วิธีการบอกลาของเฉียวอี้วกวนไปมา ฉันคิดไม่ถึงว่าเธอจะลงมาจากรถ เดิมทีฉันก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่แล้ว ตอนนี้เธอทำฉันน้ำตาไหลออกมา
ฉันกอดกับเฉียวอี้ร้องไห้อยู่สิบนาที จนป้าสี่มาเร่ดรัด “คุณนายเพิ่งจะโทรมาว่า รู้ว่าถ้าทำแบบนี้อยู่เซียวเซิงจะสายเอานะ รีบไปสนามบินเถอะ!”
คุณแม่เฉียวเข้าใจฉันจริงๆ เฉียวอี้ร้องไห้ออกมาทั้งเมคอัพ เธอเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง โดยปกติเธอไม่หลั่งน้ำตาง่ายๆ
ฉันใช้ทิชชู่เปียกเช็ดหน้าให้เธอ ไม่กล้าแม้แต่บอกลากับเธอ รีบเข้าไปในรถทันที
คนขับสตาร์ทรถทันทีและขับรถออกไปจากบ้านเฉียวอี้ทันที ฉันนั่งอยู่ในรถไม่กล้าหันหลังกลับไปดู เพราะรู้ว่าเฉียวอี้กำลังยืนดูฉันอยู่ที่รถ
ไม่รู้ว่านานผ่านมานานเท่าไหร่แล้ว แต่เธอเห็นว่ารถอยู่บนสะพานแล้ว คนขับรถยื่นทิชชู่ให้ฉันหนึ่งแผ่น “อย่าร้องเลย คุณหนูเซียว”
ฉันขอบคุณที่คนขับรถให้กระดาษทิชชู่แก่ฉัน ตอนที่ฉันกำลังเช็ดจมูกอยู่สีจิ่นยวนก็โทรมา “เซียวเซิง ถึงไหนแล้ว ?”
เมื่อฉันมองเห็นป้ายข้างทางก็บอกเขาทันที เขาดูมีความสุขมาก “งั้นสามสิบนาทีก็ถึงแล้วแหละ ฉันกำลังจะถึงสนามบินแล้ว เดี๋ยวฉันจะรออยู่ล็อบบี้นะ!”
“โอเค” ฉันพูด
ตอนที่สีจิ่นยวนกำลังจะวางสาย ฉันถามเขา “เธอไปสนามบินคนเดียวใช่ไหม ?”
“ใช่ ยังจะต้องมีใครไปด้วยอีกล่ะ ?” เขาดูเหมือนจะโง่เขลามากกว่าฉันอีกนะ
“ที่ฉันถามคือไม่มีใครไปส่งนายที่สนามบินเหรอ ?”
“ฉันไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่เด็ก บินไปบินมา ตอนไปครั้งแรกพวกเขาก็ไปส่งฉันอยู่ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจฉันเลย โอเคหรือยัง”
ฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองโล่งใจหรือยัง วางสายสีจิ่นยวนเสร็จฉันก็นั่งหลับตาพักผ่อนทันที
เมื่อคืนนอนไม่เต็มอิ่ม เฉียวอี้ดึงฉันไปกระซิบเล่าเรื่องตอนเด็กให้ฟังตลอด
แน่นอนว่านอนไม่พอ ฉันเป็นคนที่ไม่ว่าเดินทางด้วยรถยนต์หรือเครื่องบิน กี่วันกี่คืนก็ไม่หลับ ไม่งั้นฉันจะนอนไม่หลับ
ฉันได้ยินคนขับรถพูดเสียงเบาๆว่า “เกิดอะไรขึ้น ? ปกติถนนเส้นนี้รถไม่ติดนี่”
ฉันลืมตามอง บนถนนเต็มไปด้วยรถ อีกทั้งยังขับช้าลง ดูเหมือนข้างหน้าก็จะติดเต็มไปหมด
ฉันมองไปด้านหลัง ถามคนขับรถ “ถ้าอย่างนั้นก็ ตอนนี้ก็ยังไม่ติดเท่าไหร่ พวกเราเปลี่ยนเส้นทางอื่นกันไหมคะ ?”
“ได้ครับ” คนขับพนักหน้า “ผมรู้อยู่เส้นนึง ทางไม่ค่อยดี แต่ว่าน่าจะดีกว่าตรงนี้”
คนขับกลับรถและมุ่งไปยังทิศทางตรงข้าม
เขากำลังเดินทางด้วยถนนเส้นใหม่ คนขับรถพูดเก่งและน่าสนใจมากบอกฉันว่า “ถนนทุกเส้นในฮวาเฉิงรู้จักหมด ผมเซียนมาก”
ถนนเส้นนี้ยังไม่ซ่อมเสร็จดี แต่ตอนนี้ไม่เห็นใครเลย ดูเวลาไม่รู้ว่าจะทันหรือเปล่า
คนขับรถตบที่หน้าอกตัวเอง “คุณวางใจเถอะ ทันแน่นอน ผมขับเร็วขึ้นแล้ว ไกลกว่าไปถนนเส้นนั้นนิดหน่อย ทันแน่นอน”
คนขับขับเร็วอย่างกับบิน ล้อรถอย่างกับล้อไฟ เสียดสีกับก้อนหินที่อยู่บนพื้น ฉันรู้สึกว่าเหมือนมีไฟออกมาจากล้อแล้ว
ฉันพูดกับคนขับ “จริงๆไม่ต้องเร็วขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลาอยู่ อาจจะไม่สายหรอกค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...