กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 949

เมื่อได้ยินชื่อของฉ่ายเหนียง ร่างกายของรองหัวหน้าเผ่าก็สั่นสะท้านและเกร็งขึ้นมา แม้ว่าจะแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่ในแววตาของเขาก็สะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่แอบซ่อนอยู่

"ท่านหัวหน้าเผ่ามีภารกิจของท่านที่ต้องปฏิบัติ ข้าก็มีภารกิจของข้าที่ข้าต้องปฏิบัติด้วยเช่นกัน"

"รองหัวหน้าเผ่าจัดการดูแลเผ่าเพลิงฟ้าเป็นอย่างดี และตอนนี้เผ่าเพลิงฟ้าก็ไม่มีเรื่องสำคัญจำเป็นอะไรแล้ว รองหัวหน้าเผ่าไม่ลองคิดไตร่ตรองเรื่องสำคัญในชีวิตของตัวเองดูสักหน่อยหรือ"

"หากช่องว่างระหว่างดินแดนวิญญาณเยือกแข็งและดินแดนเยี่ยอวี่ไม่เปิดออก ไม่มีทางที่สำนักใหญ่ของเผ่าเพลิงฟ้าจะสร้างขึ้นใหม่ได้ และหากเผ่าอวี้ยังไม่ถูกกำจัดทำลายลง เช่นนั้นแล้วยังถือว่าภารกิจของข้ายังไม่สำเร็จลง"

"ทั้งหมดนี้เป็นหน้าที่ของข้า ท่านได้ทำดีที่สุดแล้ว และอีกอย่างการแต่งงานก็ไม่ส่งผลกระทบต่อการสร้างขึ้นใหม่ของสำนักใหญ่เผ่าเพลิงฟ้า"

น้ำเสียงของเหวินเส่าอี๋อ่อนลงและกล่าวอย่างอ่อนโยน "ฉ่ายเหนียงรอท่านมานานหลายสิบปีแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้และชีวิตเป็นสิ่งไม่เที่ยง รองหัวหน้าเผ่า ข้าหวังว่าท่านจะนึกถึงและหวงแหนคนที่อยู่ตรงหน้า อย่าปล่อยให้สูญเสียไปแล้วค่อยมานึกเสียดายในภายหลัง และอย่าปล่อยให้ฉ่ายเหนียงต้องใช้ชีวิตต่อไปด้วยความผิดหวังเช่นนี้ต่อไปอีกเลย"

รองหัวหน้าเผ่ามองไปยังจอกเหล้าเงียบๆ และความสนใจในการลิ้มลองรสเหล้าก็ได้มลายหายไป

และเมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ไม่รู้ว่าเหวินเส่าอี๋เดินออกไปตั้งแต่เมื่อไร

เขาถอนหายใจเบาๆ จากนั้นจึงได้กลอกเหล้าที่เหลือเก็บเข้าไปในขวดน้ำเต้าขนาดเล็ก

และได้เหลือบมองดูเหล้าไม่กี่หยดที่เหวินเส่าอี๋เหลือไว้ จากนั้นจึงได้หยิบขวดน้ำเต้าขึ้นมาอีกขวดและกลอกเข้าไปโดยไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว จากนั้นจึงได้เดินกอดไหเหล้าโซซัดโซเซเดินกลับออกไป

ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการแต่งงานกับฉ่ายเหนียง แต่เป็นเพราะเขาไม่กล้าแต่งงานกับนาง

ในฐานะที่เขาเป็นรองหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้า เขามีภารกิจและความรับผิดชอบมากมายเหลือเกิน และยังมีศัตรูอีกเป็นจำนวนมาก

ใช้ชีวิตอย่างอันตรายในแต่ละวัน และไม่รู้ว่าตัวเองจะตายลงเมื่อไร

หากเขาตายไป เช่นนั้นแล้วฉ่ายเหนียงจะทำเช่นไร?

หากศัตรูคิดทำร้ายนางจะทำเช่นไร?

ภายในวังหลวงของเผ่าน้ำแข็ง

กู้ชูหน่วนปลอมตัวเป็นหมอจินเพื่อเข้าพบจักรพรรดินี

จักรพรรดินีนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ยาวและกำลังดื่มเหล้า พระนางกวาดสายตาไปยังกู้ชูหน่วนที่อยู่เบื้องหลังของม่านกั้นและตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่น่าฟังเท่าไรนัก

"หมอจิน เจ้าช่างกล้าหาญนัก ข้าบอกให้เจ้าควักดวงตาของซือม่อเฟยมามอบให้กับข้า ทว่าเจ้ากลับไม่ทำตามที่ข้าพูดและยังมีหน้ากลับเข้ามา"

"กราบทูลฝ่าบาท ซือม่อเฟยเป็นเพียงนกตัวน้อยที่ไร้เดียงสาก็เท่านั้น ข้าน้อยรู้ว่าการที่ฝ่าบาทต้องการดวงตาของเขานั้นเป็นเพียงเรื่องง่ายดายเหมือนการฆ่ามดตัวเล็กๆ ให้ตายลง แต่ดวงตาเมื่อควักออกมาแล้วก็ไม่มีพลังงานทางจิตวิญญาณ ฉะนั้นข้าน้อยจึงได้เอาตัวซือม่อเฟยกลับมา เพื่อฝ่าบาทจะทำอะไรกับเขาก็ได้ ข้าน้อยสาบานได้ว่าดวงตาของเขาจะยิ่งเปล่งประกายระยิบระยับอย่างแน่นอนเพคะ"

"อ้อ......เช่นนั้นแล้วเขาอยู่ที่ใดอย่างนั้นหรือ?"

"อยู่ที่เผ่าเพลิงฟ้าเพคะ"

"เจ้าหมายความว่า ให้ข้าไปเอาตัวเขาที่เผ่าเพลิงฟ้าอย่างนั้นหรือ?"

น้ำเสียงของจักรพรรดินีดูปกติและฟังไม่ออกว่าพระนางหมายความว่าอย่างไร ทว่าแววตาของพระนางกลับทำให้รู้สึกขนหัวลุกอย่างบอกไม่ถูก

"ข้าน้อยไม่กล้าเพคะ อันที่จริงแล้วหลายวันมานี้ที่ข้าน้อยหายตัวไปก็เป็นเพราะถูกคนของเผ่าเพลิงฟ้าจับตัวไป เดิมทีข้าน้อยคิดอยากจะลองต่อสู้ดูสักตั้งเพื่อนำตัวซือม่อเฟยกลับมายังวังหลวง ทว่าหลังจากนั้นข้าน้อยได้ยินมาว่าฝ่าบาทได้ออกราชโองการแต่งตั้งให้หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้า เหวินเส่าอี๋เป็นพระสวามีของฝ่าบาท"

"และหลังจากที่ข้าน้อยได้สืบข่าวคราวมาอย่างรอบคอบแล้วก็ทำให้รู้ว่า เผ่าเพลิงฟ้าต้องการสกัดหล่อหลอมซือม่อเฟย เพื่อใช้ประโยชน์จากซือม่อเฟยในการเพิ่มระดับวรยุทธ์ให้เลื่อนไปถึงระดับเจ็ด เป็นเพราะเดิมทีซือม่อเฟยก็เคยมีวรยุทธ์ระดับหกขั้นสูงสุดมาก่อน อีกทั้งร่างกายของเขาก็เต็มไปด้วยพลังหยินอันบริสุทธิ์ หลังจากที่เผ่าเพลิงฟ้าใช้วิชาอาคมลับเฉพาะเพื่อสกัดหล่อหลอมเขาแล้วนั้น จะทำให้หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้ามีโอกาสเพิ่มระดับวรยุทธ์ไปถึงระดับเจ็ดอย่างมาก"

ขณะที่กู้ชูหน่วนพูดออกมานั้นก็ได้แอบสังเกตปฏิกิริยาของจักรพรรดินี และจดจำท่าทีของจักรพรรดินีอย่างไม่คลาดสายตา

และในที่สุด......

เมื่อได้ยินว่าเหวินเส่าอี๋สามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ไปถึงระดับเจ็ดได้นั้น ดูเหมือนว่าจักรพรรดินีจะยิ่งรู้สึกหนักใจขึ้นเล็กน้อย

ราวกับว่ารู้สึกแปลกประหลาดใจอย่างมาก

และราวกับว่าพอคาดเดาได้บ้าง

"หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าเป็นว่าที่พระสวามีของฝ่าบาท ข้าน้อยจึงคิดว่า ดวงตาหนึ่งคู่เมื่อเทียบกับว่าที่พระสวามีแล้วนั้น ไม่อาจเทียบได้เลยสักนิด จึงทำให้ข้าน้อยยังไม่ลงมือกระทำการใดๆ เพคะ"

จักรพรรดินีหัวเราะอย่างเย็นชาด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นราวกับธารน้ำแข็ง "บอกเหตุผลมาข้อหนึ่งที่ทำให้ข้าไม่ฆ่าเจ้าเสีย"

ทุกคนต่างก็ดูออกว่าจักรพรรดินีโกรธ อีกทั้งยังโกรธอย่างมากเสียด้วย

เพียงแค่พระนางขยับนิ้วหรือเพียงแค่ขยับปาก แค่นี้ก็สามารถทำให้กู้ชูหน่วนกลายเป็นศพลงได้

กู้ชูหน่วนรู้ดีว่าคำแก้ตัวเหล่านี้ไม่อาจทำให้จักรพรรดินีพึงพอใจได้

นางครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่งและกล่าวต่อไปว่า "แม้ว่าหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าจะเป็นว่าที่พระสวามีของฝ่าบาท และอีกสามวันก็จะมีพิธีอภิเษกสมรสอย่างยิ่งใหญ่เกิดขึ้น เช่นนั้นแล้วสินสอดและของมีค่าที่หัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้านำมาก็คงไม่น้อยหน้าไปอย่างแน่นอน เพียงแค่ฝ่าบาทเอ่ยปากตรัสออกมา"

"อ้อ......เช่นสินสอดแบบไหนอย่างนั้นหรือ?"

"เช่น ซือม่อเฟย......เช่นวิชาอาคมลับเฉพาะที่ใช้ในการสกัดหล่อหลอมซือม่อเฟยเพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์ พลังหยินอันบริสุทธิ์ และยังเคยเป็นยอดวรยุทธ์ระดับหกขั้นสูงสุดที่สามารถพบเจอได้ แต่ไม่สามารถเรียกร้องได้ ผู้ที่มีวรยุทธ์สามารถนำมาสกัดหล่อหลอมเพื่อเพิ่มระดับวรยุทธ์ได้ และผู้ที่ไม่มีวรยุทธ์ก็สามารถทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ เช่นนั้นแล้วเหตุใดถึงไม่ทำหรือเพคะ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์