"ในเมื่อข้ากล้าเข้ามาที่นี่ ข้าก็ไม่คาดหวังว่าจะมีชีวิตรอดกลับออกไป หลานของข้าล่ะ หลานของข้าอยู่ที่ไหน?"
"ตัวเองยังแทบเอาตัวไม่รอด ยังจะเป็นห่วงไอ้เด็กเวรนั่นอีก วางใจได้ รอให้เจ้ากลายเป็นอาหารของข้าเสียก่อน ไม่นานเขาก็จะได้เจอกับเจ้าแล้ว"
"ยอดฝีมือในดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง โดยเฉพาะวัยรุ่นที่อายุยังน้อย ล้วนต่างถูกเจ้าทำร้ายอย่างนั้นหรือ?"
"ตาเฒ่า สติปัญญาของเจ้าไม่ได้ต่ำต้อย"
"เจ้าฆ่าสังหารผู้ที่จงรักภักดีและฆ่าผู้บริสุทธิ์ ทำแต่เรื่องชั่วช้า อาณาจักรรัฐปิงแทบจะไม่เหลือความเป็นอาณาจักรเพราะเจ้า ครอบครัวไม่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตา มีประชากรจำนวนมากที่ต้องอพยพพลัดถิ่นและอดอยาก วันนี้ต่อให้เจ้าไม่ฆ่าข้า ข้าก็จะเป็นคนกำจัดนางผู้หญิงชั่วช้าอย่างเจ้าแทนประชาชนทุกคน"
"เพียงแค่ยอดฝีมือวรยุทธ์ระดับห้าขั้นสูงสุดเท่านั้น เจ้ากล้าพูดจาอวดดีต่อหน้าข้าอย่างนั้นหรือ"
"ระดับเจ็ดข้าก็ไม่กลัว วันนี้ต่อให้ข้าต้องตายข้าก็จะพยายามอย่างเต็มที่"
ทั้งสองเริ่มลงมือต่อสู้กัน
วรยุทธ์ของท่านผู้เฒ่าหนิงนั้นเก่งกาจมาก ทว่าเมื่อเทียบกับจักรพรรดินีแล้วนั้นไม่อาจสู้ได้เลย เขาใช้กำลังแทบจะทั้งหมดที่มีก็ไม่สามารถเข้าใกล้จักรพรรดินีได้ แต่กลับถูกพลังฝ่ามือซัดกระเด็นออกไปไกล
"ตุ่บ......"
อวัยวะภายในของท่านผู้เฒ่าหนิงแทบจะเคลื่อนย้ายไม่ตรงตำแหน่ง บริเวณที่เขาถูกพลังฝ่ามือของจักรพรรดินีก็เกิดบาดแผลและมีเลือดไหลออกมา
ท่านผู้เฒ่าหนิงสูดหายใจลึก
พลังที่แข็งแกร่งอย่างมาก
เขาที่มีวรยุทธ์เพียงระดับห้าขั้นสูงสุดเมื่ออยู่ต่อหน้านาง ราวกับลูกไก่ที่ไร้เรี่ยวแรง
"แม้ว่าจะแก่ไปสักหน่อย ทว่าพละกำลังความสามารถก็ไม่ธรรมดาเลย ไม่รู้ว่าหากข้าดูดกลืนพลังของพวกเจ้าทั้งหมด รวมไปถึงเยี่ยจิ่งหานและเหวินเส่าอี๋ไปแล้ว จะสามารถเพิ่มระดับวรยุทธ์ไปถึงระดับเจ็ดขั้นกลางหรือขั้นสูงได้หรือไม่"
จักรพรรดินีโบกมือ จากนั้นได้มีเกราะแสงวงกลมปกคลุมไปที่ท่านผู้เฒ่าหนิง และได้เริ่มดูดกลืนพลังของท่านผู้ผู้เฒ่าหนิงอย่างเพลิดเพลิน
เมื่อท่านผู้เฒ่าหนิงเห็นเช่นนั้น ร่างกายของเขาก็ได้เปล่งแสงระยิบระยับออกมาทันที
แสงระยิบระยับนั้นได้ทำลายเกราะแสงวงกลมของจักรพรรดินีทันที และได้ปกป้องวรยุทธ์ของเขาไม่ให้ถูกดูดออกไป
จักรพรรดินีตกตะลึงอย่างมาก
"นี่คือวิชายุทธ์อะไรกัน? เป็นทักษะเฉพาะของตระกูลหนิงอย่างนั้นหรือ? แม้แต่พลังของข้าก็ไม่อาจต้านทานได้ ช่างน่าสนใจ ช่างน่าสนใจอย่างมาก ฮ่าๆ......"
จักรพรรดินีค่อยๆ ปล่อยเกราะลำแสงออกมาทีละอันไปที่ท่านผู้เฒ่าหนิง
ลำแสงนั้นมีอานุภาพแข็งแกร่งอย่างมาก และเต็มไปด้วยรัศมีสังหาร
นี่คือวรยุทธ์ของยอดฝีมือระดับเจ็ด หากถูกลำแสงเข้า ต่อให้เป็นยอดฝีมือระดับหกขั้นสูงสุดก็มีสิทธิ์ตายอย่างไร้ข้อสงสัย
ห่างออกไปไกล ทุกคนก็ถูกฤทธิ์และพลังของลำแสงนั้นทำให้แทบหายใจไม่ออก
จักรพรรดินีสามารถฆ่าท่านผู้เฒ่าหนิงได้อย่างง่ายดาย ทว่านางไม่ทำเช่นนั้น แต่กลับใช้วิธีการเหมือนแมวจับหนูในการจัดการกับเขา เพื่อกินพลังของท่านผู้เฒ่าหนิง
หากไม่ใช่เพราะท่านผู้เฒ่าหนิงมีวรยุทธ์อันทรงพลังและเก่งกาจ เกรงว่าเขาคงจะตายลงด้วยลำแสงเหล่านั้นไปนานแล้ว ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงต่อสู้อย่างยากลำบาก และหลายครั้งก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด
เพียงแค่เอาตัวเองให้รอดก็ยากเย็นแสนเข็ญมากพอแล้ว จะมีแรงสู้กลับได้อย่างไร?
ท่านผู้เฒ่าหนิงรู้สึกหนักใจอย่างมาก
ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยก็เฝ้าจับตาดูอย่างลุ้นระทึกอย่างมาก
เซี่ยวอวี่เซวียนตะโกนออกไป "อย่าฝืนต่อสู้กับนาง ท่านสู้นางไม่ได้หรอก แผนที่ของที่นี่สลับซับซ้อนอย่างมาก ท่านใช้โอกาสนี้รีบหนีออกไปเถอะ"
ทันใดนั้นร่างกายของท่านผู้เฒ่าหนิงก็ปะทุกระแสลมอันทรงพลังขึ้นมา เพื่อทำให้ลำแสงเหล่านั้นเปิดออก และร่างกายของเขาก็เสมือนกับดาบที่แหลมคม คนและดาบประสานเป็นหนึ่งและมุ่งสังหารไปที่จักรพรรดินีด้วยความเร็วปานสายฟ้า
พวกเขาคิดว่าท่านผู้เฒ่าหนิงทำไปเพื่อปกป้องชีวิต ทว่าพวกเขากลับคาดไม่ถึงว่าท่านผู้เฒ่าหนิงจะกล้าพุ่งสังหารไปยังจักรพรรดินี
จักรพรรดินีหัวเราะเยาะและปล่อยพลังฝ่ามือออกไปทำลายพลังของเขาอย่างราบคาบ และเป็นอีกครั้งที่ท่านผู้เฒ่าหนิงได้รับบาดเจ็บสาหัส
ท่านผู้เฒ่าหนิงไม่สนใจว่าตัวเองจะได้รับบาดเจ็บสาหัสมากเพียงใด เขายังคงต่อสู้กลับอย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสกลับมา ทว่าเขายังคงไม่ยอมแพ้
เซี่ยวอวี่เซวียนรู้สึกร้อนรนกระวนกระวายใจ
กู้ชูหน่วนก็ร้อนรนกระวนกระวายใจเช่นกัน
หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เทวดาก็ไม่อาจช่วยชีวิตเขาเอาไว้ได้
เซี่ยวอวี่เซวียนกระเสือกกระสนคลานขึ้นมาและกล่าวว่า "หนีไป หากท่านตายลงที่นี่ก็จะไม่มีใครสามารถช่วยชีวิตหลานชายของท่านได้อีกแล้ว"
ไม่แน่ประโยคนี้อาจทำให้ท่านผู้เฒ่าหนิงตื่นจากความพยาบาทได้
หรืออาจเป็นเพราะท่านผู้เฒ่าหนิงหมดหวังแล้ว และรู้ดีว่าตัวเองไม่อาจฆ่าจักรพรรดินีได้ จึงได้คิดหนีออกไปจากเส้นทางลับ
จักรพรรดินีหัวเราะชอบใจ แววตาอันชั่วร้ายของนางเต็มไปด้วยความหยิ่งผยอง "คิดหนีอย่างนั้นหรือ? เจ้าคิดว่าเป็นไปได้อย่างนั้นหรือ?"
ร่างกายของนางหายวับไปและไล่ตามออกไปอย่างเชื่องช้า
เมื่อมั่นใจแล้วว่าพวกเขาออกไปไกลแล้ว กู้ชูหน่วนจึงได้ปรากฏตัวขึ้นมาและพุ่งไปยังเซี่ยวอวี่เซวียนอย่างรวดเร็ว จากนั้นประคองเขาลุกขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์
ไม่อัพจบเหรอคะ...
เป็นนางเอกที่นิสัยแย่ที่สุดตั้งแต่เคยอ่านมา...
คือตัวเองไม่มีเงิน แต่คิดจะเอาทุกอย่างด้วยราคาสูงเสียดฟ้า แล้วก็หาคำพูดให้คนอื่นจ่ายแทน ตัวเองหาประโยชน์จากคนใกล้ตัวแต่กลับเอาใจให้คนอื่นตลอดเนี่ยนะ...
แม่นางกู้เกินเยียวยาแล้วเด้อ 555...
เยี่ยเฟิงเป็นคนดีมาก แต่เขาทนงตัวเกินไป ชีวิตที่ผู้อื่นฝ่าฟันเพื่อแย่งชิงลมหายใจเขาไว้ แต่เขาก็ดิ้นรนกลับไปหาความตายอยู่เรื่อย...
ท่านอาจารย์พูดให้คิดดีมากเลย แต่อาหน่วนจะเข้าใจไหม นางดูมั่นหน้า มั่นใจเกิตเหตุแบบไม่สนสี่สนแปดใดใดเลย...
อยากให้กลับมาอัพเดทไวๆนะคะ ขอบคุณมากค่ะ...
สรุปเรื่องนี้มีตอนจบมั้ยค่ะ...
รอตอนจบอยู่นะคะ ใจบางไม่ไหวแล้วทรมาน...
รออัพเดทอยู่นะคะ...