พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 21

เฉียวอี้ประคองฉันไว้ พร้อมกับวิ่งไปที่หน้าประตูห้องฉุกเฉินอย่างทุลักทุเล คุณหมอกำลังรักษาแบบฉุกเฉินให้อยู่ พวกเราเข้าไปไม่ได้ ทำได้เพียงแค่มองผ่านทะลุบานกระจกเท่านั้น

คุณพ่อนอนสลบไสลอยู่บนเตียง ส่วนคุณหมอกำลังปั๊มหัวใจให้ เขารับรู้ต่อสิ่งเร้าภายนอก แต่ตอบสนองออกมาทางพฤติกรรมไม่ได้ เมื่อเห็นเช่นนั้นในใจฉันก็ลุกลี้ลุกรนขึ้นมา

เฉียวอี้จับประคองแขนฉันไว้อย่างแนบแน่น ไม่งั้นฉันคงล้มลงไปกองกับพื้นแล้ว

บรรยากาศรอบๆแลดูโกลาหลอลหม่านไปหมด ฉันได้ยินพี่สาวคนโตถามแม่เลี้ยงอยู่ตลอดเวลา “แม่ คุณพ่อจะปลอดภัยใช่ไหม พ่อจะไม่ตายใช่ไหม? เขายังไม่ได้เขียนพินัยกรรมเลย เขาจะรอดไหม? ได้ยินว่ามียาอยู่ชนิดหนึ่งที่ทำให้ต่อชีวิตได้อีกครึ่งชั่วโมง แบบนี้คุณพ่อจะได้กำชับหรือสะสางเรื่องที่ยังค้างคาได้ หลังจากที่เสียชีวิตลง...”

“พี่คะ พ่อยังมีชีวิตดีๆอยู่เลย อย่าพูดแบบนี้สิ” เซียวซือเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

“อะไรคือยังดีๆอยู่ ถึงขั้นต้องปั๊มหัวใจแล้ว ยังคิดว่าจะหายได้อีกเหรอ?”

“เซียวหลิงหลิง!” ในที่สุดแม่เลี้ยงก็มีอารมณ์โกรธเกรี้ยวขึ้นมา “หนูช่วยหุบปากด้วยนะ”

พี่สาวเสียงดังเอะอะโวยวาย

ฉันยืนพิงประตูอยู่ตลอด เห็นคุณหมอกับพยาบาลเดินเข้าออกกันเป็นว่าเล่น เดี๋ยวก็หยิบเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เดี๋ยวก็หยิบถุงบรรจุโลหิต ฉันอยากถามอาการของพ่อมากๆ

เฉียวอี้ตบหลังปลอบใจฉันเบาๆ “จะต้องปลอดภัย คุณอาจะต้องเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี”

ฉันหันหน้ากลับไปส่งยิ้มให้เธอแบบงุนงง ทันใดนั้นฉันเห็นคุณหมอหยุดปั๊มหัวใจให้กับคุณพ่อ ไม่นานก็มีพยาบาลวิ่งออกมา “ครอบครัวคุณเซียวคะ ดิฉันขอแสดงความเสียใจด้วยค่ะ คุณเซียวท่านเสียเลือดมากจนระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลว ดังนั้นพวกคุณเผื่อใจไว้ด้วยนะคะ”

เผื่อใจอะไรกัน?

ฉันยังไม่ได้เตรียมใจไว้เลย ฉันชำเลืองมองไปหาพ่อที่นอนอยู่บนเตียงอย่างชะงักงัน เครื่องวัดการเต้นของชีพจรวางไว้อยู่ด้านข้าง ตั้งแต่จังหวะการเต้นของหัวใจในตอนแรกขึ้นลงไปมาตามปกติก็เริ่มค่อยๆเปลี่ยนจนกลายเป็นเส้นเดียว

จู่ๆหูของฉันก็ดับลง ไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น

พี่สาวคนโตตะเกียกตะกายกรีดร้องถามนางพยาบาล “ในโรงพยาบาลของพวกคุณมียาที่กินแล้วต่อชีวิตได้ไหม รีบสิ เพราะพ่อฉันมีเรื่องที่ยังสะสางกันยังไม่เรียบร้อย”

ส่วนแม่เลี้ยงร้องให้จะเป็นจะตาย

เฉียวอี้ลูบหลัง และเอ่ยเสียงแผ่วเบาข้างหู “เซียวเซิง เซียวเซิง จะต้องดีขึ้น คุณอาจะต้องหายเป็นปริทิ้ง”

เสียงพวกนี้กระทบมาที่หูเดี๋ยวใกล้ เดี๋ยวไกล ราวกับโดนขังไว้ในกล่องทึบ ประหนึ่งว่าเสียงพวกนี้ดังกึกก้องมาจากทางด้านนอก

ตั้งแต่เด็กฉันเคยประสบการจากลาจากบุคคลใกล้ชิดมาก่อน ฉันนึกว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อเวลาผ่านไปอีกนานแสนนาน แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะเกิดขึ้นได้เร็วกว่าที่คิดไว้มาก

คุณหมอให้พวกเราอำลาคุณพ่อเป็นครั้งสุดท้าย อันที่จริงเขาเกินจะเยียวยารักษาแล้ว พูดคุยไม่ได้ เรี่ยวแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ทำได้เพียงกลับกลอกลูกตาไปมาเท่านั้น

สายตาของเขาหยุดชะงักที่ฉัน เขาเอื้อมมือออกมา ฉันรู้ว่าเขาอยากจะจับมือด้วย ฉันจึงยื่นแขนออกไปเตรียมจะจับ แต่ดันถูกแม่เลี้ยงแย่งชิงไปเสียก่อน

เธอร้องตะโกนลั่นคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมทั้งกุมมือของพ่อไว้ “คุณจะจากไปแบบนี้ได้ยังไง บริษัทใหญ่โตมโหฬารฉันจัดการดูแลไม่ไหวหรอก ฉันเป็นแค่ผู้หญิงตัวคนเดียวไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้น พวกเขาคงไม่เชื่อฟังฉันง่ายๆแน่!”

พี่สาวคนโตก็ร้องห่มร้องให้ไม่แพ้กัน “คุณพ่อคะ เสวียเหวินเก่งมากค่ะ เขาบริหารจัดการบริษัทจิ่วเจียงได้ดีมาก แต่ตอนนี้เขาเป็นแค่ผู้จัดการตัวกระจ้อยจะได้รับการยอมรับนับถือได้อย่างไรกัน? คุณพ่อ เลื่อนตำแหน่งให้เขาได้ไหมคะ......”

เสวียเหวินเป็นสามีของเธอ เป็นพี่เขยคนโตของฉัน คุณพ่อหลงเหลือลมหายใจเพียงเฮือกสุดท้ายแล้ว เธอยังคิดจะช่วงชิงโอกาสให้กับสามีของเธอ

ส่วนแม่เลี้ยง พวกเธอบดบังสายตาที่ฉันมองออกไปจนมิดชิด ไม่ทันไรก็มีคนกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาเสียงดังเอะอะโวยวาย มีตำแหน่งเบื้องบนของบริษัท รวมทั้งทนายความ ตำรวจ ผู้คนจำนวนมากอัดแน่นกันอยู่ในห้องฉุกเฉิน สุดท้ายฉันโดนเบียดจนกระเด็นกระดอนออกมา

ฉันยืนอยู่ข้างหน้าต่าง ลมเย็นพัดเข้ามาเสียงดังหวิวๆ หน้าครึ่งซีกถูกลมพัดตีจนเย็นชาไปหมด

เฉียวอี้พยายามจะบอกอะไรฉันสักอย่าง แต่หูฉันดังวี๊ดๆ ไม่รู้ว่าเธอกำลังพูดอะไร

หลังจากที่ฉันมีสติกลับมา เห็นพยาบาลรุนเตียงผู้ป่วยของพ่อออกจากห้องฉุกเฉิน ร่างของเขาถูกปกคลุมด้วยผ้าสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า เซียวซือและพี่สาวคนโตเข้าไปประคองแม่เลี้ยงที่ล้มทั้งยืนไว้อยู่ด้านหลัง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)