กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 869

น่ากลัว

ช่างน่ากลัวยิ่งนัก

ไป๋หลี่เจิ้นเป็นถึงระดับสี่ ภายใต้วิชาชั่วร้ายเช่นนี้ก็ทำได้เพียงถูกฆ่าตามใจนางเท่านั้น

หากว่าเป็นพวกเขาเช่นนั้นก็คงจะไม่ใช่ว่า......

สายตาที่ทุกคนมองไปยังกู้ชูหน่วนก็หวาดกลัวเพิ่มขึ้นบ้างบางส่วน

ทุกๆคนคิดว่ากู้ชูหน่วนเป็นอันดับหนึ่งของการชุมนุมมอบรางวัลในวันนี้ แม้แต่ตระกูลมู่ก็ไม่เว้น

แทบทุกคนในตระกูลมู่ได้มาเข้าร่วมการชุมนุมมอบรางวัลด้วยความภาคภูมิใจและเตรียมพร้อมมาดูว่ามู่หน่วนจะโด่งดังไปทั่วใต้หล้าอย่างไร

แต่ว่าเช่นไรพวกเขาก็ไม่ได้คาดคิดมากอนเลยว่าเรื่องราวจะแปรเปลี่ยนไปเป็นเช่นนี้

มู่ซินเป็นคนแรกที่ไม่เชื่อ เขานั่งอยู่บนรถเข็นและกล่าวอย่างเป็นกังวลว่า “ท่านพ่อ อาหน่วนไม่ทำเรื่องเช่นนี้เป็นแน่”

ผู้นำตระกูลมู่สีหน้าหนักอึ้ง

เขาเองก็ไม่เชื่อ......

แต่ว่าความจริงอยู่ตรงหน้า......

หากว่าอาหน่วนรู้วรยุทธ์วิชาชั่วร้ายเช่นนั้นจริงๆ งานชุมนุมมอบรางวัลในวันนี้จะกลายเป็นงานชุมนุมต่อสู้กันไปแล้ว?

เช่นไรก็ไม่มีผู้ใดเลยสักคนหวังให้วรยุทธ์นิกายชั่วร้ายเช่นนี้มีอยู่ในใต้หล้า

นี่ช่างข่มขู่พวกเขามากเกินไปแล้ว

ผู้นำรองกับผู้นำสามกล่าวว่า "ท่านพ่อ แม้ว่าอารมณ์ของอาหน่วนจะแปรเปลี่ยนไปมากตั้งแต่ฟื้นคืนจากความตาย แต่ว่านางเป็คนเช่นไรพวกเรานั้นรู้ดี นางจะใช้เวทมนตร์ทำร้ายคนเรื่อยเปื่อยได้อย่างไร? ไม่งั้นพวกเราขึ้นไปชี้แจงให้ชัดเจนแทนนางสักหน่อย?”

“ชี้แจงอันใดกันดูไปก่อน พวกเจ้ารู้ชัดเจนว่านางเป็นคนเช่นไรก็ไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นก็จะรู้ชัดว่านางเป็นคนเช่นไร”

หนิงเทียนโย่วถามกู้ชูหน่วนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า "อาหน่วนที่พวกเขาพูดเป็นความจริงหรือ? เป็นเจ้าจริงๆ......ที่สังหารไป๋หลี่เจิ้นหรือ?"

กู้ชูหน่วนเงยหน้ามองไป นางมองเห็นความวิตกกังวลของตระกูลมู่

มองเห็นความวิตกกังวลของท่านผู้เฒ่าหนิง หนิงเทียนโย่วและหลินซือหย่วน

เมื่อเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นดังเดิมของผู้นำตระกูลเหวินที่สายตานั้นไม่ขยับเขยื้อน

เห็นความเกลียดชังของตระกูลไป๋หลี่

เห็นความหวาดกลัวและไม่น่าเชื่อของทุกคน

นางรู้ว่า

ถึงแม้ว่านางจะไม่เชื่อแต่ตระกูลไป๋หลี่ก็ยังคงสามารถนำหลักฐานมากมายออกมาพิสูจน์

และ......

พลังเวทย์มนตร์คืนร่างเดิมนี้ทรงพลังจริงๆ

ยังสามารถเรียกคืนสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฉากๆได้จริงๆ

ไม่รอให้กู้ชูหน่วนกล่าวไป๋หลี่เฉิงก็กล่าวว่า "แน่นอนว่าเป็นความจริง วิชาฟื้นฟูกลับสู่สภาพจุดเดิมของผู้นำตระกูลของเรายังจะเป็นเท็จหรือ?"

ท่านผู้เฒ่าหนิงขยิบตาให้กับกู้ชูหน่วน “เจ้าเด็กหน่วนเจ้าไม่ต้องกลัวข้าจะคอยสนับสนุนเจ้า เพียงแค่เจ้าบอกว่าเจ้าไม่ได้ทำ ตระกูลหนิงของเราจะไม่ยอมให้ผู้ใดปรักปรำเจ้า”

คำพูดนี้ของผู้เฒ่าหนิงเป็นการเผยต่อกู้ชูหน่วนอย่างไม่ต้องสงสัย

เพียงแค่นางพูดคำหนึ่งเรื่องนี้ตระกูลหนิงก็สามารถจัดการให้นางได้

เสียงของผู้นำรองกับผู้นำสามของตระกูลมู่ก็ๆด้ดังกึกก้องขึ้นมาตรงกลางสนาม

“ใช่สิ อาหน่วนเจ้ารีบบอกพวกเขาโดยเร็ว เจ้าไม่ได้ฆ่าคนและก็ยิ่งไม่เป็นวิชาชั่วร้ายเหล่านั้น”

ในใจกู้ชูหน่วนเข้าใจ

เรื่องราวในวันนี้เกรงว่าจะไม่ได้เป็นไปด้วยดีเสียแล้ว

ไม่มีตระกูลใดต้องการให้มีคนรู้วิชาชั่วร้ายดูดวรยุทธ์

ตระกูลไป๋หลี่ก็ยิ่งไม่ยอมปล่อยนางไปง่ายๆ

จริงตามนั้น......

บางนิกายที่สังกัดกับตระกูลไป๋หลี่เริ่มหาเรื่องก่อน

“หากว่านางไม่รู้วิชาชั่วร้ายเหล่านั้นแล้วจะแปรเปลี่ยนนิสัยไปมากได้ก็อย่างไร แล้วจู่ๆก็ทะยานจากระดับหนึ่งของจุดเส้นวรยุทธ์ไปถึงระดับสามได้อย่างไร นั่นเป็นถึงระดับสามนะ เทียบได้กับซั่งกวนอวิ๋นหลางคงอยู่"

“ในความเห็นของข้าวรยุทธ์ของนางสามารถพุ่งทะยานได้ร้ายกาจเช่นนี้ ส่วนใหญ่ก็อาศัยการดูดเลือดผู้มีวรยุทธ์ถึงเพิ่มพูนขึ้นได้ นางเป็นนางมารผู้หนึ่งทุกคนจะต้องระวังตัว อย่าได้ถูกนางดูดวรยุทธ์ออกไปนะ"

ประโยคนี้ปลุกทุกคนในที่นั้นให้ตื่น

ทุกคนต่างออกห่างจากนางเนื่องจากกลัวว่าจู่ๆนางจะลงมือ

กู้ชูหน่วนกางมือแล้วยิ้มอย่างขมขื่น “พวกเจ้าได้เตรียมหลักฐานมาเป็นอย่างดี ข้ากล่าวสิ่งใดพวกเจ้าจะเชื่อหรือ?”

“เป็นเจ้าจริงๆ วรยุทธ์ทั้งร่างของเจ้าพุ่งสูงขึ้นโดยอาศัยวิชาชั่วร้ายจริงๆ พูดมา เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่? เหตุใดถึงได้รู้จักวิชาชั่วร้ายเหล่านี้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์