ฉันร้องไห้ไม่หยุด
จู่ๆ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลง แค่คำศัพท์ธรรมดาๆ ก็สามารถทำให้ฉันร้องไห้ฟูมฟายได้ขนาดนี้
อาจเป็นเพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่คาดหวังความรักตลอดไปเลย โดยเฉพาะกับคนที่ตัวเองรัก
การที่สีชิงชวนพูดคำว่าตลอดไปกับฉัน ฉันรู้สึกคาดหวังมากแต่ก็รู้สึกโศกเศร้า
ฉันนึกถึงตอนที่หนีอีโจวสารภาพรักกับฉัน หัวใจของฉันมันลนลานและไม่เป็นสุข ไม่มีความรู้สึกคาดหวังและซาบซึ้งใจเลย
ฉันเหมือนจะไม่ชอบหนีอีโจวแล้ว และดูเหมือนฉันจะไม่เกลียดสีชิงชวนแล้วด้วย…ไม่ใช่ไม่เกลียดแล้วเท่านั้น
จากนั้นสีชิงชวนก็ไปหยิบผ้าเช็ดหน้าอุ่นๆ ให้กับฉัน ฉันร้องไห้ฟูมฟายอยู่ครู่หนึ่ง มันมีความรู้สึกอัดอั้นในใจมากมาย
ทั้งเรื่องที่หนีอีโจวบอกว่าแม่ของเขาเป็นโรคอัลไซเมอร์ เรื่องที่เซียวซือเกือบจมน้ำเมื่อวานและสิ่งที่เธอพูดกับฉันในตอนเช้านี้
ฉันคิดว่าฉันแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว แต่พอดูตอนนี้แค่สะกิดนิดเดียวก็พังทลายแล้ว
เศษแก้วเล็กๆ พวกนี้พอรวมๆ กันก็กลายเป็นของมีคมที่สามารถทิ่มแทงฉันจนเลือดไหลนองได้
จนสุดท้ายฉันร้องไห้จนพอแล้ว สีชิงชวนจึงยื่นน้ำอุ่นให้กับฉัน ฉันค่อยๆ ดื่ม สะอึกไปรอบหนึ่งแล้วมองหน้าเขา
ในห้องนอนปิดด้วยม่านสีขาว ทำให้แสงแดดส่องเข้ามาไม่ถึง ข้างในห้องจึงเย็นสบาย ตรงหน้าฉันมีหนุ่มหล่อคนหนึ่งกำลังนั่งไขว้ขามองฉันด้วยสายตาอ่อนนุ่ม
“โอ๋…เสี่ยวเซิงเซิงที่น่าสงสาร” เขาเล่นผมของฉัน “คำพูดของผมมันเศร้ามากเลยเหรอ?”
“อย่าใช้น้ำเสียงของคุณย่ามาพูดกับฉัน” ฉันปัดมือซุกซนของเขาออก
“แต่ก่อนผมรู้สึกเลี่ยนมากตอนที่ได้ยินคุณย่าเรียกคุณว่าเสี่ยวเซิงเซิง แต่ตอนนี้รู้สึกว่ามันเพราะดี ต่อไปผมก็เรียกคุณว่าเสี่ยวเซิงเซิงดีไหม?”
“ทำไมล่ะ?” ฉันมองตาอันสว่างไสวของเขา
“ก็ผมรู้สึกว่ามันเพราะดี”
“ไม่ใช่ ฉันหมายถึงทำไมคุณถึงไม่หย่ากับฉัน?”
“คุณต้องรู้ให้ได้เลยเหรอ?”
“อืม”
เขาจับไหล่ของฉันแล้วครุ่นคิดอย่างจริงจัง “ไม่รู้”
ฉันเกือบสำลักตายกับคำตอบของเขา “ไม่รู้?”
“คนเราไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลไปซะทุกเรื่องหรอกนะ” เขาดึงให้ฉันนอนลง “ร้องไห้จนจะขาดน้ำแล้ว นอนสักตื่นหนึ่งเดี๋ยวก็ลืมเอง”
“และจะลืมคำว่าตลอดไปของคุณด้วย”
“ไม่เป็นไร เพราะผมจะบอกคุณบ่อยๆ” เขากอดฉันไว้ในอ้อมอก
ภายใต้ห้องนอนที่ถูกแดดส่องจนอุ่นแล้ว อ้อมกอดของสีชิงชวนก็ยังอบอุ่นที่สุด
ฉันไม่รู้ว่าสีชิงชวนพูดให้ความหวังคนอื่นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า แต่หลังจากได้ยินคำพูดนั้นแล้ว ฉันก็รู้สึกว่าฉันยิ่งไม่เข้าใจในตัวตนของเขาแล้ว
ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่บริเวณต้นคอของฉัน รู้สึกจั๊กจี้
เมื่อฉันหดคอ เขาก็จงใจเป่าลมใส่คอของฉัน ซึ่งมันทำให้ฉันขดตัวจนหัวเราะจะเป็นจะตาย
เขาดึงให้ฉันพลิกกลับมา เราทั้งสองนอนหันหน้าเข้าหากัน
“เซียวเซิง เจ้าตัวน้อยผมหยิกน่ารักมากเลยว่าไหม?”
“หา?” ฉันครุ่นคิด “อ้อ คุณหมายถึงลูกสาวของวิศวกรจางน่ะเหรอ?”
“อื้ม ตัวอ้วนๆ ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่มมาก” ดูคำพรรณนาของเขาซิ
“คุณชอบเด็กมากเลยเหรอ?”
“อ้วนตุ้ยขนาดนั้น ใครจะไม่ชอบกัน?” เขาจ้องฉันจนฉันรู้สึกไม่เป็นตัวเอง
“ทำไม?” ฉันเบือนหน้าหนี
“เราจะมีลูกสาวอ้วนๆ แบบนั้นไหมนะ?”
ฉันเงียบ ฉันยืนยันไม่ได้จริงๆ ว่าเราจะมีลูกสาวอ้วนๆ แบบนั้นไหม และอีกอย่างคือหัวข้อที่เรากำลังพูดอยู่มันเกินขอบเขตไปแล้วหรือเปล่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...