ฉันโมโหเฉียวอี้จนแทบบ้า อยากจะถีบเธอสักทีจริงๆ
ฉันจ้องหน้าสีจิ่นยวน “นายถามคำถามอะไร นายสนใจด้วยเหรอว่าฉันเคยมีความรักไหม?”
“ก็แค่ถาม ความจริงความกล้าไง ก็ต้องถามอะไรที่มันสำคัญๆ อยู่แล้ว”
“อะไรที่สำคัญมันไม่ควรจะเป็นคำถามที่ว่าฉันมีเงินออมอยู่เท่าไหร่เหรอ?”
“ผมไม่ได้จนกว่าพี่ ผมไม่แคร์ว่าพี่จะมีเท่าไหร่” สีชิงชวนตอบด้วยท่าทางลำบากใจ ใช่สิ เขาเป็นลูกมหาเศรษฐีนี่ พี่ชายเขาเป็นเจ้าสัวทางการเงิน คุณชายมหาเศรษฐีที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาตั้งแต่เด็กจะขาดแคลนเงินได้ไง?
“เซียวเซิง ไม่ใช่ว่าเธอแคร์ความคิดของสีชิงชวนหรอกใช่ไหม เขาไม่ได้แคร์สักหน่อย” เฉียวอี้ดื่มต่อ แต่ฉันแย่งแก้วของเธอมา ทำให้เธอดื่มต่อไม่ได้อีกแล้ว
“บอกว่าอย่าพูดถึงหนีอีโจว ตอนนี้เหมือนสีชิงชวนจะโกรธแล้วด้วย”
“โกรธก็โกรธสิ สีชิงชวนนี่ขี้น้อยใจจริง พี่เสี่ยวฉวนเป็นทนายนะ การหาจุดอ่อนของเขามาใช้ว่าความมันเป็นสัญชาตญาณในหน้าที่การงาน เขาเอาคืนก็ได้นี่!”
เฉียวอี้และสีจิ่นยวนไม่มีท่าทีกังวล ฉันถอดรองเท้าแตะแล้วตีเธอ “เธอบื้อหรือเปล่า ถ้าสีชิงชวนเอาคืนจริงๆ เธอคิดว่าหนีอีโจวจะรับมือได้เหรอ?”
“เพราะงั้น เธอกำลังปกป้องพี่เสี่ยวฉวนงั้นสิ?” เฉียวอี้อมลูกชิ้นเนื้อวัวลูกหนึ่งไว้ในปากจนแก้มเธอปูดโปนขึ้นมาเหมือนกับหนูแฮมสเตอร์แสนโง่เง่า
ฉันคร้านจะต่อความยาวสาวความยืดกับเธอจึงเช็ดปากและเดินตามออกไป
สวนดอกไม้ที่บ้านเฉียวอี้กว้างมาก แบ่งเป็นสวนทางทิศตะวันออกและสวนทางทิศตะวันตก ในสวนปลูกดอกไม้ที่ชื่อเสียงโด่งดังและมีราคามากมาย
ไม่ใช่ว่าแม่ของเฉียวอี้จะชอบดอกไม้ แต่เธอคิดว่าปลูกดอกไม้ล้ำค่าและมีชื่อเสียงไว้ในสวนให้เต็มจะทำให้ดูมีเกรด
แม่ของฉันชอบปลูกดอกไม้ ในบ้านปลูกดอกไม้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังและมีราคามากมาย มีส่วนหนึ่งที่ย้ายมาจากแปลงปลูกดอกไม้ที่บ้านของฉัน
ดังนั้นในสวนดอกไม้บ้านเฉียวอี้มีเงาของคุณแม่ของฉันอยู่ ฉันชอบมาที่นี่มาก ทุกครั้งที่มาที่บ้านของเฉียวอี้ก็จะมานั่งเล่นในสวนดอกไม้นานเป็นชั่วโมง
ฉันเดินหาสีชิงชวนที่แปลงปลูกดอกไม้ในสวนทางทิศตะวันออก เขากำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หิน ฉันคิดว่าเขากำลังสูบบุหรี่เสียอีก แต่เขาทำแค่นั่งไม่มีอะไรทำอยู่คนเดียวอย่างโดดเดี่ยว
ด้านหลังเขามีโคมไฟประดับสวนอยู่ดวงหนึ่ง มันส่องฉายภาพเงาอันทรงพลังของเขาลงบนพื้น
ฉันเดินเข้าไปและพูดขึ้น “ตรงนี้มียุงนะ”
เขาหันกลับมามองฉันแวบหนึ่ง “มาสูดอากาศในสวนน่ะ ทั้งตัวมีแต่กลิ่นหม้อไฟ”
ฉันลืมไปเลยว่าสีชิงชวนมีนิสัยรักความสะอาดอยู่นิดหน่อย ฉันมองข้างล่างก้นของเขา “ฉันคิดว่าเวลาคุณนั่งบนเก้าอี้หินนี่คุณจะรองก้นด้วยผ้าเช็ดหน้าซะอีก”
เขาไม่ได้ตอบฉัน และฉันก็เห็นว่าบนโต๊ะหินมีกล่องบุหรี่ของเขาวางอยู่บนนั้น ซิการ์มวนหนึ่งถูกดึงออกมาแล้วแต่มันกลับไม่ได้ถูกจุดไฟสูบ
“ทำไมไม่สูบบุหรี่ล่ะ? ฉันคิดว่าคุณจะออกมาสูบบุหรี่ตรงนี้ซะอีกนะ”
ถึงสีชิงชวนจะไม่ได้ติดบุหรี่ แต่บางครั้งวันหนึ่งฉันก็จะเห็นเขาสูบอยู่บ้างประมาณหนึ่งถึงสองมวน ไม่ได้เยอะแยะอะไร
สีชิงชวนรู้จักการควบคุมและจำกัดให้อยู่ในเกณฑ์ ไม่มีอะไรที่เขาควบคุมไม่ได้
“ดอกไม้ที่นี่หอมมาก” เขาสูดหายใจเข้า “ไม่อยากให้กลิ่นบุหรี่ไปรบกวนพวกมัน”
ทันใดนั้นส่วนที่อ่อนโยนที่สุดในใจฉันก็ถูกกระตุ้นขึ้น ฉันมองจอมโหดที่อยู่ตรงหน้า มีความรู้สึกที่สุดแสนจะซับซ้อนทั้งยังอธิบายไม่ได้เกิดขึ้นในใจ
สีชิงชวนดูเป็นคนเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่จริงๆ แล้วส่วนลึกในใจเขากลับมีส่วนที่ละเอียดอ่อนอยู่มาก
ฉันนั่งลงตรงข้ามเขาและเท้าคางสัมผัสกลิ่นหอมของดอกไม้ไปกับเขา
ทันใดนั้นเขาก็ถามฉันขึ้น “นี่ดอกอะไร คุณรู้ไหม?”
“ดอกราตรี” ฉันตอบ
“ดอกราตรีที่เติ้งลี่จวินร้องน่ะเหรอ?”
“ดอกราตรีมีแค่แบบนี้ ถ้าดอกราตรีที่เติ้งลี่จวินร้องเป็นดอกไม้ งั้นก็คงอันนี้แหละ”
สีชิงชวนหันกลับไปมองดอกไม้ในแปลงปลูกดอกไม้พวกนั้น “ที่แท้ดอกราตรีก็เป็นแบบนี้นี่เอง เหมือนดอกแดฟโฟดิลเลย”
“คุณรู้จักดอกแดฟโฟดิลด้วยเหรอ เหลือเชื่อจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...