“สีฟ้าหมดเลย?” ฉันเงยหน้ามองเขา
เขาดึงฉันขึ้นแล้วรวดหยิบเสื้อไปใส่หนึ่งตัว
“เซียวซือล่ะ?” ฉันถามเขา
“ข้างนอกมั้ง”
ฉันชะเง้อมองออกไปข้างนอก เธอกำลังยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่ในห้องรับแขกคนเดียว
ฉันคิดว่าสีชิงชวนจะออกไปคุยกับเธอหลังใส่เสื้อผ้าเสร็จ แต่ใครจะคิดว่าเขากลับหยิบคอมแล้วขึ้นไปนั่งบนเตียงเฉยๆ
ฉันเตือนเขา “เซียวซือยังอยู่ข้างนอกนะ”
“อืม คุณไปคุยกับเธอสิ ไม่รบกวนผมหรอก” เขาก้มหน้ามองคอมโดยไม่เงยขึ้นมาอีกเลย
คนอื่นเค้ามาหาเขาไม่ได้มาหาฉันสักหน่อย ฉันเพิ่งจะเดินออกไป เซียวซือก็พูดขึ้น “เดี๋ยวฉันกลับห้องก่อนดีกว่า ไม่รบกวนพวกเธอแล้ว”
เซียวซือเดินออกจากห้องของเราไปพร้อมกับปิดประตูเบาๆ
ฉันสังเกตเห็นจุดสำคัญอะไรบางอย่างคือ สีชิงชวนจงใจทำตัวเย็นชาต่อเซียวซือมาก
ทำไมต้องทำแบบนี้กับเซียวซือด้วย?
เพราะอยากประชดเธอหรือเพราะอยากหลบหนีกันแน่?
ฉันนั่งมองสีชิงชวนเหม่อลอยอยู่ตรงโซฟาเดี่ยวที่อยู่ปลายเตียง เขาใส่แว่นกันแสงสีฟ้า แต่ดวงตาที่อยู่ใต้แสงสีฟ้านั่นก็ยังคงลึกล้ำอยู่เช่นเคย
ตาของเขาบวมแล้วจริงๆ ฉันไม่เคยพบเคยเจอคนที่ไม่รักตัวเองขนาดนี้มาก่อน รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองกินอาหารทะเลไม่ได้ก็ยังจะกิน
“สีชิงชวน” ฉันโยนยาที่เซียวซือนำมาให้กับเขา “ตาคุณบวมเป็นลูกพีชเน่าแล้ว”
เขาเงยหน้าขึ้น “ใครให้คุณไม่สนใจผมล่ะ”
เขาพูดคำนี้ออกมาไม่อายปากเลยจริงๆ
ถึงจะโยนยาไปข้างมือเขา เขาก็ไม่แม้แต่จะมองเลยด้วยซ้ำ “ยาทาของเซียวซือช่วยอะไรผมไม่ได้หรอก”
“แล้วคุณจะเอาอะไร?”
“ดอกซ่อนกลิ่น”
คราวก่อนยังบอกว่าฉันเป็นแม่มดอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับติดใจเสียอย่างนั้น
“ไม่มี” ถึงฉันจะตอบไปแบบนั้น แต่ก็ไปค้นกระเป๋าเดินทางอยู่ดีแล้วเจอมันจริงๆ
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงพกยาสกัดจากดอกซ่อนกลิ่นมาด้วยแล้วได้ใช้มันจริงๆ
เขาหลับตานอนรอให้ฉันทายาให้กับเขาอยู่บนเตียง จากนั้นฉันก็ใช้สำลีค่อยๆ ทายาให้เขา
เมื่อเหลือบตาไปเห็นยาที่เซียวซือนำมาให้เขา ฉันก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้น “ฉันว่าคุณเย็นชากับเซียวซือไปหน่อยนะ”
“แล้วคุณอยากให้ผมเฟรนลี่กับเธอมากแค่ไหนล่ะ?”
“คุณทำแบบนี้กับแฟนเก่าทุกคนเลยเหรอ?”
“ผมมีแฟนเก่าแค่คนเดียว” ยาสีเขียวติดอยู่บนเปลือกตาของเขาเหมือนกับกบแปลงร่างตัวหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น
ดีที่เขาหลับตาอยู่ เพราะการที่เขาไม่สบตาฉันโดยตรงมันทำให้ฉันรู้สึกใจเย็น
“คุณรู้ไหมว่าทำไมเซียวซือถึงถอนหมั้น?” ฉันรู้เหตุผลแล้ว และฉันคิดว่าในเมื่อเซียวซือบอกกับฉันได้ก็ไม่มีเหตุผลที่จะบอกสีชิงชวนไม่ได้เช่นกัน ฉันว่าเหตุผลส่วนหนึ่งคือเธออยากให้ฉันบอกกับสีชิงชวนด้วยตัวเองสินะ!
ในฐานะที่เป็นคนส่งต่อคำพูด ฉันต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อยู่แล้ว
“คุณรู้?” เขาตอบเหมือนไม่ใส่ใจ
“ที่คุณยังเย็นชาใส่เซียวซืออยู่ เพราะเรื่องที่เธอหายตัวไปแบบไม่บอกไม่กล่าวในตอนนั้นน่ะเหรอ?”
“ผมไม่ยักรู้มาก่อนเลยนะว่าคุณเป็นคนอยากรู้อยากเห็นมากขนาดนี้น่ะ” เขาส่งเสียงไม่พอใจออกทางจมูก “คุณสนใจเรื่องเซียวซือหรือว่าเรื่องราวระหว่างผมกับเธอกันแน่?”
“ถ้าเกิดว่าเซียวซือหายตัวไปเพราะเหตุผลบางอย่างที่ไม่อาจเลี่ยงได้…คุณจะให้อภัยเธอไหม?”
“ผมให้อภัยเธอแล้ว ผมแต่งงานกับน้องสาวของเธอก็เจ๊ากันพอดี”
“สีชิงชวน” ฉันจับชายเสื้อเชิ้ตของเขาเอาไว้ “ฉันรู้เหตุผลที่เซียวซือจากคุณไป”
“เธอเป็นโรคร้ายเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...