กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 953

สรุปบท บทที่ 953: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

อ่านสรุป บทที่ 953 จาก กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ โดย อี้หมิง

บทที่ บทที่ 953 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย อี้หมิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เมื่อเสด็จอาเสด็จมาเข้าเฝ้าจักรพรรดินี ทุกคนต่างไม่รู้ว่าพวกเขาพูดคุยเรื่องอะไรกัน รู้เพียงแค่ข้างในมีเสียงทะเลาะวิวาทที่ดังออกมาถึงข้างนอก ราวกับการพูดคุยเป็นไปอย่างไม่น่าพึงพอใจนัก

จากนั้นไม่นานก็มีคนกล่าวโทษเสด็จอา โดยกล่าวว่าเสด็จอาสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูภายนอก ขายชาติบ้านเมืองเพื่อเกียรติและอำนาจของตัวเอง และถึงขั้นพยายามจะแย่งชิงบัลลังก์โดยมีหลักฐานครบถ้วน

จักรพรรดินีออกราชโองการให้ทำการรื้อค้นและทำลายจวน เสด็จอารู้เรื่องก่อนจึงพาคนในจวนอพยพหนีออกไป

ระหว่างการติดตามไล่ล่านั้น ลูกน้องคนสนิทของเสด็จอาได้ต่อสู้กันอย่างดุเดือดกับกองกำลังรักษาพระองค์ จนทำให้คนของจวนท่านอ๋องพากันล้มตายและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

จากนั้นเสด็จอาก็ได้ทิ้งคนในครอบครัวและหลบหนีไปเพียงลำพัง จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีเบาะแสอะไร

ไม่นานเรื่องนี้ก็ถูกเผยแพร่ออกไปทั่วทั้งอาณาจักรรัฐปิง

มีคนจำนวนมากต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์เสด็จอา ไม่คิดเลยว่าเขาที่ดูเป็นคนดีเช่นนั้นจะคิดทรยศต่อรัฐและเห็นประโยชน์ของตัวเองเป็นใหญ่และพยายามแย่งชิงราชบัลลังก์

คนในราชสำนักจำนวนมากเชื่อว่าเสด็จอาไม่มีทางทำเรื่องเช่นนั้นอย่างแน่นอน และพยายามพูดแก้ต่างแทนเสด็จอา ทำให้จักรพรรดินีกริ้วจัดและได้ประหารชีวิตขุนนางไปจำนวนมาก จนถึงขั้นรื้อค้นและบุกยึดบ้านของพวกเขา จากนั้นทำการประหารคนในเรือนทั้งหมด

ทำให้ทุกคนในราชสำนักต่างพากันหวาดกลัว แม้รู้ว่าเสด็จอาอาจจะถูกใส่ร้าย ทว่าก็ไม่กล้าอธิบายแก้ต่างแทนเขาอีก และรู้สึกหมดหวังต่อจักรพรรดินีโดยสิ้นเชิง

กู้ชูหน่วนกลับไม่เชื่อเลยสักนิด

หากอยากลงโทษหรือเล่นงานใคร ย่อมมีเหตุผลหรือหาข้ออ้างได้เสมอ

เพียงแค่ใช้สมองคิดสักนิดก็รู้ได้ว่าเสด็จอาถูกจักรพรรดินีทำร้าย

บริเวณโดยรอบของหอดาบเต็มไปด้วยยอดฝีมือนับไม่ถ้วน และมีคนอีกจำนวนมากที่แอบจับตามองนางอยู่ลับๆ

กู้ชูหน่วนใช้พลังงานอย่างมาก สุดท้ายก็หลุดพ้นมาจากผู้ที่แอบจับตามองนางเอาไว้ได้

นางใช้การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วของวิชาตัวเบา รวมไปถึงความคุ้นเคยในสถานที่ เพื่อคิดอยากเข้าไปสำรวจห้องตำราหลวง

ทั้งวังแห่งนี้ มีเพียงห้องตำราหลวงเท่านั้นที่เข้าไปได้ยากที่สุด

แม้แต่บรรดาสัตว์ร้ายของนางก็ยากที่จะเข้าไปได้

องครักษ์ที่นี่คุ้มกันแน่นหนาอย่างมาก แม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็ไม่อาจบินเข้าไปได้

ความฝักใฝ่ในกามของจักรพรรดินีนั้น โดยปกติหากไม่มีอะไรกับคนนี้ ก็จะมีอะไรกับคนนั้น

และที่น่าแปลกก็คือ หลังจากที่มีอะไรกันแล้ว สถานที่แรกที่พระนางจะไปทุกครั้งก็คือห้องตำราหลวง หากจะบอกว่าที่นี่ไม่มีอะไรผิดปกติ นางไม่มีทางเชื่ออย่างแน่นอน

เมื่อสังเกตมองไปรอบๆ มีองครักษ์ยืนประจำการอยู่หนึ่งคนทุกห้าก้าว และทุกสิบก้าวจะมีจุดตรวจตระเวน อีกทั้งยังมียอดฝีมือจำนวนมากทั้งที่ปรากฏให้เห็นและที่แอบซุ่มประจำการอยู่

ไม่ว่านางจะใช้วิธีการใดก็ไม่สามารถเข้าไปยังห้องตำราหลวงได้เลย

กู้ชูหน่วนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว

เมื่อเห็นว่ามีองครักษ์อีกกลุ่มหนึ่งกำลังเดินลาดตระเวนเข้ามา ทำให้กู้ชูหน่วนผลักประตูห้องๆ หนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากห้องตำราหลวงโดยปริยาย

ภายในห้องมืดมาก กู้ชูหน่วนไม่ได้คิดจะอยู่ที่นี่นาน เพียงรอให้องครักษ์เดินลาดตระเวนเสร็จก็จะออกไปจากที่นี่

เมื่อแสงจันทร์สาดส่องเข้ามา กลับทำให้มีแสงหักเหไปที่ภาพๆ หนึ่งบนผนัง

ขาของกู้ชูหน่วนที่กำลังเตรียมเดินออกไปก็ได้หยุดชะงักลง และมองตรงไปยังม้วนภาพวาดนั้น

บนม้วนกระดาษภาพวาดนั้นเป็นภาพของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังกินขนมเปี๊ยะดอกไม้

มือข้างหนึ่งของหญิงสาวผู้นั้นกำลังถือขนมเปี๊ยะดอกไม้ และมืออีกข้างหนึ่งชี้ไปยังแจกันที่อยู่ทางขวามือ

และสิ่งที่ทำให้กู้ชูหน่วนหยุดชะงักลงก็คือขนมเปี๊ยะดอกไม้ที่อยู่ในมือของนาง

ขนมเปี๊ยะดอกไม้นั้นเหมือนกับขนมเปี๊ยะดอกไม้ที่อยู่ในวงแหวนอวกาศอย่างมาก

เดิมทีเป็นแค่เพียงม้วนภาพวาดภาพหนึ่งที่ไม่มีอะไร เพียงแต่นางกลับรู้สึกว่าแววตาของผู้หญิงที่อยู่ในภาพวาดนี้มีบางอย่างผิดแปลกไป

นางค่อยๆ หันตามไปทางที่นิ้วมือของหญิงสาวคนนี้ชี้ไปที่แจกัน

ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เกิดขึ้น

นางหันเช่นนั้นอยู่ครั้ง ทว่ากลับไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

กู้ชูหน่วนหัวเราะออกมา "ข้ากำลังคิดอะไรของข้านะ ก็แค่เพียงภาพวาดหญิงงามคนหนึ่งก็เท่านั้น"

นางชี้นิ้วชี้ของไปยังแจกันโดยบังเอิญ และหลังจากที่แจกันหมุนอยู่หลายครั้ง มันก็ส่งเสียงก้องกังวานขึ้น

จากนั้น......

ประตูลับบานหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของนาง

กู้ชูหน่วนตกอยู่ในภาวะที่ตัดสินใจลำบาก

และทันใดนั้น นางก็ได้ยินเสียงหายใจเหนื่อยหอบและอ่อนล้าบริเวณเบื้องหน้า

กู้ชูหน่วนค่อยๆ เดินเข้าไป

ท่ามกลางความมืดมัว นางได้มองเห็นหญิงผมหงอกคนหนึ่งได้ถูกโซ่เหล็กตรวนขนาดใหญ่มัดร่างกายเอาไว้

บนเรือนร่างของหญิงคนนั้นส่งกลิ่นเหม็นและยากจะสูดดม และร่างกายของนางก็เต็มไปด้วยบาดแผลจำนวนมาก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าถูกทรมานอย่างหนักหนา

จากการสังเกตเสื้อผ้าที่เสื่อมโทรมสึกหรอของนางก็ทำให้รู้ว่าถูกกักขังอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาหลายปี

และเพราะระยะห่างยิ่งใกล้เข้าไป ทำให้ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็มองเห็นใบหน้าของนางอย่างชัดเจน

นางอดไม่ได้ที่จะแสดงทีท่าตกใจและคิดอยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แม้แต่คบไฟในมือก็เกือบจะดับลง

จักรพรรดินี......

นางคือจักรพรรดินี......

"แอ่ม......"

ผู้หญิงคนนั้นส่งเสียงไอกระแอมด้วยความเจ็บปวด กู้ชูหน่วนหันหลังกลับหลังจากอาการตกใจ และได้หยิบดาบอ่อนออกมา จากนั้นยกเส้นผมของหญิงคนนั้นขึ้น

จากแสงที่มีอันน้อยนิด กู้ชูหน่วนมั่นใจได้ว่าผู้หญิงคนนี้หน้าตาเหมือนกับจักรพรรดินีอย่างแยกไม่ออก

เพียงแต่ดวงตาของจักรพรรดินีเสมือนงูพิษที่มีฤทธิ์ร้ายแรง และทุกการเคลื่อนไหวของพระนางล้วนทำให้รู้สึกขนหัวลุกตลอดเวลา ราวกับตกอยู่ในนรก

ทว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ากลับมีสีหน้าซีดเซียว ริมฝีปากแตกแห้ง สติเชื่องช้าและแววตาของนางก็ไม่เปล่งประกายสดใสเลยสักนิด แม้แต่การหายใจก็อ่อนแรงจนแทบไม่ได้ยินเสียง ซึ่งเห็นได้ชัดว่าได้ใช้เรี่ยวแรงไปหมดแล้ว แต่เพียงแค่ยังฝืนทนต่อไปก็เท่านั้น

กู้ชูหน่วนถาม "เจ้าคือใคร? ใครนำตัวเจ้ามากักขังไว้ที่นี่อย่างนั้นหรือ?"

เมื่อได้ยินคำพูดของนาง หญิงคนนั้นก็ได้ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ และหลังจากที่พยายามมองไปยังกู้ชูหน่วน และได้หันไปทางอื่นเพื่อดูว่ามีคนอื่นอีกหรือไม่

เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอื่น ร่างกายที่วิตกกังวลอย่างมากก็ผ่อนคลายลง

แม้จะเป็นการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ทว่ากู้ชูหน่วนรู้ดีว่านางกำลังหวาดกลัวอย่างมาก หวาดกลัวว่าจะมีใครมาที่นี่

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์