เหมือนคุณย่าจะไม่ชอบเซียวซือ ท่านเป็นคนตรงไปตรงมา เวลาที่ต้องเจอหน้าคนที่ตนไม่ปลื้ม ท่านจะไม่เผยรอยยิ้มบนใบหน้าสักนิด แม้เซียวซือจะเอาของว่างที่ท่านชอบทานมาให้ แต่ท่านก็ไม่สนใจ แค่ดึงมือของฉันแล้วพูดว่า “เสี่ยวเซิงเซิง ที่นี่น่าเบื่อมากเลย พวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
ฉันส่งยิ้มเชิงขอโทษให้เซียวซือ จากนั้นก็เข็นเก้าอี้วีลแชร์ของคุณย่าไป
อันที่จริงคุณย่าก็เดินเหินได้อยู่นะ ทว่าท่านพึ่งออกจากโรงพยาบาล ร่างกายยังคงอ่อนแออยู่บ้าง ดังนั้นการนั่งวีลแชร์จึงเรื่องที่ปลอดภัยกว่า
ฉันเข็นวีลแชร์อยู่ด้านหน้า ด้านหลังก็มีคนตามหลังต้อยๆ เป็นกลุ่ม
แม่ของสีชิงชวนเดินตามด้านข้าง และกำลังคุยเรื่องงานกาล่าการกุศลของคืนนี้กับเซียวซือ ดูจากรูปการณ์แล้วเหมือนพวกเธอสองคนจะไปร่วมงาน
คุณย่าพูดแทรกกะทันหัน “งานกาล่าคืนนี้เสี่ยวชวนจะไปร่วมด้วยไหม?”
“เขาไปอยู่แล้วค่ะ” แม่ของสีชิงชวนตอบ
“แล้วส่งชุดราตรีของเสี่ยวเซิงเซิงมาหรือยัง?”
“ชุดราตรีอะไรคะ?” เธอชะงักงัน
ฉันรีบเข้าไปกระซิบบอกคุณย่าว่า “หนูไม่ไปค่ะคุณย่า”
“แล้วใครเป็นคู่ควงของเสี่ยวชวนล่ะ?”
“คืนนี้ชิงชวนจะเต้นรำเพลงแรกของงานค่ะ แล้วเซียวซือก็เต้นได้ดี พวกเขาเต้นเข้ากันด้วย ดังนั้นแค่ให้พวกเขาซ้อมก่อนงานเริ่มนิดหน่อยก็ได้แล้วค่ะ”
“เสี่ยวเซิงเซิงของบ้านเราก็เต้นเป็นใช่ไหม?” คุณย่าใช้นิ้วจิ้มเอวของฉัน พลางส่งสายตาคะยั้นคะยอมาให้
ความจริงฉันก็เต้นเป็นอยู่ และเต้นได้ดีมากด้วย แต่ประเด็นคือฉันไม่อยากไป
ฉันเม้มปาก “เต้นไม่ดีค่ะ”
“ซ้อมแป๊บหนึ่งก็ได้แล้วนี่ เดี๋ยวคืนนี้ย่าจะให้เสี่ยวชวนกลับเร็วหน่อย คนมีเมียจะไปหาผู้หญิงคนอื่นมาเต้นคู่ มันแปลกๆ ชอบกล” คุณย่าพูดเน้นเสียงว่า “รีบไปเตรียมชุดให้เสี่ยวเซิงเซิงเดี๋ยวนี้ ต้องให้ชุดเข้ากับชุดของเสี่ยวชวนด้วยนะ ตกลงตามนี้แล้วกัน”
แม่ของสีชิงชวนฝืนยิ้มฝืดๆ ส่วนเซียวซือกลับยิ้มเอ่ยอย่างธรรมชาติว่า “คืนนี้หนูมีคู่ควงแล้วค่ะ เป็นแฟนหนุ่มของหนูเอง”
เซียวซือพูดแบบนี้ถือว่าให้ตัวเองกับคุณแม่ของสีชิงชวนผ่านพ้นสถานการณ์อันกระอักกระอ่วนไป
คุณย่าออกคำสั่งแล้ว ฉันจะทำอะไรได้อีก?
ฉันกำลังคิดว่าพอสีชิงชวนเห็นหน้าฉันคืนนี้ เขาต้องโมโหควันออกหูแน่ เขายังคงมโนไปไกลว่าคืนนี้จะได้เต้นคู่กับเซียวซือ ทว่ากลับเปลี่ยนเป็นฉันอย่างคาดไม่ถึง
บอดี้การ์ดอุ้มคุณย่าขึ้นรถ ฉันก็ขึ้นไปด้วย และมีคุณแม่ของสีชิงชวนกับเซียวซือนั่งแถวหลังของรถ
ฉันทำหน้ากลุ้มแล้วตบถั่วเคลือบช็อคโกแลตในมือของท่าน “กินได้แค่หนึ่งเม็ดนะคะ”
ท่านรีบยัดเข้าปากตัวเอง เคลิบเคลิ้มราวกับขึ้นสวรรค์เป็นทวยเทพก็ไม่ปาน “มีเพียงตอนที่ได้กินช็อกโกแลตนี่แหละถึงจะรู้สึกว่ายังมีชีวิตอยู่”
“กินยาดีๆ แล้วอาทิตย์หน้าคุณย่าจะได้กินสองเม็ดค่ะ”
คุณย่ายิ้มตาหยี “ดีๆๆ”
ฉันคว้าโอกาสตอนที่คุณย่าอารมณ์ดีเจรจากับท่าน “คุณย่าคะ หนูไม่ไปงานเลี้ยงราตรีคืนนี้ได้ไหมคะ?”
“ไม่ได้” ท่านปฏิเสธอย่างหนักแน่น “ไม่ได้”
“หนูเต้นรำไม่เป็นและไม่ชอบไปที่แบบนั้นด้วยค่ะ”
“เสี่ยวเซิงเซิง คนอื่นอยากไปที่แบบนั้นใจแทบขาด เจ้างั่งเอ่ย” มือเหี่ยวย่นของคุณย่าจับมือของฉัน “อีกอย่าง คืนนี้เซียวซือก็ไปด้วยนะ หรือหนูอยากให้พวกเขาอยู่กันสองต่อสอง?”
“คุณย่า เซียวซือมีแฟนอยู่นะคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...