พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 20

สรุปบท ตอนที่ 20 ฉันบริจาคเลือดให้คุณพ่อไม่ได้: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

สรุปตอน ตอนที่ 20 ฉันบริจาคเลือดให้คุณพ่อไม่ได้ – จากเรื่อง พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung

ตอน ตอนที่ 20 ฉันบริจาคเลือดให้คุณพ่อไม่ได้ ของนิยายประวัติศาสตร์เรื่องดัง พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดยนักเขียน Chompoo Prateung เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ในขณะที่ฉันได้สติกลับคืนมา พบว่าฉินกวนกำลังจ้องมองฉันอยู่

แม้ว่าสายตาคู่นั้นจะไม่ใช่สายตาแบบที่ชายหนุ่มบริสุทธิ์จ้องมองหญิงสาว แต่ความสนใจนั้นกลับทำให้ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อ

ฉันรีบหลบสายตาคู่นั้นทันที ไม่ทันไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น พอฉันหยิบออกมาดูพบว่าเป็นสายของเซียวซือที่โทรมา

เธอไม่เคยโทรหาฉันเลย จนบางทีฉันก็อดสงสัยไม่ได้ว่าตกลงเธอมีเบอร์โทรของฉันไหม

ฉันรับสายไป เสียงของเธอไม่ได้เรียบเชียบเหมือนในทุกๆวัน แต่เหมือนจะแหบโหยอยู่บ้างเล็กน้อย หรือเธอกำลังร้องให้อยู่ล่ะ?

“รีบมาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเทียนหย่าง”

“อะไรกัน?” พิลึกกึกกือเสียจริง “เกิดอะไรขึ้น ตอนนี้ฉันไม่ได้อยู่ในเมือง”

“พ่อประสบอุบัติเหตุรถชน” เธอพูดประโยคสั้นๆเพียงเท่านี้ก็วางสายไป

คนอย่างฉันถ้าเจอเรื่องเร่งด่วนที่ถาโถมเข้ามาโดยที่ไม่ทันตั้งตัวมักจะสติหลุดไปชั่วขณะ ซึ่งผ่านไปครึ่งค่อนวันก็ยังไม่ได้สติกลับคืนมาสักที

แต่โชคดีที่ฉันเปิดเสียงโทรศัพท์ไว้ดัง เมื่อเฉียวอี้ได้ยินเช่นนั้นจึงรู้สึกกระวนกระวายใจรีบดึงฉันให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที “คุณยังนั่งเอ๋ออยู่ทำไมอีก คุณอาประสบอุบัติเหตุรถชน รีบไปโรงพยาบาลได้แล้ว!”

ได้ยินเช่นนั้นฉันถึงจะกลับมามีสติอีกครั้ง แต่ทว่าแขนขาชาไปหมด ทำให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ไม่ได้เลย

สมองของฉันสับสนวุ่นวายไปหมด ได้ยินเพียงแค่เสียงของเฉียวอี้ “ฉินกวน พวกเราขอตัวก่อน เกิดเรื่องด่วนขึ้น พวกเราต้องรีบไปโรงพยาบาล”

จนกระทั่งได้ขึ้นรถมา เฉียวอี้ดึงเข็มขัดมารัดไว้ให้เธอ ฉันถึงหลุดพ้นจากความสับสนนั้นมาได้

ฉันหันกลับไปมองลานบ้านอันสวยงาม เห็นฉินกวนยืนกำชับอยู่หน้าบ้านด้วยเสียงน้ำเสียงแผ่วเบา “ขับรถดีๆนะ”

กุหลาบทิวดอร์ที่เลื้อยอยู่บนกำแพงทางด้านหลังของเขานั้นงดงามยิ่ง บวกกับดอกกุหลาบตูมสีชมพูเข้มแบบสีของลูกท้อประหนึ่งเลือดแดงก่ำที่ไหลออกมาจากรอยผลิของบาดแผล

เฉียวอี้ปลอบใจฉันมาตลอดทาง “เธออย่าเพิ่งใจร้อนไป คุณอาจจะต้องปลอดภัย ในเมืองฮวารถติดหนักมาก ต่อให้ประสบอุบัติเหตุรถชน ก็ไม่น่าจะร้ายแรง ต้องเป็นแค่การกระแทกกันนิดหน่อยเท่านั้นแหละ”

คุณก็รู้อยู่ว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแล้ว มิเช่นนั้นเสียงของเซียวซือจะสั่นเครือได้ยังไง คุณพ่อจะต้องประสบอุบัติเหตุร้ายแรงอย่างแน่นอน

เฉียวอี้ทั้งขับรถไปทั้งจับมือฉันไว้แน่น “เซียวเซิง ไม่เป็นไรหรอก ฟ้าดินต้องคืนความยุติธรรมให้กับคุณ เอาชีวิตแม่คุณไปไม่พอ ยังจะพรากชีวิตพ่อของคุณไปอีกหรือ? ไม่มีวันแน่นอน วางใจเถอะ”

คำปลอบโยนของเธอแลดูจะไม่ใกล้ความจริงเอาเสียเลย แต่มือของเธออบอุ่นมาก มือทั้งสองของฉันกุมไปที่มือของเฉียวอี้ ซึ่งมือของเธอสั่นอยู่ตลอดเวลา

ในที่สุดก็มาถึงโรงพยาบาล เฉียวอี้ประคองฉันไปที่ห้องฉุกเฉินอย่างโซซัดโซเซ หน้าประตูแออัดไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ซึ่งมีทั้งครอบครัวของพี่สาวคนโต แม่เลี้ยง รวมไปถึงเซียวซือด้วย

ข้างกายของเซียวซือยังมีอีกคนคือสีชิงชวน เขาประคองแขนของเซียวซือไว้ ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกันดูเหมือนกับคู่รักยังไงยังนั้น

ฉันไม่สนว่าพวกเขาจะสนิทสนมกันไหม ฉันดิ่งตรงเข้าไปถามทันที “คุณพ่อเป็นยังไงบ้าง?”

แม่เลี้ยงชำเลืองมองด้วยสายตาเย็นเยียบผ่านหน้าฉันไป ส่วนพี่สาวคนโตมองบน ก็มีแค่เซียวซือที่เดินมาพูดกับฉัน “คุณหมอกำลังทำการรักษา เลือดไหลเป็นจำนวนมาก”

“บาดเจ็บสาหัสไหม?” ฉันแทบจะไม่ได้ยินเสียงที่ตัวเองพูด

“บาดเจ็บสาหัส” เซียวซือพยักหน้า

ฉันแทบจะล้มตัวไปกองกับพื้น แต่โชคดีที่เฉียวอี้ปะคองไว้ทัน “ไปนั่งรอที่นั่นเถอะ”

ทันใดนั้น ประตูห้องฉุกเฉินเปิดขึ้น พยาบาลคนหนึ่งเดินออกมา ทุกคนต่างรุมเข้าไปข้างหน้า ส่วนฉันถูกเบียดออกจนไปอยู่ท้ายสุด ไม่รู้ว่าใครกันที่ชนฉัน ทำให้ฉันประคับประคองตัวเองไม่ได้จนเกือบล้มลง โชคดีที่มีคนมาประคองไว้ทัน ทำให้ฉันยืนได้อย่างมั่นคงอีกครั้ง

ฉันได้ยินนางพยาบาลกล่าว “คุณเซียวสูญเสียเลือดจำนวนมาก ประจวบกับวันนี้มีผู้ป่วยที่ประสบอุบัติเหตุรถชน 2-3 คน ทำให้เลือดในธนาคารไม่เพียงพอ จำเป็นต้องให้ทางครอบครัวรวมทั้งญาติพี่น้องไปตรวจเลือดเพื่อที่จะบริจาคให้กับผู้ป่วย”

ฉันได้ยินเสียงของพี่สาวคนโตดังขึ้นคนแรก “ช่วงนี้ฉันอยู่ในช่วงประจำเดือน ทำไงดีล่ะ แม่?”

ไม่ทันไร ฉันก็เสนอตัวขึ้นมาท่ามกลางผู้คน “ไปตรวจเลือดที่ไหนคะ?”

“ห้องปฎิบัติการชั้นสองค่ะ”

“เป็นเรื่องปกติงั้นเหรอ?”

“แน่นอนสิ ในบางครั้งพ่อแม่กับลูกอาจจะมีกรุ๊ปเลือดที่ต่างกันก็เป็นได้”

แม่เลี้ยงที่ยืนอยู่ด้านข้างพูดแทรกขึ้นมาทันที “เซียวเซิง หนูกรุ๊ปเลือดอะไร?”

ฉันกล่าวออกไปโดยที่ไม่คิดอะไร “หนูกรุ๊ป A ค่ะ”

“แม่หนูล่ะ?”

“กรุ๊ป O”

สีหน้าของแม่เลี้ยงเปลี่ยนไปฉับพลันทันใด และดูแปลกประหลาดมาก หลังจากที่เธอถามเสร็จฉันก็รู้สึกได้เช่นกัน

แต่ปฎิกริยาของเฉียวอี้เร็วกว่าฉันมาก เธอลุกขึ้นทันทีที่ได้ยิน “คุณป้าเซียว คุณถามละเอียดขนาดนี้หมายความว่ายังไง?” พ่อแม่กับลูกกรุ๊ปเลือดต่างกันมีอะไรน่าแปลกงั้นหรือ?”

“จะว่าแปลกมันก็ไม่แปลกหรอก เพียงแต่ว่าจากที่ฉันทราบมา พ่อของหนูกรุ๊ปเลือด B แม่ของหนูกรุ๊ป O ทำไมถึงคลอดหนูออกมาเป็นกรุ๊ป A ได้ล่ะ?”

“คุณป้าคะ ก่อนจะพูดอะไรรบกวนช่วยทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนนะคะ เรื่องแบบนี้มันล้อเล่นกันไม่ได้”

สมองของฉันสับสนวุ่นวายมาก เธอยื่นมือไปจับแขนของเฉียวอี้พร้อมกับส่ายหน้า “ไม่ต้องพูดแล้ว นั่งลงก่อนเถอะ”

ตอนนี้พ่อของฉันยังรอการถ่ายเลือดจากพวกเราในห้องฉุกเฉินอยู่เลย ฉันมีอารมณ์มาวิเคราะห์ประเด็นนี้ที่ไหนกันล่ะ

เบื้องหลังชีวิตมีความเป็นมายังไง พวกเขาเริ่มสงสัยตั้งแต่วันแรกที่พ่อพาฉันเข้าบ้าน

ทันใดนั้น มีนางพยาบาลดิ่งตรงเข้ามาจากระเบียงทางเดิน “ครอบครัวของคุณเซียว ทำไมถึงมารวมตัวที่นี่กันหมด ขณะนี้ระดับค่าออกซิเจนในเลือดของคุณเซียวต่ำมากจนเหลือเพียงแค่เจ็ดสิบ ซึ่งอันตรายมาก พวกคุณรีบไปดูเถอะ!”

พอฉันเงยหน้าขึ้น ดันเห็นน้ำเลือดแดงก่ำที่ค่อยๆโอนถ่ายเข้าไปยังถุงบรรจุโลหิตพอดี จิตใจกระวนกระวายเป็นอย่างยิ่ง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)