ตอนที่ 13 ฉันก็คืออุปกรณ์ประกอบฉาก – ตอนที่ต้องอ่านของ พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
ตอนนี้ของ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 13 ฉันก็คืออุปกรณ์ประกอบฉาก จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
ฉันนั่งอยู่ในภัตตาคารที่หรูหราโอ่อ่า ผู้คนข้างกายที่ผ่านไปมาล้วนเป็นสาวสวยแฟชั่น Y.SING ด้วยกันทั้งนั้น ฉันห่อตัวอยู่ในเสื้อโค้ตขนยาวและนั่งอยู่ที่นี่แบบนี้ มันดูไม่ค่อยสุภาพและไม่เข้ากันสักเท่าไร แค่หั่นเนื้อฉันยังหั่นจนเหงื่อแตกไปทั้งหน้าเลย
เซียวซือเพิ่งหั่นเสร็จได้ชิ้นหนึ่ง เธอหยุดลงแล้วมองฉัน “เซียวเซิง เธอร้อนมากเลยเหรอ?”
“อ้อ ไม่ใช่หรอก ฉันเหงื่อไหลมากผิดปกติน่ะ”
“ร้อนก็ถอดเสื้อโค้ตออก เสื้อโค้ตเธอแพงมากเลยเหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“เซียวซือบอกให้ถอดคุณก็ถอดสิ คนเขาอุตส่าห์หวังดี” สีชิงชวนเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฉันล่ะอยากใช้ส้อมที่อยู่ตรงหน้านี่แทงเขาให้ตายจริงๆ คนอื่นไม่รู้ว่ามันเป็นมายังไง เขายังไม่รู้อีกเหรอ ฉันจะถอดมันได้ไงล่ะ?
ฉันพูดยิ้มๆ “ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ฉันรีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วถอดเสื้อโค้ตออกและวางมันไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เสื้อโค้ตของคุณเลขาตัวนี้ทั้งร้อนและหนามาก มันทำให้ฉันร้อนแทบตาย
ฉันวางเสื้อโค้ตไว้แล้วเดินเข้าห้องน้ำ แต่ในตอนที่ฉันเดินออกมาเพื่อล้างมือก็พบว่าเสื้อโค้ตตัวนั้นมันหายไปแล้ว ฉันตามหามันทั้งข้างนอกและข้างในก็หาไม่เจอ เมื่อฉันถามคุณน้าแม่บ้านที่ทำความสะอาดห้องน้ำ เธอก็บอกว่าไม่รู้
ฉันยืนอยู่หน้ากระจกแล้วมองภาพสะท้อนของตัวเองที่กำลังหวั่นวิตก สภาพผีบ้าแบบนี้จะออกไปยังไงล่ะเนี่ย?
เสื้อไหมพรมคอลึกของคุณเลขาสาวยังแนบเนื้ออยู่เลย ฉันยืดอกเล็กน้อยทำให้เห็นว่าส่วนโค้งของหน้าอกมันเห็นเป็นเค้าโครงชัดเจน เพราะปัญหาคือฉันไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน ยังดีที่ฉันเอาโทรศัพท์มาด้วยจึงต้องโทรหาสีชิงชวนอย่างไม่มีทางเลือก
เขารับสายและพูดออกมาเสียงแข็ง “ระยะห่างจากห้องน้ำมาถึงห้องอาหารแค่นี้ จำเป็นต้องโทรด้วยเหรอ?”
“สีชิงชวน” ฉันหดตัวอยู่ในมุมแล้วพูดกับเขาเสียงเบา “คุณเอาเสื้อโค้ตคุณมานี่หน่อย มีคนเอาเสื้อโค้ตฉันไป ฉันออกไปไม่ได้”
“คุณนี่ลูกเล่นเยอะจริงนะ”
“ฉันเป็นแบบนี้เพราะอะไรล่ะ? ไม่ใช่เพราะคุณดึงเสื้อผ้าฉันจนมันขาดหรือไง” เมื่อถูกเร้าอารมณ์เข้าฉันก็พูดออกมาอย่างเสียงดังจนคุณผู้หญิงที่เดินผ่านมาใกล้ๆ อดไม่ได้ที่จะหันมามอง
ฉันปิดบังใบหน้าตัวเองแล้วมุดตัวเข้ามุม “สีชิงชวน ถ้าคุณไม่เอาเสื้อมาให้ฉัน ฉันจะฟ้องคุณย่าว่าคุณรังแกฉัน”
“นอกจากเอาคุณย่ามาเป็นโล่ให้ตัวเองแล้ว คุณทำอะไรเป็นบ้าง?”
“คุณบังคับฉันเอง ฉันรู้ว่าที่ฉันพูดเรื่องการหย่าวันนี้มันทำให้คุณไม่พอใจ คุณก็เลยแกล้งฉัน สีชิงชวน…” ฉันยังพูดไม่จบก็ถูกคนหิ้วออกมาจากห้องน้ำด้วยแขนข้างเดียว แล้วฉันก็ชนเข้ากับแผงอกของใครคนหนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเขาคือสีชิงชวน
นับว่าเขายังมีความเป็นคนอยู่บ้าง อย่างน้อยในตอนที่ฉันโทรหา เขาก็ยังมาที่ห้องน้ำนี่
ฉันรีบคว้าเสื้อโค้ตของเขาที่พาดอยู่บนข้อพับของเจ้าตัว แต่เขากลับคว้าข้อมือฉันไว้ “เอาไปเฉยๆ งี้เลยเหรอ?”
“งั้นต้องทำไง?”
สีชิงชวนหันไปด้านข้างเล็กน้อย ฉันมองผ่านตัวเขาไปด้านหลังก็เห็นว่าเซียวซือและคังจื่อไท่คนนั้นกำลังกอดกันอยู่
ฉันไม่มีปฏิกิริยาในทันที แต่ทันใดนั้นเองสีชิงชวนก็ยื่นมือออกมาข้างหนึ่งแล้วโอบเอวฉันไว้ “คนอื่นยังไม่แต่งงานก็พลอดรักกันแล้ว คุณคิดว่าคุณควรทำยังไง?”
เขาหมายถึงให้ฉันกอดเขาด้วยเหรอ?
แค่จะเอาเสื้อโค้ตเขาตัวเดียวเนี่ยต้องกอดด้วยเหรอ ฉันยังไม่ทันได้ยื่นแขนออกไป สีชิงชวนก็โอบเข้าที่เอวของฉันแล้วก้มศีรษะลงมาพร้อมกับกดจูบลงที่กลีบปากของฉัน
ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้ต้องการจูบฉันจริงๆ ฉันก็แค่ฉากประกอบ เพราะเขาจูบให้เซียวซือดูต่างหาก น่าเบื่อจริงๆ ที่ฉันต้องมาเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากให้คนอื่น
“พี่คะ ดูพี่จะสนใจสีชิงชวนเขาเหลือเกินนะ”
ฉันพูดจี้จุด เซียวซือจึงชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ยิ้มออกมาทันที “ฉันแค่อยากเตือนเธอ สีชิงชวนไม่ใช่คนแบบที่เธอเห็นภายนอก”
“งั้นเป็นแบบไหนล่ะ?”
เธอกลับไม่พูดต่ออีก แต่เดินออกจากร้านไปทันที ฉันรับบัตรมาจากพนักงานแคชเชียร์แล้วรีบรุดเดินตามเธอออกไป
เซียวซือขับรถมาเอง ฉันจึงนั่งรถเธอไปรับคุณย่าที่โรงพยาบาล
ด้านนอกห้องพักฟื้นของคุณย่ามีคนเต็มไปหมด ทั้งพี่สะใภ้ใหญ่และพี่สะใภ้รอง พวกเธอต่างก็มารับคุณย่ากันทั้งนั้น พวกเธอไม่ค่อยสนใจฉันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่เมื่อเห็นเซียวซือก็กล่าวทักทายขึ้นอย่างกระตือรือร้น
“อุ๊ย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ คุณเซียว ทำไมถึงสวยวันสวยคืนขนาดนี่เนี่ย?”
“คุณเซียว ไม่มาเที่ยวบ้านเราซะนานเลย วันหลังมาเที่ยวที่บ้านบ้างสิ ฉันชอบเล่นไพ่กับคุณเซียวมากเลย เข้ามาให้ฉันรุก”
แม่ของสีชิงชวนก็อยู่เช่นกัน ว่ากันว่าความสัมพันธ์ของแม่ผัวกับลูกสะใภ้เข้ากันไม่ค่อยได้ ความสัมพันธ์ของฉันกับท่านไม่ได้นับว่าดี ส่วนความสัมพันธ์ของท่านกับคุณย่ายิ่งธรรมดาไปใหญ่ ธรรมดาจนเทียบไม่ได้กับความสนิทของคุณย่ากับคนรับใช้ท่านที่บ้านอย่างอาหลิวเลยด้วยซ้ำ
เมื่อแม่ของสีชิงชวนเห็นเซียวซือจึงยิ้มออกมาบ้าง ฉันเข้าตระกูลสีตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่เคยเห็นท่านยิ้มให้ฉันเลยสักครั้ง ระหว่างที่พวกเขาทักทายกัน ฉันก็เข้าไปเยี่ยมคุณย่า ท่านนั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“เป็นอะไรไปคะคุณย่า?” ฉันเดินไปแล้วก้มตัวลง สีหน้าของคุณย่าดูไม่สดใสสักเท่าไร “เสียงดังน่ารำคาญ ฉันตายเหรอถึงมากันเป็นโขยงขนาดนี้ มาแห่ขบวนศพกันมั้งเนี่ย!”
“ถุยๆๆ” ฉันรีบกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “คุณย่า คุณย่าอย่าพูดจาแบบนี้ได้ไหมคะ รีบถุยๆๆ กับหนูเร็ว”
“ย่าไม่ถุยหรอก แก่จะลงโลงอยู่แล้ว ย่ายังต้องกลัวอะไรอีก?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...