เขาบอกของเขา ฉันเลยติ๊กสั่งไปบนเมนู สั่งอาหารที่ฉันอยากกิน
เฉียวอี้บอกว่า ร้านปิ้งย่างตามท้องถนนแถบนี้อร่อยแทบทุกร้านเลย เลือกกินสักร้านก็คงไม่โชคร้ายหรอก ดังนั้นฉันจึงสั่งของที่ฉันชอบกินไป
แหงอยู่แล้วว่าต้องสั่งข้าวโพด เป็นแบบเสียบไม้เป็นด้ามๆ ซึ่งมันปิ้งย่างได้ถึง 360 องศา กรอบๆไหม้ๆรสชาติอันแสนโอชะ
เจ๊อ้วนบอกว่าแกะทางร้านของพวกเขาอร่อยมากๆ ฉันเลยสั่งสเต็กเนื้อแกะไปชิ้นหนึ่ง หลายวันมานี้กินแต่ผักแต่หญ้าประหนึ่งว่าตนเองเป็นกระต่ายตัวหนึ่ง
อีกทั้งยังมีไส้กรอกข้าวโพด ล่าเถียว รวมไปถึงหอยนางรมย่าง ซึ่งเห็นแค่ตัวหนังสือพวกนี้ฉันก็น้ำลายสอแล้ว
หลังจากที่ฉันสั่งเสร็จถึงเพิ่งนึกได้ว่าสีชิงชวนนั่งอยู่ตรงข้าม ฉันเคาะโต๊ะขัดจังหวะเขา มิเช่นนั้นเขาคิดจะหยิบทิชชู่มาเช็ดขาโต๊ะอีกรอบแล้ว
“คุณเช็ดพอแล้วหรือยัง?”
“ผมสงสัยว่าตั้งแต่ที่พวกเขาเปิดร้านมาไม่เคยเช็ดโต๊ะเลยใช่ไหมเนี่ย”
“มาที่นี่ไม่ใช่มากินเพื่อรับบรรยากาศ แต่กินเอารสชาติต่างหากล่ะ”
“กินรสชาติของลูกค้าที่มากินก่อนหน้านี้หรือยังไง?” เขายิ้มอย่างโหดร้าย
ฉันจึงถามเขาด้วยความปราถนาดี “คุณจะกินอะไร?”
ฉันยื่นเมนูให้เขาไป “ฉันสั่งไปหลายอย่าง คุณก็ดูนะว่าจะกินอะไรอีก? จะให้ฉันแนะนำให้ไหม?”
“ไม่จำเป็น” เขาส่ายหน้าราวกับเป็นกลองเขย่า
ฉันโบกมือเรียกเจ๊อ้วน “ขอเผ็ดๆนะ ยิ่งเผ็ดยิ่งดี”
“หลังของคุณยังเป็นแผลอยู่เลย” เขาเตือนฉัน
“ฉันก็แค่กระดูกร้าว ไม่ใช่บาดแผลสักหน่อย ไม่เป็นไรหรอก” จู่ๆฉันก็นึกถึงสีชิงชวนขึ้นมา “ช่างเถอะ งั้นเอาเผ็ดน้อยดีกว่า”
ฉันต้องคำนึงถึงสภาพร่างกายของนายทุนรายใหญ่คนนี้
ระหว่างที่รอปิ้งย่างมาเสิร์ฟ มีหญิงสาวหลายคนนั่งอยู่โต๊ะด้านข้าง ใส่ชุดสบายๆ ย้อมผมหลากสี
ฉันรีบเอามืออุดหูล่วงหน้า สีชิงชวนจึงมองฉันอย่างประหลาดใจ “คุณทำอะไรของคุณ?”
ฉันยังไม่ทันปริปากพูด ทันใดนั้นเองก็ได้ยินหญิงสาวกลุ่มนั้นร้องตะโกนขึ้นอย่างตื่นตระหนก “นั่นๆ รีบดู ผู้ชายคนนั้นหล่อมากเลย”
“เขาหน้าตาคุ้นจัง เป็นดาราหรือเปล่า?”
สายตาของฉันเฉียบคมยิ่ง รู้อยู่แล้วไม่ว่าผู้หญิงคนไหนได้เจอเขา จะต้องร้องตะโกนขึ้นอย่างตื่นตระหนกเป็นแน่
เขาจึงคลำหาแว่นกันแดดมาใส่ ฉันดึงแขนเสื้อเขา “คุณใส่แว่นกลางค่ำกลางคืนไม่รู้สึกว่าตอแหลไปหน่อยเหรอ แบบนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้หญิงมอง แม้แต่ผู้ชายก็คงต้องมอง”
เขาจึงถอดแว่นออกอย่างพิรี้พิไร ไม่รู้ว่าคลำแว่นกรอบทองจากที่ไหนมาใส่
ฉันเคยเห็นสีชิงชวนใส่แว่นไร้กรอบ ส่วนแว่นกรอบทองเพิ่งจะเคยเห็นเขาใส่เป็นครั้งแรกนี่แหละ แลดูโหดร้ายยิ่ง
หล่อเชียว สงบสติอารมณ์ก่อน ใจเต้นรัวๆไม่หยุด
เขาใส่แว่นอะไรก็หล่อไปหมด มีอยู่ครั้งหนึ่งฉันได้ยินเลขาของฉันหร่วนหลิงกำลังพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นถึงสีชิงชวน ว่าต่อให้เขาจะเอาหม้อเหล็กมาครอบหัวก็ยังดูดีเลย
เจ๊อ้วนถามฉันว่าจะดื่มเครื่องดื่มอะไร ฉันเลยตอบไปว่าดื่มนมถั่วเหลือรสช็อกโกแลตและเป่ยปิงหยาง ปิ้งย่างเยอะแยะขนาดนี้เครื่องดื่มแค่นี้คงไม่พอดื่มแน่นอน
ฉันสั่งให้สีชิงชวนไปโดยพลการ “เขาดื่มวีต้าซอยรสช็อกโกแลตเหมือนกัน”
“ผมไม่กินช็อกโกแล็ต” เขาปฏิเสธทันทีทันใด
“ทำไมมีของที่คุณไม่กินเยอะแยะจัง?” นายทุนรายใหญ่ปรณนิบัติรับใช้ยากเสียจริง “คุณไม่ใช่หมาสักหน่อย หมามันกินช็อกโกแล็กไม่ได้ แต่คุณกินได้”
“ไม่ใช่ว่าผมกินไม่ได้ แต่ไม่ชอบกินต่างหาก” เขาโกรธกริ้วจนตรรกะวิบัติไปหมด
ในสภาพที่ควันขโมงเช่นนี้ สีชิงชวนคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามฉันยังคงไม่ติดดินอยู่เหมือนเคย
ยิ่งมืดค่ำเท่าไหร่ ธุรกิจการค้าปิ้งย่างก็ยิ่งขายดีมากขึ้นเท่านั้น โต๊ะที่อยู่ข้างเรามีคนนั่งเต็มหมดแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงทั้งนั้น ยังมีกลุ่มคนที่ตั้งใจย้ายจากร้านอื่นมาทานที่นี่ ทำให้เจ๊อ้วนดีใจจนยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง
สีชิงชวนก็ดูดีแค่เปลือกนอกเท่านั้น ถ้าได้สัมผัสกับเขาสักระยะหนึ่งก็จะรู้ว่าสีชิงชวนพูดคุยยากมากแค่ไหน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...