พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 12

โคตรอึดอัด โคตรน่าอาย

สีชิงชวนก้มตัวลงเก็บเสื้อชั้นในของฉันขึ้นแล้วส่งมาให้ “ของคุณเหรอ?”

คำพูดนี้นี่มัน… หรือเป็นของเขากันล่ะ?

ฉันรับมันมา รู้สึกเหมือนเลือดมันพุ่งมาบนศีรษะจนหน้าแดงไปหมดทั้งหน้า สายตาของเขากวาดสแกนไปทั่วร่างของฉันด้วยความสนใจตั้งแต่บนลงล่าง จากนั้นก็หยุดลงที่หน้าอกของฉัน

วันนี้ฉันใส่เสื้อเชิ้ตชีฟองมาแบบสบายๆ โดยด้านนอกใส่เสื้อโค้ตทับอีกชั้น ตอนนี้เสื้อชั้นในด้านในไม่มีแล้ว เสื้อเชิ้ตชีฟองโปร่งใสอย่างกับถุงพลาสติก แค่มองผ่านๆ ก็เห็นได้ชัดเจนแล้ว

ฉันรีบพันเสื้อโค้ตทับให้มิดชิดโดยที่ในมือยังถือเสื้อชั้นในอยู่ สภาพฉันคงดูแย่มาก ฉันทำให้ตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นรองภายในระยะเวลาอันสั้น ดูจากรูปการณ์แล้ว เดาว่าฉันคงไม่มีทางคุยกับเขาเรื่องหย่าต่อได้อีก

ฉันอยากหนีไปให้ไว แต่รู้สึกว่าเพลิงในตาของเขามันลุกไหม้ร้อนแรงเสียยิ่งกว่าเมื่อครู่อีก ฉันได้กลิ่นอายแห่งความอันตรายจึงบีบคอเสื้อโค้ตไว้แน่นแล้วถอยไปที่บานประตู แต่เขาฉุดดึงเสื้อโค้ตฉันไว้ทัน และฉันก็ได้ยินเสียงฉีกขาดแวบเข้ามาในหู

ฉันรู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมา “คุณพี่ เสื้อโค้ตฉันไม่ใช่ของแบรนด์นะ ดึงแรงๆ มันจะขาดเอา”

“เป็นถึงคุณนายสี ซอมซ่อขนาดนี้เลยเหรอ?” เขาพูดอย่างนั้นก็จริงแต่แรงที่มือเขากลับไม่แผ่วลงเลย ยังออกแรงเพิ่มขึ้นอีกต่างหาก

‘แควก’ รอยต่อระหว่างแขนเสื้อโค้ตที่น่าสงสารของฉันถูกดึงขาดและเผยให้เห็นหัวไหล่ของฉัน

เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุข “นี่นับว่าเป็นความพิศวาสจนตัดแขนเสื้อไหม?”

“คุณอย่าทำเป็นไร้การศึกษา ตัดแขนเสื้อมันหมายถึงเพศเดียวกันต่างหาก”

“ยังไงในสายตาคุณผมก็เป็นไอ้โรคจิตนี่” เขาปล่อยมือออก แขนเสื้อฉันห้อยลงต่องแต่งอย่างกับหูหมูอย่างไรอย่างนั้น

ฉันจะออกไปได้ไงทั้งที่ตัวเองอยู่ในสภาพแบบนี้?

ในเวลานั้นเองก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น น้ำเสียงของคุณเลขาสาวดังขึ้นอย่างงกๆ เงิ่นๆ “คุณสีคะ คุณเซียวมาค่ะ”

คุณเลขาสาวคงไม่ได้ตกใจสีชิงชวนจนสติไม่ดีไปแล้วใช่ไหม? ฉันก็ยืนอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ?

สีชิงชวนหมุนตัวกลับไปนั่งบนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน “อืม ให้เธอเข้ามา”

เมื่อประตูเปิดออก ฉันก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงดังขึ้น ฉันไม่สามารถจัดการอะไรอย่างอื่นได้ มือหนึ่งกำเข้าที่คอเสื้อโค้ต ส่วนอีกมือก็ถือเสื้อชั้นในของตัวเอง มองไปรอบๆ แล้วก็มุดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่

สีชิงชวนนี่ช่างเจ้าสำอางจริงๆ แม้แต่ในห้องทำงานเขายังมีตู้เสื้อผ้า ด้านในมีแต่ชุดสูทและเสื้อเชิ้ตเรียงเป็นตับ ประตูตู้เป็นระแนงเหมือนกับราวกั้น ซึ่งฉันสามารถมองเห็นด้านนอกผ่านร่องนั้นได้

ฉันเห็นเงาของใครคนหนึ่งที่มีรูปร่างอ่อนช้อยทรงเสน่ห์เดินเข้ามาจากประตูด้านนอก เธอสวมชุดกระโปรงสีขาว บนหัวไหล่มีเสื้อโค้ตขนแกะสีขาวแบบสั้นคลุมอยู่ เห็นแค่เงาฉันก็รู้แล้วว่าเป็นใคร

เธอคือเซียวซือ ในความทรงจำของฉัน เหมือนเธอจะไม่เคยใส่เสื้อผ้าสีอื่นเลย นอกจากสีขาว

“ทำไมจู่ๆ ถึงมาหาผม?”

“คุณไม่ได้อยากเจอจื่อไท่เหรอ? เที่ยงนี้เขาว่างพอดี ไปทานข้าวด้วยกันสิ” เซียวซือพูดด้วยน้ำเสียงไพเราะ แต่ยากที่จะจับอารมณ์ได้

จื่อไท่คือใคร? ขณะที่ฉันกำลังขบคิดก็ได้ยินเสียงของสีชิงชวนพูดขึ้น “คุณจะให้ผมไปเป็นก้างขวางคอเหรอ?”

“ถ้าคุณจะหาคนไปด้วยฉันก็ไม่ถือนะ แต่ช่วงเที่ยงคุณมีเวลาจำกัดไม่ใช่เหรอ?”

“คุณไปรอผมข้างนอกก่อน เดี๋ยวผมออกไป”

พวกเขาพูดคุยกันไม่กี่คำบทสนทนาก็จบลง จากนั้นเซียวซือก็เดินออกจากห้องทำงานไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)