“เมื่อกี้ชิงชวนมาหาฉัน” เธอมองฉันยิ้มๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ “ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบนี้กับฉัน ยิ่งคิดไม่ถึงว่าความรู้สึกระหว่างเราสองคนจะยังเหมือนเดิมแม้จะผ่านไปนานขนาดนั้นแล้ว เซียวเซิง…เธอเป็นผู้หญิงที่จิตใจดีมากคนหนึ่ง เธอต้องเจอผู้ชายที่เธอรักและเขาก็รักเธอแน่นอน”
ฉันรับคำอวยพรของเซียวซือ แต่ก็ยังมึนงงอยู่
เซียวซือไม่ได้พูดอะไรต่อ เธอจูงมือฉันแล้วเดินออกจากสวนดอกไม้ในวิลล่า
มีรถชมวิวแบบ………..จอดรออยู่ข้างนอก เนื่องจากตอนนี้แดดไม่แรงแล้วจึงทำให้ลมที่ตีเข้ามาเย็นสบาย
หลังจากที่ขึ้นรถไปฉันถึงค่อยๆ เข้าใจทุกอย่าง
ก็คือหลังจากที่ฉันหลับไป สีชิงชวนไปหาเซียวซือแล้วพูดถึงเรื่องที่เธอจากเขาไปในตอนนั้น
แต่สีชิงชวนต้องไม่มีสีหน้าเหมือนตอนอยู่กับฉันแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเซียวซือไม่มีทางมีปฏิกิริยาแบบนี้แน่
หรือก็คือสีชิงชวนไม่ได้แสดงออกกับเธอเหมือนตอนที่แสดงออกกับฉันนั้นเอง
ฉันไม่รู้ว่าสีชิงชวนไปพูดอะไรกับเธอไว้ถึงทำให้เธอดีใจขนาดนี้
แต่ทว่า…เขาเพิ่งพูดคำว่าตลอดไปกับฉันไปหยกๆ
ฉันรู้ว่าคำว่าตลอดไปสำหรับฉันมันดูเพ้อฝันและมากเกินไป และฉันก็เชื่อมันกระทั่งซึ้งใจจนร้องไห้ฟูมฟายไปยกใหญ่
ทำไมฉันโง่แบบนี้เนี่ย นั่นมันสีชิงชวนนะ สีชิงชวนที่ไม่มีใครคาดเดาความคิดได้น่ะ
รถชมวิวแล่นไปตามถนนข้างชายหาด ทะเลทอดยาวสุดลูกหูลูกตา หาดทรายสีทองเป็นประกายยามต้องแสงอาทิตย์และนกทะเลที่บินต่ำใกล้ผิวน้ำ
คนขับรถบอกเราว่า “แดดไม่แรงแล้ว นกทะเลเลยออกหากินน่ะครับ”
ฉันพยักหน้าเบาๆ ส่วนเซียวซือกลับโต้ถามคนขับว่านกทะเลนี้ชื่ออะไรด้วยความตื่นเต้น
“มีเยอะแยะมากเลยครับ ทั้งนกนางนวล นางนวลหัวดำ และนางนวลหางกลืน อะ! นั่นไงครับ” คนขับชี้ไปที่นกทะเลสีเทาที่บินมาเกาอยู่ตรงไฟหน้ารถของเขา “อย่างตัวนี้เรียกว่าสกัวปีเทาครับ”
“สกัวปีกเทา?” ฉันเข้าใจที่มันชื่อปีกเทาเพราะปีกของมันเป็นสีเทา แต่สกัวนี่มันหมายความว่าอะไร?
“นกพันธุ์นี้ฉลาดมีไหวพริบ มันออกหากินเหมือนกับนกทะเลตัวอื่นๆ แต่พื้นฐานโดยกำเนิดและความไวของมันไม่ดีเท่านกตัวอื่นแล้วมันก็ขี้เกียจด้วย แต่ก็ไม่สามารถปล่อยให้ตัวเองหิวโซได้เลยไปหาบ่อปลาของชาวประมงเพื่อขโมยปลา เพราะที่นั่นมีปลาเยอะแถมยังหาง่ายกว่าท้องทะเลอันกว้างใหญ่อีกหรือไม่บางทีมันก็จะไปแย่งอาหารจากนกตัวอื่น”
“ก็คือชุบมือเปิบน่ะสิ” เซียวซือหันมาพูดกับฉัน “นกพันธุ์นี้ก็ฉลาดเหมือนกันเนอะ รู้จักใช้วิธีชุบมือเปิบให้ตัวเองมีอาหารกินในเวลาสั้นๆ”
เซียวซือกำลังพูดถึงนกแล้วทำไมฉันถึงรู้สึกว่ากำลังพูดถึงฉันอยู่ล่ะ
ตอนนี้ฉันเหมือนอยู่คั้นระหว่างสีชิงชวนกับเซียวซือ กลายเป็นสกัวชุบมือเปิบตัวหนึ่ง
ฉันหันหน้าไปมองทะเล สกัวปีกเทาฝูงหนึ่งกำลังบินว่อนไปยังอีกฝั่งหนึ่งของทะเล
จู่ๆ เซียวซือก็พูดกระซิบข้างหูฉัน “เมื่อกี้ชิงชวนพูดถึงตลอดไปกับฉันด้วย”
ฉันหันหน้ามองเธอทันควัน “ตลอดไป?”
“อื้ม ตลอดไป” เธอเอาผมทัดหู สวยงามดุจกล้วยไม้
บังเอิญเสียจริง เมื่อเช้านี้สีชิงชวนก็พูดถึงเรื่องตลิดไปกับฉันเหมือนกัน
คำว่าตลอดไปของเขาแบ่งให้กับคนสองคนหรือแค่พูดลอยๆ เท่านั้น
มาถึงสวนสนุกแล้ว เกาะแห่งนี้มีภูเขาที่ไม่สูงมากอยู่ลูกหนึ่ง และมีเครื่องเล่นอย่างหนึ่งที่ถูกสร้างไว้บนภูเขานั้น
สีชิงชวนมีหัวธุรกิจมาก เขาสร้างสวนสนุกล้อมรอบภูเขาเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
ฉันมองเห็นสีชิงชวนภายในแวบเดียว เขากำลังดูภาพสเก็ตกับเหล่าวิศวกรอยู่ ป๋ออวี่เห็นพวกเราเลยเดินเข้ามา
“ระวังด้วยนะครับ ทางนั้นมีหินกรวดเยอะ”
ที่ฉันพอจะดูภาพสเก็ตได้บ้างก็เพราะเฉียวอี้เป็นคนสอน เธอคิดว่าฉันน่าจะเป็นคนที่เก่งรอบด้าน ทว่าสำหรับเธอแล้วเรื่องพวกนี้ก็เหมือนปลอกกล้วยเข้าปาก ไม่ต้องฝึกก็เป็นแล้ว
บนกระดาษเป็นภาพสเก็ตของเครื่องเล่นรถไฟเหาะ มันยิ่งใหญ่อลังการงานสร้างมาก ถึงจะสร้างเสร็จแล้วฉันก็คงไม่กล้าเล่นอยู่ดี
ตัวรถไฟเหาะสลักตัวอักษรภาษาอังกฤษ x,s เอาไว้
เซียวซือเองก็เหมือนจะเห็นแล้วจึงหันมามองหน้าฉันแวบหนึ่ง
ฉันไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่แววตาเป็นเป็นประกายแวววับมาก
ฉันคิดว่าอักษร x,s น่าจะเป็นอักษรย่อของชื่อใครคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...