พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 186

“ใครบอกว่าผมเจ็บปวดล่ะ?”

“แล้วคุณยังเดินช้าอีกทำไมล่ะ?” ฉันยื่นมือไปที่เขา “มาค่ะ ฉันจะจับคุณไว้ จะทำให้คุณเดินได้คล่องขึ้นมาหน่อยค่ะ”

“คุณน่าจะกลัวว่าตัวเองจะล้มมากกว่าล่ะมั้ง เหมือนเมื่อกี้นั่นไง?”

เอาเถอะ แล้วแต่เขาจะอยากพูดอะไรละ แต่ว่า เขาก็ยื่นมือออกมาจับมือของฉันเอาไว้แล้วเดินไปข้างหน้าพร้อมกับฉัน ความรู้สึกนี้มันช่างแสนวิเศษมาก นึกไม่ถึงว่าฉันกับสีชิงชวนจะปรองดองกันแล้วจับมือเดินบนถนนลูกรังด้วยเท้าเปล่าด้วยกัน บรรยากาศช่างเงียบสงบราวกับว่าสิ่งมีชีวิตทุกสิ่งต่างหลับใหลกันไปหมดแล้ว

ฉันที่กำลังเสพสุขกับความสงบนี้อยู่นั้น ทันใดนั้นสีชิงชวนพูดขึ้นมาว่า “เซียวเซิง”

“หื้ม”

“มือผมข้างนี้จับมือของคุณไว้”

“อืม” ไม่รู้ว่าเขาต้องการจะพูดอะไรต่อ

“มืออีกข้างหนึ่งถือรองเท้าเอาไว้”

ฉันรู้ดีอยู่แล้วว่าเขาไม่มีคำพูดอะไรที่ดี แล้วฉันหันไปมองที่เขา “ฉันก็เหมือนกันนิ คุณคิดว่าคุณจะฉวยโอกาสจากฉันได้อย่างงั้นเหรอ?”

ฉันคิดว่าเขาจะโมโหซะอีก ใครจะไปนึกว่าเขากลับหัวเราะออกมา เขายังหัวเราะเสียงดังซะด้วย เสียงหัวเราะของเขานั้นมันช่างอ่อนโยนซะเหลือเกิน สะท้อนในสายลมยามค่ำคืนที่อ้างว้าง เขาหัวเราะจนทำให้ฉันขนลุกซู่ขึ้นมาทันที มองดูเขาอย่างประหลาดใจ แต่ว่า มีบางสิ่งที่แปลกมากๆกำลังกลิ้งไปมาบนหน้าอกของฉัน ออกแรงกดมันลงไปอย่างไรก็กดไม่ลง ไม่รู้ว่าคืออะไร

ฉันมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้เลยว่าเขาเริ่มเข้าใกล้ฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ จากนั้นเขาก็ใช้มือข้างที่ถือรองเท้าจับแก้มฉันไว้ แล้วจูบฉันเอาไว้ แสงสว่างไสวของพระจันทร์ที่อยู่บนท้องฟ้า เงาของต้นไม้ที่ทอดยาว บรรยากาศที่เต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกขจร

คนหล่อแบบสีชิงชวนมีแค่หนึ่งในหมื่นคนเท่านั้นที่กำลังจูบฉัน ฉันรู้สึกว่าเงาของต้นสนดาบลอยสูงเทียมเมฆบนท้องฟ้า งดงามดั่งเมฆาที่ลอยละลิ่วในยามราตรี พวกมันปกคลุมดวงตาของฉันเอาไว้ แต่พอหลับตาลง ภาพของสีชิงชวนก็จะปรากฏต่อหน้าฉันชัดเจนยิ่งขึ้น ฉันพยายามลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับหลับตาเอาไว้ ไฟริมทางไม่ค่อยสว่างมากนัก แต่ฉันกลับเห็นขนตาเขากระพือเล็กน้อย ทำให้หัวใจของฉันเต้นระรัว ในค่ำคืนนี้ ณ เวลานี้ มันช่างงดงามมาก จนกระทั่งปลายเชือกผูกรองเท้าที่เป็นพลาสติกหุ้มเอาไว้ของรองเท้ากีฬาของเขาทิ่มแทงบนหน้าฉัน ฉันถึงตื่นขึ้นมาจากความรู้สึกที่เหมือนอยู่ในความฝัน ฉันผลักเขาออกอย่างแรงทันที เขายังไม่ทันได้ประคองตัวเองให้ยืนดีๆก็นั่งลงกับพื้นเลย ผิวถนนที่ขรุขระ และยังเป็นหน้าร้อนอีกด้วย กางเกงที่เขาสวมใส่มันเลยบางมาก เขากรีดร้องขึ้นมาเสียงเบาๆ

ฉันรีบไปดึงเขาขึ้น และรู้สึกผิดขึ้นมา “ใครให้คุณใช้มือข้างที่ถือรองเท้ามาจับหน้าฉันล่ะ เชือกรองเท้าของคุณทิ่มหน้าฉันเข้าอย่างจังเลย”

“ผมก็นึกว่าคำแรกที่คุณจะเอ่ยขึ้นมาคือถามว่าผมจูบคุณทำไม”

“ใช่ แล้วคุณจูบฉันทำไมล่ะ?” ถ้าเขาไม่เอ่ยขึ้นมาฉันเกือบจะลืมเรื่องนี้ไปแล้ว

“ผมจะไปรู้ได้ยังไง?” เขามองฉันอย่างประหลาดใจยิ่งกว่าที่ฉันมองเขาอีก “อาจเป็นเพราะพระจันทร์คืนนี้มันสวยมากมั้ง เลยทำให้คุณที่อยู่ใต้แสงจันทร์ดูสวยขึ้นมาเป็นพิเศษ”

ถ้ารู้ว่าเขาใจดำแบบนี้ตั้งแต่แรก ฉันก็ไม่ดึงเขาขึ้นมาแล้ว

“สวย แล้วคุณก็มาจูบฉันงั้นเหรอ?”

“นั่นแสดงว่าผมไม่ใช่เกย์ไง!”

“งั้นฉันถามคุณหน่อย” ฉันยังมีคำถามที่ไม่แน่ใจอีกมากมายที่ยังไม่ได้ถามเขา

“ความอยากรู้อยากถามของคุณทำไมถึงมีมากขนาดนี้?” เขาทำหน้ารังเกียจฉันมาก แต่ก็ยังจับมือฉันไว้อย่างแน่นแล้วค่อยๆเดินไปข้างหน้าด้วยกัน

“ในวันที่คุณรู้ว่าป๋ออวี่กำลังจะแต่งงาน ทำไมต้องรู้สึกสะเทือนใจขนาดนั้นด้วย ดื่มเหล้ามาซะเยอะขนาดนั้นกลับมายังไปปีนเขาอีก? แถมยังปีนเขาทั้งคืน ฉันน่ะเหนื่อยแทบตายเลยรู้ไหม”

“ตอนไหนล่ะ?”

“เป็นคืนที่น่าสังเวชขนาดนั้น อย่าบอกนะว่าคุณลืมมันไปหมดแล้ว”

เขาหวนคิดดูดีๆ “อ้อ ผมดื่มเหล้ากับปีนเขาแล้วมันเกี่ยวอะไรกับป๋ออวี่ด้วยล่ะ เขาเป็นเพียงแค่ผู้ช่วยของผม เขาจะแต่งงานหรือไม่แต่งงานมันก็ไม่ได้ส่งผลต่ออารมณ์ของผมอยู่แล้วนิ?”

“แต่ว่า คุณบอกเขาในโทรศัพท์ว่า อย่าแต่งงานนิ”

“ใช่สิ เขาไม่ได้รักว่าที่ภรรยาของเขาสักหน่อย แล้วทำไมต้องไปแต่งกับคนอื่นเขาด้วย การแต่งงานที่ไม่มีความรักให้ต่อกันเลยมันเป็นอะไรที่โหดร้ายมาก”

ฉันจ้องมองเขาอย่างไม่กระพริบตา บอกใบ้ว่าก่อนที่จะบอกคนอื่นหันกลับมามองตัวเองด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)