พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 12

สรุปบท ตอนที่ 12 เธอไม่ร้อนเหรอ: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

สรุปตอน ตอนที่ 12 เธอไม่ร้อนเหรอ – จากเรื่อง พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung

ตอน ตอนที่ 12 เธอไม่ร้อนเหรอ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดยนักเขียน Chompoo Prateung เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

โคตรอึดอัด โคตรน่าอาย

สีชิงชวนก้มตัวลงเก็บเสื้อชั้นในของฉันขึ้นแล้วส่งมาให้ “ของคุณเหรอ?”

คำพูดนี้นี่มัน… หรือเป็นของเขากันล่ะ?

ฉันรับมันมา รู้สึกเหมือนเลือดมันพุ่งมาบนศีรษะจนหน้าแดงไปหมดทั้งหน้า สายตาของเขากวาดสแกนไปทั่วร่างของฉันด้วยความสนใจตั้งแต่บนลงล่าง จากนั้นก็หยุดลงที่หน้าอกของฉัน

วันนี้ฉันใส่เสื้อเชิ้ตชีฟองมาแบบสบายๆ โดยด้านนอกใส่เสื้อโค้ตทับอีกชั้น ตอนนี้เสื้อชั้นในด้านในไม่มีแล้ว เสื้อเชิ้ตชีฟองโปร่งใสอย่างกับถุงพลาสติก แค่มองผ่านๆ ก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว

ฉันรีบพันเสื้อโค้ตทับให้มิดชิดโดยที่ในมือยังถือเสื้อชั้นในอยู่ สภาพฉันคงดูแย่มาก ฉันทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองภายในระยะเวลาอันสั้น ดูจากรูปการณ์แล้ว เดาว่าฉันคงไม่มีทางคุยกับเขาเรื่องหย่าต่อได้อีก

ฉันอยากหนีไปให้ไว แต่รู้สึกว่าเพลิงในตาของเขามันลุกไหม้ร้อนแรงเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่อีก ฉันได้กลิ่นอายแห่งความอันตรายจึงบีบคอเสื้อโค้ตไว้แน่นแล้วถอยไปที่บานประตู แต่เขาฉุดดึงเสื้อโค้ตฉันไว้ทัน และฉันก็ได้ยินเสียงฉีกขาดแวบเข้ามาในหู

ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา “คุณพี่ เสื้อโค้ตฉันไม่ใช่ของแบรนด์นะ ดึงแรงๆ มันจะขาดเอา”

“เป็นถึงคุณนายสี ซอมซ่อขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาพูดอย่างนั้นก็จริงแต่แรงที่มือเขากลับไม่แผ่วลงเลย ยังออกแรงเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

‘แควก’ รอยต่อระหว่างแขนเสื้อโค้ตที่น่าสงสารของฉันถูกดึงขาดและเผยให้เห็นหัวไหล่ของฉัน

เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข “นี่นับว่าเป็นความพิศวาสจนตัดแขนเสื้อไหม?”

“คุณอย่าทำเป็นไร้การศึกษา ตัดแขนเสื้อมันหมายถึงเพศเดียวกันต่างหาก”

“ยังไงในสายตาคุณผมก็เป็นไอ้โรคจิตนี่” เขาปล่อยมือออก แขนเสื้อฉันห้อยลงต่องแต่งอย่างกับหูหมูอย่างไรอย่างนั้น

ฉันจะออกไปได้ไงทั้งที่ตัวเองอยู่ในสภาพแบบนี้?

ในเวลานั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น น้ำเสียงของคุณเลขาสาวดังขึ้นอย่างงกๆ เงิ่นๆ “คุณสีคะ คุณเซียวมาค่ะ”

คุณเลขาสาวคงไม่ได้ตกใจสีชิงชวนจนสติไม่ดีไปแล้วใช่ไหม? ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ?

สีชิงชวนหมุนตัวกลับไปนั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน “อืม ให้เธอเข้ามา”

เมื่อประตูเปิดออก ฉันก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงดังขึ้น ฉันไม่สามารถจัดการอะไรอย่างอื่นได้ มือหนึ่งกำเข้าที่คอเสื้อโค้ต ส่วนอีกมือก็ถือเสื้อชั้นในของตัวเอง มองไปรอบๆ แล้วก็มุดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่

สีชิงชวนนี่ช่างเจ้าสำอางจริงๆ แม้แต่ในห้องทำงานเขายังมีตู้เสื้อผ้า ด้านในมีแต่ชุดสูทและเสื้อเชิ้ตเรียงเป็นตับ ประตูตู้เป็นระแนงเหมือนกับราวกั้น ซึ่งฉันสามารถมองเห็นด้านนอกผ่านร่องนั้นได้

ฉันเห็นเงาของใครคนหนึ่งที่มีรูปร่างอ่อนช้อยทรงเสน่ห์เดินเข้ามาจากประตูด้านนอก เธอสวมชุดกระโปรงสีขาว บนหัวไหล่มีเสื้อโค้ตขนแกะสีขาวแบบสั้นคลุมอยู่ เห็นแค่เงาฉันก็รู้แล้วว่าเป็นใคร

เธอคือเซียวซือ ในความทรงจำของฉัน เหมือนเธอจะไม่เคยใส่เสื้อผ้าสีอื่นเลย นอกจากสีขาว

“ทำไมจู่ๆ ถึงมาหาผม?”

“คุณไม่ได้อยากเจอจื่อไท่เหรอ? เที่ยงนี้เขาว่างพอดี ไปทานข้าวด้วยกันสิ” เซียวซือพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ แต่ยากที่จะจับอารมณ์ได้

จื่อไท่คือใคร? ขณะที่ฉันกำลังขบคิดก็ได้ยินเสียงของสีชิงชวนพูดขึ้น “คุณจะให้ผมไปเป็นก้างขวางคอเหรอ?”

“ถ้าคุณจะหาคนไปด้วยฉันก็ไม่ถือนะ แต่ช่วงเที่ยงคุณมีเวลาจำกัดไม่ใช่เหรอ?”

“คุณไปรอผมข้างนอกก่อน เดี๋ยวผมออกไป”

พวกเขาพูดคุยกันไม่กี่คำบทสนทนาก็จบลง จากนั้นเซียวซือก็เดินออกจากห้องทำงานไป

“เซียวเซิง เธอมาอยู่ที่นี่ได้ไง?”

“หึ…” ฉันกำคอเสื้อโค้ตไว้ ขนาดไซส์ฉันและเลขาสาวคนนั้นไม่เท่ากัน ฉันใส่เสื้อชั้นในของเธอไม่ได้ มันก็เลยยังโล่งโจ้งอยู่เหมือนเดิม

เราทานมื้อเที่ยงกันที่ภัตตาคารอาหารฝรั่งเศสใกล้ๆ บริษัทของสีชิงชวน ฉันไม่ค่อยชอบอาหารตะวันตกแบบนี้สักเท่าไร รู้สึกเฉยๆ ไปซะหมด

ฉันชอบไปทานร้านหม้อไฟหรือไม่ก็โรงน้ำชากว่างโจวที่มีเสียงผู้คนดังจอแจ มีคุณน้าที่เข็นรถเข็นอาหารผ่านมาข้างๆ แล้วถามว่า ‘คนสวย เอาตีนไก่ซีอิ๊วสักชุดไหม?’ แบบนั้นมากกว่า

ฉันเพิ่งเคยเจอแฟนของเซียวซือเป็นครั้งแรก ถ้ามองเดี่ยวๆ เขาก็ดูไม่เลวเลยทีเดียว แต่คนที่มาเทียบด้วยคือสีชิงชวน ฉันก็เลยไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมตอนแรกเซียวซือถึงทิ้งสีชิงชวนแล้วเลือกคบกับผู้ชายคนนี้ ตัดเรื่องรูปร่างหน้าตาออก แค่ออร่าของสีชิงชวนก็ชนะขาดแล้ว

แฟนของเซียวซือชื่อคังจื่อไท่ ครอบครัวเขาก็ทำธุรกิจเหมือนกัน ทางบ้านมีฐานะ แต่ถ้าเทียบกับตระกูลสีก็ยังถือว่าห่างกันอยู่มากโข

พวกเขาทักทายกัน ส่วนฉันนั่งลงฝั่งตรงข้ามทำตัวเป็นมนุษย์ล่องหนไม่มีตัวตน คังจื่อไท่อบอุ่นและใจใส่เซียวซือมากเซียวซือเพิ่งถอดเสื้อโค้ตออก คังจื่อไท่ก็รับมาแล้วส่งมันให้กับพนักงานให้พวกเขาเอาไปแขวนไว้ อาจเพราะตอนที่สีชิงชวนและเซียวซือคบกันมันไม่ได้เป็นแบบนี้ล่ะมั้ง!

“เซียวเซิง” จู่ๆ เซียวซือก็มองมาทางฉันแล้วพูดขึ้น “ในนี้เปิดฮีตเตอร์ เธอไม่ร้อนเหรอ?”

แน่นอนสิ ตอนเดินเข้ามาฉันก็รู้สึกแล้วว่ามันร้อน แต่ฉันถอดไม่ได้นี่ ฉันไม่ได้ใส่อะไรเลยภายใต้เสื้อไหมพรมคอลึก เสื้อมันทั้งรัดรูปทั้งคอลึกแบบนี้ แค่ก้มนิดเดียวคนก็เห็นหมดแล้ว

ฉันส่ายหน้าทันที “ไม่ร้อน ฉันยังหนาวอยู่เลย!”

“เธอป่วยหรือเปล่า?” เธอพูดกับสีชิงชวนอย่างสงสัย “คุณจะไม่ห่วงภรรยาคุณสักหน่อยเลยเหรอ?”

สีชิงชวนทำท่าเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ได้ยิ้ม “เธอไม่ใช่เด็กสักหน่อย ถ้าหนาวก็ใส่ ถ้าร้อนเดี๋ยวก็ถอดเอง ไม่ต้องรอให้คนอื่นเป็นห่วงหรอก”

ฉันยิ้มให้เซียวซือเล็กน้อย มันช่างน่าอึดอัดใจเหลือเกิน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)