พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 11

‘สีชิงชวน ฉันต้องการหย่ากับคุณ’ ฉันอมประโยคนี้ไว้ในปาก พูดออกไปไม่ได้แถมยังกลืนเข้าไปไม่ลงอีก

ฉันไม่คิดว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย

เลขาสาวสวยหน้าซีดเผือด สีชิงชวนลุกขึ้นมาจากโซฟาหยิบม้วนกระดาษขึ้นแล้วปามันมาตรงกลางระหว่างคิ้วฉัน

สีชิงชวนเป็นนักกีฬาฝีมือดี เขาเล่นกอล์ฟและเทเบิลเทนนิสได้เยี่ยมมาก ก็เลยเล็งฉันได้แม่นสุดๆ

ฉันคลึงหว่างคิ้วตัวเองที่ถูกของปาใส่จนเจ็บ ใครให้ฉันร้อนใจจนเกินไปล่ะ แต่ใครจะคิดว่าเขาเคยโดนฉันเจอเข้าครั้งหนึ่งแล้วจะยังไม่ยอมแก้ไข ยังจะให้ฉันเจอเข้าเป็นครั้งที่สองอีกล่ะ

แต่ว่านะ สถานการณ์ชวนอึดอัดแบบนี้ ฉันจะทำยังไงดีล่ะ?

ป๋ออวี่เดินหน้าแดงมาหยุดตรงหน้าฉันแล้วกล่าวเสียงเบา “คุณเซียวครับ ผมกับคุณสี…”

“ฉันผิดเองค่ะ ฉันควรมีประสบการณ์” ฉันจะให้เจ้าคนน่ารักของสีชิงชวนมาขอโทษฉันได้ยังไงล่ะ ฉันขอโทษขอโพยเขาอย่างจริงใจ “คราวหน้าถึงไฟจะลุกอยู่ที่ก้นฉัน ฉันก็จะเคาะประตูก่อนเข้ามาค่ะ”

“จริงๆ มันไม่ใช่แบบที่คุณเห็นนะครับ” หน้าเขาแดงยิ่งขึ้นไปอีก แดงซะจนฉันอาย

“ไม่ๆๆ” ฉันโบกไม้โบกมืออย่างรีบร้อน “ฉันไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ไม่เห็นด้วยว่าคุณกำลังลูบก้นเขาอยู่”

“ป๋ออวี่!” น้ำเสียงสีชิงชวนโกรธจนแทบคลั่ง ราวกับเสียงของฟ้าร้องหนึ่งวินาทีก่อนฝนตกหนักอย่างไรอย่างนั้น

ป๋ออวี่และคุณเลขาหนีไปเร็วกว่าที่ฉันคิดซะอีก ฉันพบว่าในห้องเหลือเพียงฉันและสีชิงชวนแค่สองคนจากเสียงปิดประตู ทำให้บรรยากาศเงียบกริบและเยือกเย็น เสียงฟ้าร้องดังสนั่นหวั่นไหว

ฉันกลืนน้ำลายลงคอแล้วมองสีชิงชวนที่กำลังเดินเข้ามาหาฉันทีละก้าว… ทีละก้าว…

“ไม่กวนแล้วดีกว่า ไว้เจอกันนะ” ผู้รู้สถานการณ์คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ รีบเผ่นก่อนแล้วค่อยว่ากัน

ฉันหมุนตัวได้ไม่ทันไร ฝ่ามือของสีชิงชวนก็กดเข้ากับบานประตูแล้วใช้มืออีกข้างล็อกมันไว้ เสียงล็อกประตูดัง ‘กึก’ ทำให้ฉันชาไปทั้งหนังศีรษะ

เขากำลังหัวเราะ สีชิงชวน ผู้ชายคนนี้มีความแตกต่างมากเป็นพิเศษ ตอนที่เขาหัวเราะมันไม่ได้แปลว่าเขากำลังมีความสุขแน่นอนว่าตอนที่เขาโกรธก็คือโกรธ

ปกเสื้อเชิ้ตของเขาไม่ได้ติดกระดุมให้ดี ฉันเพ่งเล็งมันแวบหนึ่งก็เห็นกล้ามเนื้อหน้าอกบึ้กๆ และกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เรียงกันเหมือนกับช็อกโกแลตที่เรียงแถวสวยงามของเขา ยังดีที่เขาเป็นไบเซ็กชวล ไม่งั้นมันไม่ได้เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากรธรรมชาติอันเลอค่านี้ไปหรอกเหรอ

“วันนี้ที่มาเพื่อเป็นการยืนยันการลอบคบชู้ของผมกับป๋ออวี่เหรอ?” เขายิ้มจนฉันสมองเบลอและไม่กล้าสบตาของเขา

ฉันมองเห็นตัวเองในดวงตาของเขา มันเป็นแบบตีลังกาและกำลังยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ในดวงตาลึกล้ำของเขา ก็เหมือนกับฉันในตอนนี้ที่ไม่รู้จะทำยังไงดี

“เรื่องนั้นคุณพูดเองนะ” ฉันรับคำอย่างช่วยไม่ได้ “ฉันจะช่วยคุณเก็บเป็นความลับ ไม่แพร่งพรายออกไป ฉันจะไม่บอกใครเด็ดขาด”

ฝ่ามือเขาบีบเข้าที่ไหล่ของฉัน มันเจ็บสุดๆ ไปเลย

ดูท่าเขาอยากจะบีบไหล่ฉันให้แหลกเป็นผุยผง ฉันจึงพูดออกไปไม่มั่วๆ ภายใต้ความเจ็บปวด “ใครให้คุณทำเรื่องแบบนี้แล้วไม่ล็อกประตูกันเล่า? ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมาเห็นสักหน่อย อีกอย่างฉันไม่ได้อยากเห็นฉากแบบนี้นะ ฉันอ่านนิยายยังไม่เคยอ่านนิยายอีโรติกของเกย์เลย”

“คุณเหยียดเกย์เหรอ?” เขายิ้มออกมาอย่างมีเล่ห์เหลี่ยม

“อย่ามาพูดซี้ซั้วว่าฉันเป็นงี้นะ ฉันรับไว้ไม่ไหวหรอก” ฉันสะบัดไหล่ให้หลุดจากการเกาะกุมของเขา “ฉันขอโทษที่ฉันไม่ได้เคาะประตูก่อนเข้ามา แต่ยังไงฉันก็เคยเห็นมาแล้ว ไม่ใช่ครั้งแรกสักหน่อย คุณก็อย่าโกรธขนาดนั้นสิ”

เขาโกรธมากแต่แสดงออกมาเหมือนไม่ได้โกรธขนาดนั้นแล้ว ฉันสงสัยว่าเขาโกรธจนสติแตกไปแล้ว

เขาปล่อยฉันแล้วเดินไปนั่งหลังโต๊ะทำงาน จากนั้นก็จุดซิการ์ขึ้นมาหนึ่งมวน ซึ่งควันสีเทาของซิการ์ลอยวนขึ้นในอากาศ บดบังอยู่ระหว่างฉันและเขาราวกับฉากกำบังนั้นทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยอยู่ครู่หนึ่ง

ฉันกระแอมไอเล็กน้อย ในเมื่อมาแล้วก็ต้องพูดมันออกมา

“คือว่านะ สีชิงชวน” ฉันเลียปากเล็กน้อย “ฉันจะพูดเรื่องน่ายินดีสักเรื่องให้คุณมีความสุขหน่อย”

เขาไม่ได้สูบซิการ์แต่กลับคีบมันไว้ในมือ วิปริตขั้นสุดจริงๆ ดูท่าทางเขาแต่งกายสุภาพเรียบร้อย แต่เป็นคนหน้าเนื้อใจเสือดีๆ นี่เอง

เขาไม่แสดงท่าทีอะไร ฉันจึงเริ่มพูดต่อ “สีชิงชวน เราหย่ากันเถอะ!”

คำพูดของฉันไม่ใช่อะไรที่กะทันหันจนน่าตกใจ มันเหมือนกับหยดน้ำที่หยดลงบนใยฝ้าย สีชิงชวนไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)