“ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะ!” ฉันยื่นมือไปหาหล่อน “เธอเอาดอกไม้ให้ฉันก่อน”
“ให้ฉันส่งเธอเข้าบ้านสิ”
“อย่าเลย” ฉันยืนยันว่าไม่เห็นด้วย “ถ้าเธอเห็นสีชิงชวนเธอจะต้องหัวเราะเยาะเขาแน่ๆ”
“รู้ว่าตัวเองแพ้ยังจะทานอีก เห็นได้ว่าเขาเป็นคนที่ตะกละแค่ไหน ฉันจะไปหัวเราะเยาะเขาสักหน่อย นับแต่นี้ให้เขาโงหัวไม่ขึ้นเมื่อเวลาอยู่ต่อหน้าฉัน”
“แม่ทูนหัวจ๋า” หล่อนทำให้ฉันแทบเป็นบ้า “เธอหยุดพักสักหน่อยดีไหม สีชิงชวนเขาถือว่าอดทนกับเธอมากแล้วนะ เธอทั้งทุบท้ายทอยของเขา ทั้งตบหน้าเขาอย่างแรง เขาก็ยังไม่ได้ทำอะไรเธอเลย”
“เอ๋ ใช่สิ!” เฉียวอี้ชะเง้อออกกระจกรถด้วยความสนใจ “ทำไมล่ะ หรือเป็นเพราะ?” หล่อนตาโตขึ้นมาทันที “สีชิงชวนเขาคิดอะไรกับฉันหรือเปล่า?”
“ฮ่า ฮ่า”
“ฉันควรบอกเขาไหมว่า เขาไม่ใช่สเปคของฉัน ทำให้เขาสะเทือนใจสักหน่อย ฮ่าฮ่าฮ่า” หล่อนเอนตัวไปหน้าทีหลังทีแล้วหัวเราะ
ฉันเปิดประตูรถออกทันที หล่อนยัดดอกไม้ไว้ในถุงพลาสติกแล้วโยนมันลงบนเบาะนั่งข้างหลังอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
ฉันถือถุงพลาสติกออกมาแล้วปิดประตูรถ “วันนี้ถ้าเธอมีเวลาล่ะก็แวะไปหาหนีอีโจวหน่อยนะ ช่วยพูดกับเขาให้เพิกถอนการฟ้องร้องหย่าร้างของฉันให้หน่อยสิ”
“ทำไมเธอถึงไม่อยากจะหย่ากับสีชิงชวนแล้วล่ะ?”
“ขอร้องล่ะ” เฉียวอี้ทำให้ปวดหัวแต่เช้าตรู่เลย “ฉันไม่ใช่ไม่อยากหย่าร้างกับสีชิงชวน แต่เป็นเพราะว่าหนีอีโจวพาเข้าประเด็นที่มันผิดพลาด คนอื่นเขาไม่ได้เป็นเกย์สักหน่อย ฉันเข้าใจผิดไปเอง”
“ไหนๆก็ผิดพลาดแล้ว งั้นเราก็ทำต่อไปสิ!”
ฉันเก็บก้อนหินที่อยู่บนพื้นขึ้นมาปาใส่หล่อน เฉียวอี้กรีดร้องและยอมจำนน “เอาล่ะเอาล่ะ เดี๋ยวฉันจะลองไปคุยกับพี่เสี่ยวฉวนให้แล้วกันนะ!”
ฉันแบกดอกไม้เดินตรงไปบ้านพักของสีชิงชวน กลีบดอกไม้นี้ฉันจะเอาไปล้างสักหน่อยแล้วผสมกับแป้งไว้ทำขนมได้ ลำต้นจะเอาไปบดให้ละเอียด คราวที่แล้วที่ฉันทายาให้กับสีจิ่นยวน ยังมีผงยาที่ใช้ดับร้อนและถอนพิษเหลืออยู่ สามารถผสมด้วยกันแล้วใช้ทาภายนอก ฉันรู้สึกได้ว่า ถ้าอยู่ในยุคสมัยโบราณ ฉันน่าจะต้องเป็นบรรดาหมอหญิงอะไรสักอย่างแน่ๆเลย ฉันรู้สึกสนใจและชอบเรื่องพวกนี้อย่างมาก
ตอนที่ฉันกำลังทำขนมที่ทำจากดอกไม้อยู่นั้น อลิซาเบธยืนอยู่ข้างๆตลอดแล้วถามว่าฉันจะทำอะไร ฉันบอกว่าทำขนมที่ทำจากดอกขจร มันบอกไม่หอมเลยสักนิด ฉันไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว กับหุ่นยนต์ที่จมูกไม่ได้กลิ่นอะไรเลย
พอฉันทำขนมเสร็จ และผสมยาน้ำเสร็จก็ไปเคาะประตูห้องหนังสือเรียกสีชิงชวน เขาตอบฉันสั้นๆว่า “เข้ามา”
ฉันถือถาดรองเข้าไป เขาดมๆกลิ่น “หอมมากเลย”
“อื้ม ขนมดอกไม้” ฉันวางถาดลงบนโต๊ะสำหรับวางชุดน้ำชา แล้วก็ถือขนมดอกไม้ยื่นให้เขา “ทานสิ มันช่วยดับร้อนและถอนพิษได้นะ อีกอย่างมันอร่อยมาก”
นิ้วสองนิ้วของเขาจับขนมขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วดูมันอย่างละเอียด “ทำมาจากอะไรเหรอ?”
“แป้งสาลีกลูเตนสูง”
“มีเพียงแค่แป้งเหรอ?”
“ใส่เครื่องปรุงแต่งรสชาติในปริมาณที่น้อย”
“ที่อยู่ในนี้เป็นแผ่นเป็นแผ่นมันคืออะไรอ่ะ?”
“เป็นกลีบดอกไม้ของดอกขจร”
เขาตกใจอย่างมาก “อะไรนะ?”
“ไม่ต้องกลัว ดอกไม้ส่วนมากมันกินได้หมด ดอกขจรมีประโยชน์ยังสามารถมาปรุงใส่ในอาหารได้ มีผลดีต่อดวงตาของคุณอย่างมาก ทานสดกับเอามาทำเป็นยาฤทธิ์ยาไม่ได้ต่างอะไรกัน คุณลองดูนะ มันอร่อยมาก”
เขามองมาที่ฉันอย่างลังเลใจ “ไม่ว่าจะอะไรก็สามารถเอามาทำขนมได้งั้นเหรอ?”
“คุณลองทานดู” ฉันให้กำลังใจเขาโดยการเอาขึ้นมาหนึ่งชิ้นแล้วยัดเข้าไปในปาก
นุ่มละมุนในปาก ฉันไม่ได้เอาไปทอดเพราะกลัวร้อนใน เลยเอาไปนึ่งอย่างเดียว ความหอมของดอกขจรเลยหอมกรุ่นเป็นพิเศษ
พอเขาเห็นว่าฉันทานแล้ว ถึงเอาชิ้นที่ถืออยู่ในมือยัดเข้าไปในปาก เขาตะโกนบอกเขา “ต้องเคี้ยวนะ ต้องเคี้ยว คุณอาจจะทำให้ตัวเองติดคอตายได้”
เขารีบเคี้ยวมันทันที พอเคี้ยวเสร็จแล้วกลืนมันลงไป
“ก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น ทำอย่างกับว่าทานยาอยู่อย่างงั้นเลย”
พอเขาทานเสร็จ จ้องมองฉันอย่างตะลึง “อร่อยเหมือนกันนะเนี่ย”
“ใช่ไหมล่ะ” เขายกน้ำซุปให้เขาหนึ่งถ้วย “อันนี้ก็เป็นซุปที่ทำจากดอกขจรเหมือนกัน ใส่ไข่เป็ดเข้าไป ช่วยดับร้อนได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...