กู้ชูหน่วนกล่าวว่า "ลั่วอิ่งเล่า?ทำไมถึงไม่เห็นเขาเลย?"
"พวกเราถูกบังคับให้แยกกัน ข้าเองก็ไม่รู้ว่าลั่วอิ่งอยู่ที่ไหน"
"ข้าเตรียมการไว้แล้ว วันมะรืนนี้ข้าจะส่งเจ้าออกไปจากในวัง เจ้ารอฟังข่าวจากข้า ส่วนลั่วอิ่ง ข้าจะหาเขาให้พบ"
"ในวังมีการรักษาการณ์อย่างเข้มงวด พวกเราสูญเสียวรยุทธ์ แล้วจะออกไปได้อย่างไร?จักรพรรดินีผู้นั้นไม่ธรรมดาเลย"
"ต้องลองดู นี่เป็นเพียงโอกาสเดียว หากไม่พบลั่วอิ่ง เช่นนั้นเจ้าก็หนีไปก่อน"
หากลั่วอิ่งอยู่ด้วยกันกับเขาก็คงจะดี แต่ทั้งสองคนแยกกัน
นางยังต้องเสียเวลาตามหาลั่วอิ่งอีก
นางไม่รู้ว่าจักรพรรดินีต้องการจะทำอะไร
นางรู้เพียงว่าจักรพรรดินียังไม่ต้องการให้นางตายในตอนนี้
นางปลอมตัวเป็นหมอ จักรพรรดินีก็น่าจะรู้เรื่องนี้แล้ว
ลองดูซิว่าจักรพรรดินีจะปล่อยไปตามน้ำอีกหรือไม่
"แล้วแม่กู่......"
"เจอแม่กู่แล้ว แต่ยังมีเรื่องที่จัดการได้ยาก"
ฝูกวงอยากจะบอกว่าเขาต้องการจะจากไปพร้อมกับลั่วอิ่ง
ลั่วอิ่งยอมเสียสละความบริสุทธิ์เพื่อเขา เขาจะทิ้งลั่วอิ่งไว้ได้อย่างไร
แต่เขากับมู่หน่วนไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เป็นการดีที่ผู้อื่นเต็มใจจะช่วยเขา แล้วเขายังจะร้องขออะไรอีก
ซั่งกวนหมิงหลางกล่าวว่า "แล้วข้าเล่า?"
"เจ้ามีตระกูลซั่งกวนค่อยหนุนหลังมิใช่หรือ?หากเจ้าหนีไปแล้ว เจ้าไม่กลัวว่าจักรพรรดินีจะลงโทษตระกูลซั่งกวนหรือ?"
ความหมายของกู้ชูหน่วนคือเจ้าอยู่ในวังต่อไปเถอะ
สีหน้าของซั่งกวนหมิงหลางดูไม่น่ามอง
เป็นเพราะการถอนหมั้น นางจึงปฏิบัติต่อเขาเช่นนี้งั้นหรือ?
ในหอดาบ
ฮวาอิ่งไล่ทุกคนออกไปและนั่งลงบนเตียง นางมองใบหน้าที่ซีดขาวและอ่อนแรงของเยี่ยจิ่งหาน
นางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเยี่ยจิ่งหานจะเหมือนเขามากขนาดนี้
เมื่อมองลงไปที่ขาทั้งสองข้างของเยี่ยจิ่งหาน ที่พันด้วยผ้าพันแผลสีขาวไว้อย่างหนาแน่น และผ้าพันแผลก็ยังเปื้อนเลือดสีแดงสด
ฮวาอิ่งลูบผมที่หน้าผากของเยี่ยจิ่งหาน และกล่าวเบาๆ ว่า "อย่าโทษข้า หากจะโทษก็โทษที่เจ้าไม่ควรเกิดมา หากจะโทษก็โทษที่เจ้าไม่ควรชอบเจ้าเด็กโสโครกนั่น ข้าเป็นคนทำให้เจ้าเกิดมา เจ้าควรจะตอบแทนข้า ข้าดูดวรยุทธ์ของเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่เจ้าควรตอบแทน"
แม้ว่าเยี่ยจิ่งหานจะหมดสติ แต่คิ้วรูปดาบของเขาก็ยังคงขมวดแน่น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเจ็บปวดมากหรือไม่
เขาพูดเพ้ออย่างไม่รู้ตัว "อาหน่วน.....อาหน่วน......"
"อาหน่วน......เหอะ......ช่างสนิทสนมเสียจริง เจ้าไม่ต้องห่วง เจ้าไม่มีทางที่จะได้อยู่กับนางตลอดไป ต่อให้ตาย ข้าก็จะไม่ยอมให้พวกเจ้าสองคนถูกฝังไปพร้อมกัน และยิ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่วิญญาณของพวกเจ้าจะได้พบกัน"
นางยิ้มอย่างเคร่งขรึม "เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงยอมให้นางรักษาเจ้า?หญิงผู้นั้นวางยาพิษจากใบไม้โลหิตลงบนตัวเจ้า เพื่อให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อไป จนกระทั่งตอนนี้พิษจากใบไม้โลหิตก็ยังคงอยู่ในร่างของเจ้า หากข้าดูดเลือดของเจ้า เลือดพิษก็จะมาอยู่ในร่างของข้า และจะเป็นการกำจัดเลือดพิษของเจ้า แล้วจะมีประโยชน์อะไรกับข้า"
"หากต้องการจะกำจัดเลือดพิษ ก็ต้องรักษาขาของเจ้าให้หาย ข้ารู้ว่าเจ้าต้องรอด ข้าจึงรอให้ขาของเจ้าหายดีเสียก่อน"
ฮวาอิ่งจ้องมองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของเยี่ยจิ่งหาน
ไม่รู้ว่าจ้องมองอยู่นานแค่ไหน ก่อนที่จะจากไป
หลังจากที่นางจากไปแล้ว เยี่ยจิ่งหานก็ลืมตาขึ้น
นัยน์ตาอันล้ำลึกคู่นั้นดูสับสน
จักรพรรดินีรู้ได้อย่างไรว่าเขาถูกพิษร้ายจากใบไม้โลหิต?
นางรู้ว่าใครเป็นคนวางยาพิษจากใบไม้โลหิตกับเขา?
นางรู้เรื่องเกี่ยวกับเขาดีขนาดนี้ หรือว่านางจะเป็นคนของดินแดนเยี่ยอวี่?
เดิมทีเยี่ยจิ่งหานคิดว่าจักรพรรดินีไม่ธรรมดา และในตอนนี้คำพูดของนางก็ยิ่งทำให้เขามั่นใจมากขึ้น
เพียงแต่เขาคิดไม่ออกว่าจักรพรรดินีเป็นใคร
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคำพูดนั้นของนาง
ข้าเป็นคนทำให้เจ้าเกิดมา......
ทำให้เขาเกิดมางั้นหรือ?
ในตำหนักเฟิ่งอี๋
จักรพรรดินีเรียกกู้ชูหน่วนมาเข้าเฝ้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...