำนักเดียวกันอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา แพร่ออกไปเกรงว่าเจ้าจะถูกถีบออกจากสำนักศึกษาอี้เหอกระมัง”

"เจ้า......"

ทุกๆคนต่างรู้สึกไม่เป็นธรรม

พวกเขาต่อสู้สุดชีวิตเพื่อสิ่งใดกัน?

ไม่ใช่เพื่อให้ได้ผลผลหนิวโหยวมาหรอกหรือ แต่ตอนนี้พวกเขากลับถูกเศษสวะผู้หนึ่งกินไปต่อหน้าต่อตาตนเอง แล้วพวกเขาจะรู้สึกเป็นธรรมได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนนั่งขัดสมาธิพร้อมกับความเคลื่อนไหวของอากาศบนท้องฟ้าเล็กน้อย แต่จุดตันเถียนนั้นว่างเปล่าไม่มีวี่แววของการทะลวงเลยแม้แต่น้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์