"ฝ่าบาท ฝ่าบาททรงโปรดไตร่ตรองอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ"
"ชู่ว......หยุดพูด ให้ข้าได้ลิ้มลองรสชาติของเจ้าเถอะ"
เมื่อเห็นว่าจักรพรรดินีค่อยๆ ขยับเดินเข้าไปใกล้ทีละนิดและปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเขาที่เดิมทีก็บางเบาอยู่แล้ว ทำให้ซั่งกวนหมิงหลางหัวใจเต้นแรงมาก
ตั้งแต่เล็กจนโจ เขาไม่เคยได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้หญิงมากเช่นนี้มาก่อนเลย
ตอนนี้กลับได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงด้วยวิธีการเช่นนี้......
อีกทั้งข้างกายของเขายังมีผู้ชายคนอื่นอีก
เขาจะเรื่องนี้ได้อย่างไรกัน
"เหตุใดถึงต้องตื่นเต้นเช่นนี้ เพียงแค่เจ้าเชื่อฟังข้า ข้าสัญญาว่าจะอ่อนโยนต่อเจ้า"
ซั่งกวนหมิงหลางดิ้นรน
เขาต้องการหนีไปจากจักรพรรดินีให้ไกลที่สุด
แต่กลับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้เลยแม้แต่นิด
ความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนกับปลาที่รอการฆ่าบนกระดานเหนียว ซึ่งไม่เป็นที่น่ายินดีนัก
เมื่อร่างกายเย็นลง
ซั่งกวนหมิงหลางหลับตาลงอย่างทุกข์ทรมาน
หากสามารถฆ่าตัวตายได้ เขาคิดจะฆ่าตัวตายตอนนี้ ซึ่งดีเสียกว่าถูกกระทำอย่างไร้ยางอายเช่นนี้
ทว่าตระกูลซั่งกวน......ไม่สามารถก่อเรื่องบาดหมางต่อจักรพรรดินีได้
เขาไม่สามารถพูดจาหยามเกียรติ เพราะเขาถือเป็นตัวแทนของตระกูลซั่งกวนทั้งตระกูล
ซั่งกวนหมิงหลางหายใจด้วยความอ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงอย่างสุดซึ้ง
ไม่รู้ว่าเพราะจักรพรรดินีหายใจแรงเกินไปหรือไม่
หรือเป็นเพราะฝูกวงหายใจแรงเกินไป
ทำให้เสียงของฮวาอิ่งค่อยๆ ดังขึ้น
"ไม่ต้องเป็นห่วง รอให้ข้าโปรดปรานบำเรอเขาเสร็จแล้ว ก็จะมาโปรดปรานเจ้าต่อ เสี่ยวฝูกวง เจ้าอย่าได้รีบร้อนไปเลย"
ซั่งกวนหมิงหลางคาดหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้น เช่นเดียวกับปาฏิหาริย์คืนวันนั้นที่จักรพรรดินีต้องการโปรดปรานบำเรอเขา แต่กลับไม่มา
ทว่า......
กลับไม่มีปาฏิหาริย์ตามความต้องการของเขา
มีเพียงฮวาอิ่งเท่านั้นที่ครอบคลุมบนร่างกายของเขา
"ซี๊ด......"
เมื่อรู้สึกเจ็บไหล่ ก็กลับเห็นว่าฮวาอิ่งกำลังกัดที่ไหล่ของเขาอย่างบ้าคลั่ง
"หวาน......หวานมากเหลือเกิน เลือดของยอดฝีมือระดับสามขั้นสูงสุดช่างแตกต่างและวิเศษเหลือเกิน ข้าไม่ได้ลิ้มรสเลือดสดรสชาติอร่อยเช่นนี้มานานมากแล้ว"
ซั่งกวนหมิงหลางเงยหน้าขึ้น ทว่าสิ่งที่ประทับติดตาเขาคือสายตาที่กระหายเลือดของฮวาอิ่งคู่นั้น
เมื่อกะพริบตาแล้วยังเห็นสายตาเช่นนี้ ทำให้ซั่งกวนหมิงหลางสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
เป็นสายตาที่น่าหวาดกลัวอย่างมาก
ราวกับต้องการเลาะกระดูกฉีกเนื้อหนังของผู้อื่นยังไงยังงงั้น
เขารู้สึกว่าจักรพรรดินีน่าสะพรึงกลัวกว่าที่เขาคิดไว้อย่างไร้เหตุผล
ความน่าสะพรึงกลัวเช่นนี้สามารถทำลายล้างโลกใบนี้ได้
"ทำอย่างไรดี ข้าอดใจไม่ไหวแล้ว......"
"ปล่อยมือ ปล่อยข้าน้อยเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ......"
ซั่งกวนหมิงหลางดิ้นรนอย่างทุกข์ทรมานเพื่อต่อต้านการรุกล้ำลึกเข้าไปเรื่อยๆ ของจักรพรรดินี
ฝูกวงก็อดร้อนใจแทนเขาไม่ได้
ทว่าตัวเขาเองก็แทบเอาตัวไม่รอด
เช่นนั้นจะไปปกป้องเขาได้อย่างไร?
ผู้หญิงบ้าคลั่งคนนี้ไม่ทรมานให้เขาต้องเลือดตกยางออกก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
หากถูกพระนางทรมานเช่นเดียวกับฝูกวงเช่นนั้น เขาไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าจะอดทนต่อไปได้หรือไม่
"ติ่ง......"
มีน้ำตาไหลออกมาจากมุมตาของซั่งกวนหมิงหลาง
เฝ้ารอให้จักรพรรดินีกระทำการขั้นตอนสุดท้ายอย่างไร้สิ้นความหวัง
ทันใดนั้น ภายนอกประตูก็เกิดเสียงฝีเท้าดังขึ้น จากนั้นขันทีคนหนึ่งจึงรีบกล่าวว่า
"ฝ่าบาท เกิดเรื่องใหญ่แล้วพ่ะย่ะค่ะ คุณชายเยี่ยป่วยหนักพ่ะย่ะค่ะ"
คำพูดเพียงคำเดียว ทำให้การกระทำของฮวาอิ่งหยุดชะงักลง
"ป่วยหนัก? หมอจินอยู่เฝ้าดูอาการของเขาตลอดเวลาไม่ใช่หรือ?"
"พ่ะย่ะค่ะ......เมื่อช่วงเช้าตรู่หมอจินได้ทำการรักษาขาให้กับคุณชายเยี่ย จากนั้นทำการทุบตีกระดูกเข่าของคุณชายเยี่ยจนแตกเป็นเสี่ยงๆ คุณชายเยี่ยอดทนไม่ไหวและเป็นลมหมดสติไปหลายครั้ง ตอนนี้......ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดถึงมีอาการไข้สูงไม่ลด อาเจียนออกมาไม่หยุด หมอหลวงกล่าวว่า เกรงว่าคุณชายเยี่ยจะทนต่อไปไม่ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"
"หมอจินล่ะ?"
"หมอจินเหน็ดเหนื่อยติดต่อกันมาหลายวัน หมด......หมดสติไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ......"
ดูเหมือนว่าขันทีจะไม่กล้าพูดมากไปกว่านี้
เขาเกรงว่าหากฝ่าบาทโกรธเกรี้ยวขึ้นมาและฆ่าหมอจินไปเสีย แม้แต่เขาเองก็ต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย
เดิมทีฮวาอิ่งคิดอยากจะเก็บรวบรวมหยางบำรุงอินวันนี้ และดูดเลือดของฝูกวงและซั่งกวนหมิงหลางออกมาให้หมดก่อน จากนั้นค่อยๆ ทรมานลั่วอิ่งและเซี่ยวอวี่เซวียน เพื่อจะได้พุ่งไปสู่วรยุทธ์ระดับเจ็ด
ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นกับเยี่ยจิ่งหาน
นางไม่ต้องการให้เกิดปัญหาติดขัดขึ้นกับเรื่องใหญ่ที่จะดำเนินการในวันนี้เพราะเรื่องของเยี่ยจิ่งหานเป็นเหตุ
จักรพรรดินียังคงไม่สนใจต่อคำพูดของขันที
ยังคงถลำลึกลงไปข้างล่าง
ขันทีอีกคนหนึ่งรีบร้อนวิ่งเข้ามา เขาไม่รู้ถึงความคิดของฮวาอิ่งและกล่าวตะกุกตะกักออกมา "ฝ่าบาท คุณชายเยี่ยกระอักเลือดออกมาอีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ หมอหลวงกล่าวว่าจะมีชีวิตอยู่ไม่เกินคืนนี้แล้วพ่ะย่ะค่ะ"
ฝูกวงรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายใจอย่างมาก
คุณชายเยี่ย?
เยี่ยจิ่งหานที่อยู่ในหอดาบ?
สามีของนายท่าน?
เหตุใดถึงบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนั้น?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...