ปกติฉันไม่ใช่คนอ่อนไหวง่าย แต่วันนี้กลับไม่มีความสุขเลย
บ้านของวิศวกรคนนี้ใหญ่อยู่เหมือนกัน เขามีลูกทั้งหมดสามคน คนโตสุดอายุหกขวบ ส่วนคนเล็กสุดเพิ่งจะขวบเดียว
พวกเขากำลังกระโดดโลดเต้นเท้าเปล่าอยู่บนพื้นไม้
บ้านเรือนบนเกาะจะเป็นบ้านยกสูง โดยห่างจากพื้นประมาณ 30 เซนติเมตร เพื่อป้องกันน้ำท่วม ดังนั้นพวกเขาจึงจะใช้เบาะรองแล้วนั่งบนพื้นแทน
ลูกคนสุดท้องของเขาเป็นผู้หญิง ผมของแกหยิกงอไปทั่วศีรษะ ดูแล้วน่าจะเพิ่งหัดเดิน ตอนวิ่งก็โซซัดโซเซคล้ายจะล้ม ทำเอาฉันใจหายใจคว่ำ
แต่ครอบครัวของวิศวกรคนนี้กลับนิ่งเฉย เจ้าตัวน้อยผมหยิกดูคล้ายจะล้ม แต่ก็พยุงตัวเองกลับมาได้ทุกครั้ง
แกดูเหมือนจะชอบฉัน และแกจะวิ่งมาหาฉันทุกครั้ง แต่เมื่อฉันจะยื่นมือไปจับ แกก็จะวิ่งหนีทันที
ในกระเป๋าของฉันมีขนมอยู่หนึ่งกล่อง แต่เพราะแกเด็กเกินไปจึงแบ่งให้กับคนพี่สองคนเท่านั้น แกเลยมองตาปริบๆ อยู่ข้างๆ
ฉันนึกขึ้นได้ว่ามีที่ห้อยโทรศัพท์อยู่อันหนึ่งก็เลยถอดออกมามอบให้แก “ให้หนูจ้ะ”
มืออ้วนป้อมอันนุ่มนิ่มของเจ้าตัวน้อยรับที่ห้อยโทรศัพท์ไปจากมือฉันแล้วยัดเข้าปากในทันที
ฉันตกใจรีบดึงกลับมา ที่ห้อยโทรศัพท์เป็นทรงกลมเล็กๆ ถ้าแกเกิดกลืนเข้าไปล่ะก็…ต้องซวยแน่ๆ
โชคดีที่ฉันดึงกลับมาได้ทัน เจ้าตัวน้อยอึ้งอยู่สักพักแล้วร้องโฮออกมาทันที
สีหน้าของวิศวกรไม่พอใจนัก เขาเรียกชื่อภรรยา “เอาลูกออกไปทีซิ แกรบกวนคุณสีกับแขกแล้ว”
ภรรยาของวิศวกรรีบวิ่งเข้ามา แต่สีชิงชวนเข้ามาอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นก่อน “เรามาจับไฟเพดานกันเถอะ”
เขาตัวสูงเลยอุ้มเจ้าตัวน้อยขึ้นได้อย่างง่ายดายแล้วให้เธอจับไฟประดับคริสตัลทรงกลมที่ห้อยลงมาจากเพดาน
เมื่อเจ้าตัวน้อยจับโดนไฟ แกก็หัวเราะร่าออกมาด้วยความดีใจ
“ขออภัยด้วยนะครับคุณสี เด็กแกไม่รู้เรื่องน่ะ” วิศวกรยิ้มเขินๆ
“ผู้ใหญ่บางคนเดี๋ยวนี้ก็ไม่เห็นจะรู้เรื่องเหมือนกันนี่” ท่าทางที่สีชิงชวนอุ้มเจ้าตัวน้อยนี้ ทำให้ฉันนึกถึงสิ่งที่เซียวซือพูดกับฉันเมื่อเช้า
เธอบอกว่าสีชิงชวนรักเด็กมาก
ทีแรกฉันยังไม่ค่อยเชื่อ แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว
สายตาที่สีชิงชวนมองเจ้าตัวน้อยนี่มันเต็มไปด้วยความรักความเอ็นดูจริงๆ!
เขาให้เจ้าตัวน้อยขี่คอของเขา แกเลยดึงผมของเขา แต่ดึงไม่ขึ้นเพราะมันสั้นเกินไป แกส่งเสียงร้องหงุดหงิด แกอ้าปากไว้จึงทำให้น้ำลายไหลยืดลงบนศีรษะของสีชิงชวน
คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าคนที่รักความสะอาดความดูดีอย่างสีชิงชวนจะยอมให้เด็กคนหนึ่งขี่คอ ถึงแม้น้ำลายจะยืดใส่ก็ไม่โกรธอีกด้วย
วิศวกรส่งสายตาให้กับภรรยา ภรรยาของเขาจึงรีบเข้ามาอุ้มเด็กไปแล้วยื่นผ้าเปียกให้กับสีชิงชวน
เขาไม่รับผ้ามาแต่อย่างใด แต่สายตาหมุนไปตามเจ้าตัวน้อย
บางคนแม้จะไม่ใกล้ชิดกันก็รู้ได้ว่าเขาคิดอะไร แต่สำหรับสีชิงชวนแล้วยิ่งใกล้ชิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรกันแน่
อาหารกลางวันเยอะมาก ส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล
หรืออาจเป็นเพราะฉันทานมื้อเช้ามากเกินไปก็เลยไม่ค่อยอยากอาหารสักเท่าไหร่
สีชิงชวนถามฉันทุกอย่างที่กินเหมือนเด็กน้อย “ผมกินกุ้งได้ไหม?”
“ปลาอินทรีย์ล่ะ?”
“สาหร่ายล่ะ?”
“แล้วหอยโข่งล่ะกินได้ไหม?”
ถามจนฉันรำคาญ “ทำไมต้องถามฉันด้วยเล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...