ฉันสำลักน้ำผลไม้และมันก็พุ่งออกทางจมูกฉันทันที ฉันใช้ทิชชูอุดจมูกไว้ รู้สึกว่ามันลำบากมาก ฉันใช้เวลาจัดการกับมันอยู่นานกว่าจะทำให้ตัวเองกลับมาเป็นปกติได้
ความจริง…ฉันสนใจและอยากรู้เหตุผลที่เซียวซือเลิกกับสีชิงชวนอย่างกะทันหันมาตลอด และยิ่งฉันอยู่กับสีชิงชวนนานเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งอยากรู้มันมากขึ้นเท่านั้น
เซียวซือรอให้ฉันจัดการตัวเองเสร็จ เธอยกมือขึ้นปัดผมข้างๆ หูแล้วเอ่ยขึ้น “ตอนนั้นฉันกับสีชิงชวนคุยกันไปถึงเรื่องแต่งงานแล้ว อีกไม่นานก็จะได้เป็นเจ้าสาวของเขา ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ฉันมีความสุขมากที่สุด”
ฉันสังเกตว่าทุกครั้งตอนที่เซียวซือพูดถึงสีชิงชวน น้ำเสียงของเธอจะเต็มไปด้วยความรู้สึกเพ้อฝัน
เธอยังรักสีชิงชวนอยู่จริงๆ แถมยังรักมากด้วย
ลมหายใจฉันติดขัดและมองเธอเล่าเรื่องราวด้วยความงุนงง
“ก่อนหมั้น ฉันได้ไปทำการตรวจที่โรงพยาบาล”
เซียวซือพูดได้แค่ครึ่งแรก ฉันก็สามารถเดาครึ่งหลังได้แล้ว
มุกเดิมๆ ในซีรีส์เกาหลีทั้งสามอย่าง ซึ่งก็คือรถชน มะเร็ง และโรคที่รักษาไม่หาย
ไม่รู้ว่าเซียวซือจะจัดอยู่ในโหมดไหน?
เธอยกแก้วขึ้นและคงเป็นเพราะนิ้วมือของเธอออกแรงบีบแก้วน้ำ ปลายนิ้วจึงกลายเป็นสีขาว ฉันแทบจะเห็นว่าน้ำในแก้วกระเพื่อมผ่านนิ้วมือที่ขาวจนเกือบจะใสของเธอ
เซียวซือไม่ได้แสร้งสร้างสถานการณ์ เธอเงียบไปครู่หนึ่งจากนั้นก็บอกกับฉัน “ฉันมีลูกไม่ได้”
คำตอบนี้คล้ายและให้ผลลัพธ์เดียวกันกับมุกสามอย่างในซีรีส์เกาหลี แต่มันไม่ได้อยู่ในซีรีส์เกาหลี สถานการณ์แบบนี้พบได้มากในซีรีส์ของไต้หวัน
ความสามารถในการตอบสนองต่อเรื่องฉุกละหุกของฉันไม่ดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ฉันเกือบจะพูดเพ้อเจ้อออกไป “ได้ไปตรวจที่โรงพยาบาลอื่นไหม ตอนนี้การแพทย์พัฒนาไปไกลมากเลยนะ ถ้าท้องโดยธรรมชาติไม่ได้ ก็ให้คนอื่นอุ้มบุญหรือว่าทำหลอดแก้วก็ได้ มีหลายวิธีมากเลย”
“ผลตรวจแน่นอนแล้ว ฉันมีลูกไม่ได้จริงๆ” เธอวางแก้วลง แล้วมองตรงมาที่ฉัน “เพราะฉะนั้นฉันเลยหนีไปก่อนวันหมั้นไม่กี่วัน”
“ตระกูลเขาไม่ได้มีลูกชายคนเดียวมาทั้งสามรุ่น เขายังมีพี่ชายสองคน น้องชายอีกหนึ่งคน ไม่เห็นจำเป็นเลยที่หน้าที่สร้างทายาทผู้ชายไว้สืบทอดตระกูลสีต้องตกอยู่ที่เขา”
“สีชิงชวนรักเด็กมาก”
“เขาชอบเด็กเหรอ? ทำไมฉันมองไม่เห็นออก?”
“เขาชอบเด็กมาก ความฝันของเขาก็คือมีลูกหลายๆ คน บนโลกนี้ผู้หญิงที่ยากมีลูกให้เขามีเยอะแยะมากมาย ฉันจะไปยึดตำแหน่งนี้ไว้ได้ยังไง?” เซียวซือถอนหายใจออกมาเบาๆ สายตาของเธอกวาดตามองฉันอย่างว่างเปล่า
ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี จิตใจที่กำลังว้าวุ่นทำให้ฉันรวบรวมคำพูดดีๆ ไม่ได้
เซียวซือนั่งบนเก้าอี้ของเธอและทอดมองไปยังทะเลที่อยู่ห่างไกล หลังของเธอตั้งตรงราวกับรูปปั้นที่แสนเพอร์เฟกต์
“งั้น งั้น…” ฉันพูดติดอ่าง “สีชิงชวนรู้ไหม?”
“แน่นอนว่าเขาไม่รู้” ลมพัดมาทำให้ผมเธอยุ่ง เธอจึงใช้มือจับไว้แล้วหันมามองฉัน “ก่อนคืนหมั้นของฉันกับเขา ฉันไปต่างประเทศ ที่จริงก็เพื่อไปยืนยันโรคที่ฉันเป็น ฉันไม่ยอมให้ฉันกับสีชิงชวนถูกปัจจัยภายนอกพวกนี้มาหยุดความสัมพันธ์เราลง”
“ต่อจากนั้นล่ะ?”
“ฉันเป็นหมันจริงๆ แต่มีทางรักษา” คิ้วและดวงตาของเธอเรียบนิ่ง ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ
ฉันก็มองเธอ ราวกับว่าตอนนี้ได้กลายเป็นตัวประกอบที่คอยสร้างเสียงหัวเราะในทอล์คโชว์ตลก เซียวเซิงพูดอะไร ฉันแค่ต้องพูดบางอย่างที่ไม่มีความหมายอะไรเสริมไปเพื่อให้เธอได้พูดต่อ
“จากนั้นฉันก็รีบกลับมา แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะกลับมาทันงานแต่งของสีชิงชวนกับเธอพอดี” ลมพัดโชยเข้ามา เธอใช้มือบังลมร้อนชื้นไว้เล็กน้อย แต่ฉันกลับเห็นน้ำตาในดวงตาคู่นั้นของเธอ
“งานแต่งวันนั้น พี่มาด้วยเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...