ไม่รอไป๋หลี้ป้าลงมือ แสงดาบของลั่วอิ่งแฉลบผ่านขาข้างซ้ายของไป๋หลี่ป้าอีก จนได้แผลอยู่หลายแผลเลยทีเดียว
ผิวเนื้อขาข้างหนึ่งถูกตัดหั่น ขาข้างหนึ่งถูกฟาดฟันไม่รู้กี่รอยบาดแผล ไป๋หลี่ป้านั้นค้ำจุนยื้อไม่ไหวแล้ว เลยคุกเข่าลงตรงนั้นเสียเลย
“ท่านพูดให้มันดีๆนะ ข้าอาจจะให้ท่านตายอย่างสุขใจ หากท่านยืนกรานที่จะไม่บอก ข้ารับรองว่าท่านจะต้องเสียใจภายหลังที่มาโลกใบนี้อย่างแน่นอน”
ไป๋หลี่ป้าคิดอยากจะต่อต้านเหมือนเดิม แต่ร่างกายไม่รู้ว่าทำไมถึงแข็งทื่อ แข็งจนแรงที่เขาจะยกมือขึ้นยังไม่มีเลย ความรู้สึกแบบนี้เหมือนถูกแช่แข็งเกาะตัวหลายร้อยปีทีเดียว
“เหอะ….ท่านไม่ต้องดิ้นรนแล้วล่ะ ท่านนึกว่าตนเองเพียงแค่ถูกพิษร้ายแรงกับแมงมุมพิษหรือ? ข้าบวกยาไปหนึ่งตัว ยานี้จะทำให้คนตัวแข็งทื่อไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ยาตัวนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าเป็นชั้นต้นระดับหก ต่อให้เป็นชั้นสูงสุดระดับหก ก็ยากที่จะทำลายแก้ได้”
“อีกอย่าง…..ท่านเป็นเพียงชั้นต้นระดับหกที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสได้รับพิษ….”
ไป๋หลี่ป้าตื่นตะลึง คิดไม่ถึงว่าเขาที่เป็นผู้นำตระกูล คิดไม่ถึงว่าจะแพ้เด็กที่เขาดูถูกที่สุดคนนี้
ไป๋หลี่ป้าได้ยินเสียงร้องเข่นฆ่าค่อยๆดังมาแต่ไกล ภายในใจเลยมีความหวังริบหรี่อยู่
ความหวังริบหรี่ที่คิดว่าผู้อาวุโสของตระกูลไป๋หลี่หรือผู้อาวุโสสูงสุดจะมาช่วยเขานั่นเอง
ไม่นาน ฝูกวงก็ได้ทำลายความหวังอันริบหรี่ของเขาเสียแล้ว
“แม่นางมู่ ลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่มีทั้งล้มตาย และบาดเจ็บ ไม่มีคนสามารถหลบหนีออกไปได้ ทั้งหมดได้ถูกควบคุมหมดแล้ว”
“ผู้อาวุโสกับเหล่าผู้อาวุโสสูงสุดเหล่านั้นก็ถูกพวกเราสังหารพอประมาณแล้ว เหลือเพียงไป๋หลี่เฉิงหยวนกับผู้อาวุโสสูงสุดไม่กี่คน แต่อย่างไร….พวกเขาล้วนหนีไปไม่ได้หรอก คนของพวกเราได้ล้อมรอบพวกเขาหมดแล้ว”
“หลังจากค่ำคืนนี้ผ่านไป บนโลกใบนี้จะไม่มีตระกูลไป๋หลี่อีกแล้ว”
คำที่พูดว่าหลังจากค่ำคืนนี้ผ่านไป บนโลกใบนี้จะไม่มีตระกูลไป๋หลี่อีกแล้ว มันทำให้ใบหน้าของไป๋หลี่ป้าเขียวอึมครึมอย่างมาก
เขากล่าวด้วยความเดือดดาลขึ้นว่า “ไม่มีทาง ไม่มีทางเด็ดขาด ตระกูลไป๋หลี่ของพวกเรามียอดฝีมือชั้นสูงสุดระดับห้ามากมาย ยังมีระดับหกด้วย จนกระทั่งมีชั้นสูงสุดระดับหก จะบอกว่าแพ้ก็แพ้เลยได้อย่างไรกัน “
“ข้าจะให้โอกาสท่านหนึ่งครั้ง เปิดเผยมือสังหารที่สังหารตระกูลมู่ยกครัวมาเสีย บางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตลูกศิษย์ลูกหาเหล่านั้นของตระกูลไป๋หลี่ของพวกท่านก็เป็นได้”
“หากท่านไม่พูด เช่นนั้นอย่าได้มาโทษว่าข้าโหดเหี้ยมอำมหิต พวกท่านสังหารตระกูลมู่ของข้ายกครัวอย่างไร ข้าก็จะคืนให้อย่างนั้น”
“มู่หน่วน เจ้ามันนังสารเลว ข้าเป็นผู้อาวุโสตระกูลหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ อย่างเจ้าอยากจะสังหารข้า เหอะ ต่อให้ข้าตาย ข้าก็จะเอาพวกเจ้าไปหลุมศพด้วย”
ไป๋หลี่ป้าระเบิดร่างตัวเอง และผลิพละกำลังที่รุนแรงออกมา ระเบิดใส่ไปทางพวกกู้ชูหน่วน
ฝูกวงลั่วอิ่งทยอยตื่นตะลึง ดาบกระบี่ประกอบเป็นคู่กัน จากนั้นดาบได้ชี้ขึ้นบนฟ้า และกลายเป็นเกาะกำบังที่แข็งแกร่งปกป้องทุกคน
แสงดาบตัดสลับกันเป็นแนวตั้งแนวนอน หนึ่งกลายเป็นสอง สองกลายเป็นสี่ สี่กลายเป็นแปด แปดกลายเป็นสิบหก……….
ในชั่วพริบตาเดียวพื้นที่ว่างครึ่งหนึ่งได้กลายเป็นดาบวงพระจันทร์
ดาบวงพระจันทร์ห้ำหั่นไปที่ซากกระดูกของไป๋หลี่ป้าที่ระเบิดออก พร้อมกับมีเสียงดังปึงปังกระแทกกันด้วย
ช่วงทำลายพังพินาศย่อยยับไปอย่างง่ายดาย พละกำลังของซากกระดูกไป๋หลี่ป้าที่มีอยู่ได้เลือนหายไป ส่วนศพที่เหลือได้ถูกลั่วอิ่งทำลายล้างเช่นกัน
และพวกกู้ชูหน่วนก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ
หนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ผู้นำเผ่าตระกูลไป๋หลี่อย่างไป๋หลี่ป้าก็ตายในมือของพวกกู้ชูหน่วนอย่างนี้แล้ว
ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปตระกูลไป๋ลี่ได้ถูกกำหนดให้หายไป
ในโลกนี้เหลือเพียงแค่สามตระกูลใหญ่
มู่หน่วนมีชื่อเสียงที่ดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง
การสู้รบครั้งยิ่งใหญ่ผ่านไป กู้ชูหน่วนกอบกุมที่หน้าอกด้วยความเจ็บปวดทรมาน
ถูกชั้นสูงสุดระดับหกโจมตีอย่างหนัก นางบาดเจ็บไม่น้อยเลย
ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ถึงจะรักษาบาดแผลให้หายดีได้
“พี่หญิง…..”
“แม่นางมู่……”
ทุกคนมองมาทางกู้ชูหน่วนด้วยความห่วงใย
กู้ชูหน่วนตอบกลับพวกเขาด้วยรอยยิ้มจางๆ กล่าวขึ้นว่า“ข้ามิเป็นไร”
ไฟยังคงลุกโชติช่วง
กู้ชูหน่วนมองไปทางตระกูลมู่
แม้จะสังหารไป๋หลี่ป้าแล้ว ทำลายตระกูลไป๋หลี่แล้ว ก็นับว่าได้แก้แค้นแทนตระกูลมู่
แต่น่าเสียดาย…..
นางไม่สามารถบีบบังคับให้ตอบออกมาได้ว่ายังมีมือสังหารอื่นไหม
จากนิสัยของไป๋หลี่ป้านั้น ต่อให้บีบบังคับให้ตอบ เขาก็ไม่มีทางที่จะบอกอะไรหรอก
ตอนนี้มีเพียงสามารถฝากความหวังไว้กับตระกูลไป๋หลี่คนอื่นที่รู้เส้นสนกลในของเรื่องราวแล้วล่ะ
ฝูกวงกล่าวว่า “แม่นางมู่ ลูกศิษย์ของตระกูลไป๋หลี่ที่ยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ถูกควบคุมไว้โดยเหล่าอสุรกายแล้ว ส่วนใหญ่ผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดได้ตายในสนามรบ เหลือผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงสุดเพียงไม่กี่คน ตอนนี้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์กับเจ้าเสือน้อยกำลังจัดการคนที่ไม่มีความคิดของตนเองได้แต่คล้อยตามคนอื่นอยู่”
“เหลือไว้บ้าง ข้าอยากจะรู้ว่าคนที่สังหารหมู่ตระกูลมู่ยังมีใคร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...
เมื่อไหร่จะอัพต่อค่ะ...