เมื่อได้ยินชื่อของฉ่ายเหนียง ร่างกายของรองหัวหน้าเผ่าก็สั่นสะท้านและเกร็งขึ้นมา แม้ว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่ในแววตาของเขาก็สะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่แอบซ่อนอยู่
"ท่านหัวหน้าเผ่ามีภารกิจของท่านที่ต้องปฏิบัติ ข้าก็มีภารกิจของข้าที่ข้าต้องปฏิบัติด้วยเช่นกัน"
"รองหัวหน้าเผ่าจัดการดูแลเผ่าเพลิงฟ้าเป็นอย่างดี และตอนนี้เผ่าเพลิงฟ้าก็ไม่มีเรื่องสำคัญจำเป็นอะไรแล้ว รองหัวหน้าเผ่าไม่ลองคิดไตร่ตรองเรื่องสำคัญในชีวิตของตัวเองดูสักหน่อยหรือ"
"หากช่องว่างระหว่างดินแดนวิญญาณเยือกแข็งและดินแดนเยี่ยอวี่ไม่เปิดออก ไม่มีทางที่สำนักใหญ่ของเผ่าเพลิงฟ้าจะสร้างขึ้นใหม่ได้ และหากเผ่าอวี้ยังไม่ถูกกำจัดทำลายลง เช่นนั้นแล้วยังถือว่าภารกิจของข้ายังไม่สำเร็จลง"
"ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของข้า ท่านได้ทำดีที่สุดแล้ว และอีกอย่างการแต่งงานก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการสร้างขึ้นใหม่ของสำนักใหญ่เผ่าเพลิงฟ้า"
น้ำเสียงของเหวินเส่าอี๋อ่อนลงและกล่าวอย่างอ่อนโยน "ฉ่ายเหนียงรอท่านมานานหลายสิบปีแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้และชีวิตเป็นสิ่งไม่เที่ยง รองหัวหน้าเผ่า ข้าหวังว่าท่านจะนึกถึงและหวงแหนคนที่อยู่ตรงหน้า อย่าปล่อยให้สูญเสียไปแล้วค่อยมานึกเสียดายในภายหลัง และอย่าปล่อยให้ฉ่ายเหนียงต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยความผิดหวังเช่นนี้ต่อไปอีกเลย"
รองหัวหน้าเผ่ามองไปยังจอกเหล้าเงียบๆ และความสนใจในการลิ้มลองรสเหล้าก็ได้มลายหายไป
และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ไม่รู้ว่าเหวินเส่าอี๋เดินออกไปตั้งแต่เมื่อไร
เขาถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจึงได้กลอกเหล้าที่เหลือเก็บเข้าไปในขวดน้ำเต้าขนาดเล็ก
และได้เหลือบมองดูเหล้าไม่กี่หยดที่เหวินเส่าอี๋เหลือไว้ จากนั้นจึงได้หยิบขวดน้ำเต้าขึ้นมาอีกขวดและกลอกเข้าไปโดยไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว จากนั้นจึงได้เดินกอดไหเหล้าโซซัดโซเซเดินกลับออกไป
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับฉ่ายเหนียง แต่เป็นเพราะเขาไม่กล้าแต่งงานกับนาง
ในฐานะที่เขาเป็นรองหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้า เขามีภารกิจและความรับผิดชอบมากมายเหลือเกิน และยังมีศัตรูอีกเป็นจำนวนมาก
ใช้ชีวิตอย่างอันตรายในแต่ละวัน และไม่รู้ว่าตัวเองจะตายลงเมื่อไร
หากเขาตายไป เช่นนั้นแล้วฉ่ายเหนียงจะทำเช่นไร?
หากศัตรูคิดทำร้ายนางจะทำเช่นไร?
ภายในวังหลวงของเผ่าน้ำแข็ง
กู้ชูหน่วนปลอมตัวเป็นหมอจินเพื่อเข้าพบจักรพรรดินี
จักรพรรดินีนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ยาวและกำลังดื่มเหล้า พระนางกวาดสายตาไปยังกู้ชูหน่วนที่อยู่เบื้องหลังของม่านกั้นและตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าไรนัก
"หมอจิน เจ้าช่างกล้าหาญนัก ข้าบอกให้เจ้าควักดวงตาของซือม่อเฟยมามอบให้กับข้า ทว่าเจ้ากลับไม่ทำตามที่ข้าพูดและยังมีหน้ากลับเข้ามา"
"กราบทูลฝ่าบาท ซือม่อเฟยเป็นเพียงนกตัวน้อยที่ไร้เดียงสาก็เท่านั้น ข้าน้อยรู้ว่าการที่ฝ่าบาทต้องการดวงตาของเขานั้นเป็นเพียงเรื่องง่ายดายเหมือนการฆ่ามดตัวเล็กๆ ให้ตายลง แต่ดวงตาเมื่อควักออกมาแล้วก็ไม่มีพลังงานทางจิตวิญญาณ ฉะนั้นข้าน้อยจึงได้เอาตัวซือม่อเฟยกลับมา เพื่อฝ่าบาทจะทำอะไรกับเขาก็ได้ ข้าน้อยสาบานได้ว่าดวงตาของเขาจะยิ่งเปล่งประกายระยิบระยับอย่างแน่นอนเพคะ"
"อ้อ......เช่นนั้นแล้วเขาอยู่ที่ใดอย่างนั้นหรือ?"
"อยู่ที่เผ่าเพลิงฟ้าเพคะ"
"เจ้าหมายความว่า ให้ข้าไปเอาตัวเขาที่เผ่าเพลิงฟ้าอย่างนั้นหรือ?"
น้ำเสียงของจักรพรรดินีดูปกติและฟังไม่ออกว่าพระนางหมายความว่าอย่างไร ทว่าแววตาของพระนางกลับทำให้รู้สึกขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูก
"ข้าน้อยไม่กล้าเพคะ อันที่จริงแล้วหลายวันมานี้ที่ข้าน้อยหายตัวไปก็เป็นเพราะถูกคนของเผ่าเพลิงฟ้าจับตัวไป เดิมทีข้าน้อยคิดอยากจะลองต่อสู้ดูสักตั้งเพื่อนำตัวซือม่อเฟยกลับมายังวังหลวง ทว่าหลังจากนั้นข้าน้อยได้ยินมาว่าฝ่าบาทได้ออกราชโองการแต่งตั้งให้หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้า เหวินเส่าอี๋เป็นพระสวามีของฝ่าบาท"
"และหลังจากที่ข้าน้อยได้สืบข่าวคราวมาอย่างรอบคอบแล้วก็ทำให้รู้ว่า เผ่าเพลิงฟ้าต้องการสกัดหล่อหลอมซือม่อเฟย เพื่อใช้ประโยชน์จากซือม่อเฟยในการเพิ่มระดับวรยุทธ์ให้เลื่อนไปถึงระดับเจ็ด เป็นเพราะเดิมทีซือม่อเฟยก็เคยมีวรยุทธ์ระดับหกขั้นสูงสุดมาก่อน อีกทั้งร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยพลังหยินอันบริสุทธิ์ หลังจากที่เผ่าเพลิงฟ้าใช้วิชาอาคมลับเฉพาะเพื่อสกัดหล่อหลอมเขาแล้วนั้น จะทำให้หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้ามีโอกาสเพิ่มระดับวรยุทธ์ไปถึงระดับเจ็ดอย่างมาก"
ขณะที่กู้ชูหน่วนพูดออกมานั้นก็ได้แอบสังเกตปฏิกิริยาของจักรพรรดินี และจดจำท่าทีของจักรพรรดินีอย่างไม่คลาดสายตา
และในที่สุด......
เมื่อได้ยินว่าเหวินเส่าอี๋สามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ไปถึงระดับเจ็ดได้นั้น ดูเหมือนว่าจักรพรรดินีจะยิ่งรู้สึกหนักใจขึ้นเล็กน้อย
ราวกับว่ารู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างมาก
และราวกับว่าพอคาดเดาได้บ้าง
"หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าเป็นว่าที่พระสวามีของฝ่าบาท ข้าน้อยจึงคิดว่า ดวงตาหนึ่งคู่เมื่อเทียบกับว่าที่พระสวามีแล้วนั้น ไม่อาจเทียบได้เลยสักนิด จึงทำให้ข้าน้อยยังไม่ลงมือกระทำการใดๆ เพคะ"
จักรพรรดินีหัวเราะอย่างเย็นชาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นราวกับธารน้ำแข็ง "บอกเหตุผลมาข้อหนึ่งที่ทำให้ข้าไม่ฆ่าเจ้าเสีย"
ทุกคนต่างก็ดูออกว่าจักรพรรดินีโกรธ อีกทั้งยังโกรธอย่างมากเสียด้วย
เพียงแค่พระนางขยับนิ้วหรือเพียงแค่ขยับปาก แค่นี้ก็สามารถทำให้กู้ชูหน่วนกลายเป็นศพลงได้
กู้ชูหน่วนรู้ดีว่าคำแก้ตัวเหล่านี้ไม่อาจทำให้จักรพรรดินีพึงพอใจได้
นางครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่งและกล่าวต่อไปว่า "แม้ว่าหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าจะเป็นว่าที่พระสวามีของฝ่าบาท และอีกสามวันก็จะมีพิธีอภิเษกสมรสอย่างยิ่งใหญ่เกิดขึ้น เช่นนั้นแล้วสินสอดและของมีค่าที่หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้านำมาก็คงไม่น้อยหน้าไปอย่างแน่นอน เพียงแค่ฝ่าบาทเอ่ยปากตรัสออกมา"
"อ้อ......เช่นสินสอดแบบไหนอย่างนั้นหรือ?"
"เช่น ซือม่อเฟย......เช่นวิชาอาคมลับเฉพาะที่ใช้ในการสกัดหล่อหลอมซือม่อเฟยเพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์ พลังหยินอันบริสุทธิ์ และยังเคยเป็นยอดวรยุทธ์ระดับหกขั้นสูงสุดที่สามารถพบเจอได้ แต่ไม่สามารถเรียกร้องได้ ผู้ที่มีวรยุทธ์สามารถนำมาสกัดหล่อหลอมเพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้ และผู้ที่ไม่มีวรยุทธ์ก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ เช่นนั้นแล้วเหตุใดถึงไม่ทำหรือเพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...