พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 29

“ฉันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย” เฉียวอี้ถูจมูกเบาๆ “บริษัทของพ่อฉันแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน?”

“เธอนี่มันใจร้ายจริงๆ ของที่เธอกินของที่เธอใช้ก็มาจากพ่อเธอไม่ใช่เหรอ?”

“ใช้เงินของพ่อผู้ให้กำเนิดมันก็ถูกต้องแล้วนี่ หรือว่าต้องใช้เงินของพ่อบุญธรรมกัน?” เฉียวอี้ช่วยพยุงไหล่ของฉันและหัวเราะคิกคัก แต่จู่ๆ สายตาก็หยุดนิ่งอยู่ที่ด้านหลังของฉัน “สีชิงชวนลงมาแล้ว โอ๊ะๆๆ เซียวเซิง เขาเก่งเรื่องบนเตียงมากเลยใช่ไหม?”

ฉันขี้เกียจที่จะพูดกับผู้หญิงหยาบโลนคนนี้แล้ว จึงผลักเธอออก “ถ้าเธอพูดจาเหลวไหลอีกระวังจะแต่งไม่ออก”

“เธอก็บอกฉันมาสิ สีชิงชวนที่ใครๆ ต่างก็สนใจเวลาอยู่บนเตียงเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ไสหัวไปให้พ้น” สีชิงชวนเดินมาทางพวกเราแล้ว ทำให้ฉันรู้สึกว้าวุ่นใจมาก

เรื่องที่เฉียวอี้เพิ่งจะพูดเมื่อสักครู่นี้ ทำให้ฉันนึกถึงความสนิทสนมบนเตียงเมื่อครู่นี้ขึ้นมาทันที

ในตอนนั้น ตัวฉันได้ลืมเลือนสิ่งต่างๆ ไปมากมาย

รวมถึงหนีอีโจวด้วย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป แล้วฉันจะเผชิญหน้ากับเขาอีกได้อย่างไร?

สีชิงชวนแค่เดินผ่านด้านข้างของฉันไปและเอ่ยกับฉันแค่เพียงประโยคสั้นๆ ว่า “ผมจะไปงานศพของพ่อตาวันพรุ่งนี้เช้าตรงเวลาแน่นอน”

จากนั้นเขาก็สาวเท้าเก้าเดินออกไปทางประตูใหญ่อย่างรวดเร็ว

ฉันมองดูแผ่นหลังของเขาอย่างเหม่อลอย เฉียวอี้จึงผลักฉันเบาๆ “เป็นอะไรไป? ตอนนี้ถึงขั้นละสายตาจากไปไม่ได้เลยหรืออย่างไร”

“เขาสวมชุดของคุณพ่อฉันได้พอดีเลยจริงๆ เหมือนกับว่าตอนนั้นตั้งใจซื้อมาให้เขาเลย” ฉันพึมพำกับตัวเอง

“เซียวเฉิง คิดไม่ถึงเลยว่าสีชิงชวนจะไม่โกรธ ดูเหมือนเขาจะค่อนข้างพอใจในร่างกายของเธอนะ ก็เท่ากับว่าเธอมีอาวุธลับอย่างหนึ่งแล้ว เธอต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์โดยการมัดสีชิงชวนไว้ให้อยู่หมัด”

“เธอนี่น่ารำคาญชะมัด” ฉันถูกเธอบ่นจนปวดหัวไปหมดแล้ว “เธอกลับไปก่อนเถอะ แล้วค่อยมางานศพวันพรุ่งนี้แทน”

“ไม่ได้ ฉันจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอ ฉันกลัวพวกนั้นจะรังแกเธอ”

มีบางครั้งที่เฉียวอี้ปกป้องฉันเหมือนกับแม่ไก่ปกป้องลูกเจี๊ยบ เธอรู้ดีว่าฉันไม่มีความสามารถในการปกป้องตัวเอง ไม่ถนัดเรื่องสงครามระหว่างผู้หญิงอะไรทำนองนั้น ดังนั้นถึงแม้จะเป็นตอนที่คุณพ่อยังอยู่ก็มักจะถูกเซียวหลิงหลิงกับแม่เลี้ยงรังแกอยู่เป็นประจำ

เซียวหลิงหลิงชอบรังแกอย่างโจ่งแจ้งโดยที่ไม่มีความละอายใจ ในตอนนั้นเลยถูกคุณพ่อสั่งสอนไปไม่น้อย อีกอย่างแม่เลี้ยงเป็นคนที่ฉลาดมาก มองจากภาพนอกไม่มีทางรู้ได้เลย

ฉันคิดว่าในบ้านหลังนี้ ถึงแม้เซียวซือจะเย็นชากับฉัน แต่เธอก็ไม่เคยรังแกฉันมาก่อน ดังนั้นการที่เฉียวอี้ก่อเรื่องขึ้นในวันนี้จึงทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจมากและไม่กล้าที่จะสบตาเธอเลยด้วยซ้ำ ทั้งยังเอาแต่หลบสายตาของเธอมาโดยตลอด

ตอนนี้ก็ดึกแล้ว ฉันให้เฉียวอี้กลับไปก่อน เธอกำชับให้คืนนี้ฉันต้องไปนอนและให้เซียวหลิงหลิงอยู่เฝ้าแทน

หลังจากที่เฉียวอี้ไปแล้ว แขกคนอื่นๆ ที่มางานศพต่างก็ค่อยๆ พากันจากไป ภายในห้องโถงจึงเหลือแค่ฉันและพวกเธอรวมกันอยู่สี่คน

ฉันจุดธูปให้คุณพ่อ เนื่องจากเมื่อคืนไม่ได้นอน วันนี้ฉันเลยรู้สึกไม่มีเรี่ยวแรง จึงได้ยืนขึ้นมาอย่างช้าๆ และเดินไปหาแม่เลี้ยงเพื่อบอกต่อหน้าเธอว่า “คุณน้าคะ พี่สาว คืนนี้คงต้องฝากพวกคุณด้วย ฉันขอตัวขึ้นไปพักผ่อนก่อนนะคะ”

ฉันเพิ่งจะก้าวเดินไป น้ำเสียงแหลมเสียดหูของเซียวหลิงหลิงก็ดังขึ้น “อะไรกัน มีเซ็กส์เมื่อตอนบ่ายจนอิ่มหนำ เคี่ยวกรำร่างกายตัวเองจนเหนื่อยแล้วรึไง?”

คำพูดของเซียวหลิงหลิงไม่น่าฟังถึงขนาดนี้ ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนเซียวซือก็คงจะตำหนิเธอไปแล้ว แต่ครั้งนี้เธอกลับไม่พูดอะไรสักคำและก้มหน้าเล่นมือถือไป

ฉันกำชายเสื้อเอาไว้แน่น ไม่อยากทะเลาะกับเธอ “ฉันขึ้นข้างบนก่อนนะคะ”

“เดี๋ยวก่อน” แม่เลี้ยงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “เซียวเซิง ศพของพ่อเธอตั้งอยู่ชั้นล่างแท้ๆ แต่เธอกลับทำเรื่องบัดสีพวกนั้นที่ชั้นบน เธอรู้สึกละอายใจต่อพ่อของเธอบ้างรึเปล่า?”

“ขอโทษค่ะ คุณน้า” ฉันรู้สึกอับอายแทบตายอยู่แล้ว จึงก้มศีรษะลงและมองดูเซียวซือผ่านเส้นผมแวบหนึ่ง เธอยังคงมองที่มือถืออยู่ แต่ปลายนิ้วยังคงไถอยู่ตลอด ด้วยความเร็วขนาดนี้ไม่มีทางจะมองตามทันอยู่แล้ว ดังนั้นฉันจึงรู้ว่าเธอไม่ได้สนใจมือถือเลยสักนิดเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)