ฉันนั่งอยู่ในภัตตาคารที่หรูหราโอ่อ่า ผู้คนข้างกายที่ผ่านไปมาล้วนเป็นสาวสวยแฟชั่น Y.SING ด้วยกันทั้งนั้น ฉันห่อตัวอยู่ในเสื้อโค้ตขนยาวและนั่งอยู่ที่นี่แบบนี้ มันดูไม่ค่อยสุภาพและไม่เข้ากันสักเท่าไร แค่หั่นเนื้อฉันยังหั่นจนเหงื่อแตกไปทั้งหน้าเลย
เซียวซือเพิ่งหั่นเสร็จได้ชิ้นหนึ่ง เธอหยุดลงแล้วมองฉัน “เซียวเซิง เธอร้อนมากเลยเหรอ?”
“อ้อ ไม่ใช่หรอก ฉันเหงื่อไหลมากผิดปกติน่ะ”
“ร้อนก็ถอดเสื้อโค้ตออก เสื้อโค้ตเธอแพงมากเลยเหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างนั้น”
“เซียวซือบอกให้ถอดคุณก็ถอดสิ คนเขาอุตส่าห์หวังดี” สีชิงชวนเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฉันล่ะอยากใช้ส้อมที่อยู่ตรงหน้านี่แทงเขาให้ตายจริงๆ คนอื่นไม่รู้ว่ามันเป็นมายังไง เขายังไม่รู้อีกเหรอ ฉันจะถอดมันได้ไงล่ะ?
ฉันพูดยิ้มๆ “ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
ฉันรีบเดินเข้าห้องน้ำแล้วถอดเสื้อโค้ตออกและวางมันไว้บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เสื้อโค้ตของคุณเลขาตัวนี้ทั้งร้อนและหนามาก มันทำให้ฉันร้อนแทบตาย
ฉันวางเสื้อโค้ตไว้แล้วเดินเข้าห้องน้ำ แต่ในตอนที่ฉันเดินออกมาเพื่อล้างมือก็พบว่าเสื้อโค้ตตัวนั้นมันหายไปแล้ว ฉันตามหามันทั้งข้างนอกและข้างในก็หาไม่เจอ เมื่อฉันถามคุณน้าแม่บ้านที่ทำความสะอาดห้องน้ำ เธอก็บอกว่าไม่รู้
ฉันยืนอยู่หน้ากระจกแล้วมองภาพสะท้อนของตัวเองที่กำลังหวั่นวิตก สภาพผีบ้าแบบนี้จะออกไปยังไงล่ะเนี่ย?
เสื้อไหมพรมคอลึกของคุณเลขาสาวยังแนบเนื้ออยู่เลย ฉันยืดอกเล็กน้อยทำให้เห็นว่าส่วนโค้งของหน้าอกมันเห็นเป็นเค้าโครงชัดเจน เพราะปัญหาคือฉันไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน ยังดีที่ฉันเอาโทรศัพท์มาด้วยจึงต้องโทรหาสีชิงชวนอย่างไม่มีทางเลือก
เขารับสายและพูดออกมาเสียงแข็ง “ระยะห่างจากห้องน้ำมาถึงห้องอาหารแค่นี้ จำเป็นต้องโทรด้วยเหรอ?”
“สีชิงชวน” ฉันหดตัวอยู่ในมุมแล้วพูดกับเขาเสียงเบา “คุณเอาเสื้อโค้ตคุณมานี่หน่อย มีคนเอาเสื้อโค้ตฉันไป ฉันออกไปไม่ได้”
“คุณนี่ลูกเล่นเยอะจริงนะ”
“ฉันเป็นแบบนี้เพราะอะไรล่ะ? ไม่ใช่เพราะคุณดึงเสื้อผ้าฉันจนมันขาดหรือไง” เมื่อถูกเร้าอารมณ์เข้าฉันก็พูดออกมาอย่างเสียงดังจนคุณผู้หญิงที่เดินผ่านมาใกล้ๆ อดไม่ได้ที่จะหันมามอง
ฉันปิดบังใบหน้าตัวเองแล้วมุดตัวเข้ามุม “สีชิงชวน ถ้าคุณไม่เอาเสื้อมาให้ฉัน ฉันจะฟ้องคุณย่าว่าคุณรังแกฉัน”
“นอกจากเอาคุณย่ามาเป็นโล่ให้ตัวเองแล้ว คุณทำอะไรเป็นบ้าง?”
“คุณบังคับฉันเอง ฉันรู้ว่าที่ฉันพูดเรื่องการหย่าวันนี้มันทำให้คุณไม่พอใจ คุณก็เลยแกล้งฉัน สีชิงชวน…” ฉันยังพูดไม่จบก็ถูกคนหิ้วออกมาจากห้องน้ำด้วยแขนข้างเดียว แล้วฉันก็ชนเข้ากับแผงอกของใครคนหนึ่ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าเขาคือสีชิงชวน
นับว่าเขายังมีความเป็นคนอยู่บ้าง อย่างน้อยในตอนที่ฉันโทรหา เขาก็ยังมาที่ห้องน้ำนี่
ฉันรีบคว้าเสื้อโค้ตของเขาที่พาดอยู่บนข้อพับของเจ้าตัว แต่เขากลับคว้าข้อมือฉันไว้ “เอาไปเฉยๆ งี้เลยเหรอ?”
“งั้นต้องทำไง?”
สีชิงชวนหันไปด้านข้างเล็กน้อย ฉันมองผ่านตัวเขาไปด้านหลังก็เห็นว่าเซียวซือและคังจื่อไท่คนนั้นกำลังกอดกันอยู่
ฉันไม่มีปฏิกิริยาในทันที แต่ทันใดนั้นเองสีชิงชวนก็ยื่นมือออกมาข้างหนึ่งแล้วโอบเอวฉันไว้ “คนอื่นยังไม่แต่งงานก็พลอดรักกันแล้ว คุณคิดว่าคุณควรทำยังไง?”
เขาหมายถึงให้ฉันกอดเขาด้วยเหรอ?
แค่จะเอาเสื้อโค้ตเขาตัวเดียวเนี่ยต้องกอดด้วยเหรอ ฉันยังไม่ทันได้ยื่นแขนออกไป สีชิงชวนก็โอบเข้าที่เอวของฉันแล้วก้มศีรษะลงมาพร้อมกับกดจูบลงที่กลีบปากของฉัน
ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้ต้องการจูบฉันจริงๆ ฉันก็แค่ฉากประกอบ เพราะเขาจูบให้เซียวซือดูต่างหาก น่าเบื่อจริงๆ ที่ฉันต้องมาเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากให้คนอื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...