“บางทีผมก็คิดว่าคุณกับเฉียวอี้ไม่เหมือนเพื่อนรักกัน” สีชิงชวนยังยืนอยู่หน้าเตียงของฉัน เขาพูดขึ้นกับฉัน “คุณเหมือนลูกสาวที่เธอเบ่งออกมาเอง แถมยังพยายามจัดการทุกอย่างให้คุณอย่างเต็มที่อีก”
อดพูดไม่ได้ว่าการวิเคราะห์ของสีชิงชวนนั้นค่อนข้างแม่นยำเลยทีเดียว
ฉันว่าถ้าจะบอกว่าฉันเป็นน้องสาวของเฉียวอี้ ฉันก็อ่อนกว่าเธอแค่ไม่กี่เดือน ต่อให้เป็นการปฏิบัติกับน้องสาวก็ไม่เห็นจะต้องเป็นห่วงขนาดนี้
ฉันคงเป็นลูกสาวที่เฉียวอี้เลี้ยงมากเมื่อชาติก่อนล่ะมั้ง
ฉันเข้าใจคำพูดมีนัยของสีชิงชวน
ความหมายแฝงของเขาก็คือฉันเป็นคนที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่ว่าเรื่องอะไรต้องให้เฉียวอี้เป็นคนจัดการให้ทุกอย่าง
สีชิงชวนกดขี่ฉันได้ทุกที่จริงๆ ตอนนี้ฉันอยู่ในสภาพนี้แล้ว เขายังกดขี่ฉันอยู่ได้
ถึงตอนนี้ฉันจะอ่อนแอ แต่ตอนนี้สีจิ่นยวนจะเป็นยังไงบ้าง ฉันต้องถามสีชิงชวนสักหน่อย
ฉันจึงถามเขาขึ้น “สีจิ่นยวนล่ะ ตอนนี้เขาอยู่ไหน?”
“เขาบินกลับโรงเรียนไปแล้ว น่าจะถึงแล้วแหละ!” เขามองนาฬิกา จากนั้นก็กวาดสายตามองฉันอย่างเย็นชารอบหนึ่ง “คุณพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวคนที่บ้านเอาซุปมาให้”
“ไม่ต้องหรอก” ฉันพูดอย่างเซื่องซึม
ตอนนี้ฉันเจ็บขามาก ต่อให้เอาเนื้อมังกรมาให้ฉันก็กินไม่ลงหรอก
หลังจากนั้นสีชิงชวนก็เดินออกไป ฉันนอนหลับตา ความรู้สึกเจ็บปวดที่มาจากท่อนขาเหมือนกับมีมดกำลังกัดอยู่ที่ขาฉัน ทำให้ฉันรู้สึกกลัวว่าถ้าก้มหน้าลงไปมองที่ขาขวาแล้วจะพบว่ามันกลายเป็นกระดูกไปแล้ว
เวลาผ่านไปเนิ่นนาน ประตูห้องของฉันก็ถูกเปิดออก ฉันฟังจากเสียงฝีเท้าก็รู้เลยว่าคนที่เข้ามายังคงเป็นสีชิงชวนเหมือนเช่นเคย
เขาเดินมาที่เตียงของฉันและวางอะไรบางอย่างลงบนโต๊ะข้างเตียง จากนั้นก็มีเสียงเปิดฝากระบอกเก็บความร้อนดังขึ้น เขากำลังเทซุปออกมาจากด้านใน
ทันใดนั้นกลิ่นซุปปลาแกงถั่วแขกก็ตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้อง
ฉันรู้สึกได้ว่าสีชิงชวนยื่นมือมาแตะที่แก้มฉันเบาๆ ความจริงฉันกำลังตื่นอยู่ แต่แค่ลืมตาไม่ขึ้น
ฉันได้ยินเขากำลังพูด “เซียวเซิง กินซุปสักถ้วยก่อนแล้วค่อยนอน”
ฉันไม่หิว ฉันไม่อยากกิน แล้วฉันก็ขี้เกียจลืมตาเหมือนกันจึงทำเป็นแกล้งหลับ
เขาผลักฉันเบาๆ “ผมรู้ว่าคุณไม่ได้หลับ กินแล้วจะได้มีแรง ไม่งั้นยาแก้ปวดก็ช่วยให้คุณผ่านคืนนี้ไปไม่ได้หรอกนะ คุณเพิ่งผ่าตัดไป คืนนี้จะเจ็บมาก”
สีชิงชวนขู่ฉันได้สำเร็จ ฉันเบิกตาโพลงขึ้นมาทันที จากนั้นก็เห็นว่าเขากำลังยืนถือซุปถ้วยหนึ่งอยู่ข้างเตียงฉัน
สีชิงชวนสามารถเกลี้ยกล่อมฉันได้สำเร็จภายในระยะเวลาอันรวดเร็วเสมอไม่ว่าที่ไหนและเมื่อไหร่ หรือมันควรจะเรียกว่าการข่มขู่มากกว่า!
เขาช่วยฉันปรับเตียงขึ้นให้ฉันนั่งพิง จากนั้นก็นั่งลงที่ข้างเตียงและตัวซุปปลาแกงมาจ่อที่ปากฉัน
น้ำซุปปลาใสเหมือนกับน้ำเปล่า ฉันจำได้ว่าเมื่อก่อนที่คุณแม่ต้มซุปปลาคาร์พไม้กางเขน น้ำซุปจะเป็นสีขาวน้ำนม ซุปปลาที่ใสแจ๋วเหมือนน้ำเปล่าแบบนี้มันดูไม่น่ากินเลยสักนิด
อีกอย่าง ปกติซุปปลาก็จะค่อนข้างคาว ไม่ว่าจะต้มยังไงมันก็ยังมีกลิ่นคาวอยู่จางๆ
ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยและเบือนหน้าไปทางอื่น “ฉันไม่อยากกิน”
“คุณไม่อยากกินซุปปลา หรือว่าไม่อยากกินซุป?”
“ไม่อยากกินซุปปลา” ฉันบอก
“โอเค งั้นผมให้พวกเขาเอาซุปอย่างอื่นมาให้คุณใหม่ คุณกินถั่วแขกรองท้องหน่อย ”
“ไม่รบกวนดีกว่า”
“ไม่ได้รบกวน” ฉันคิดว่าเขาจะรำคาญ แต่น้ำเสียงของเขากลับอ่อนโยนมาก
บางทีสีชิงชวนก็ดูเป็นพวกหลายบุคลิก ตอนที่ฉันคิดว่าเขาน่าจะโกรธ เขาก็ไม่โกรธ แต่ตอนที่ไม่น่าจะโกรธ เขากลับโกรธขึ้นมาซะงั้น
ถั่วแขกก็ต้มอยู่ในน้ำซุปจึงมีกลิ่นคาวเหมือนกัน ฉันจึงปฏิเสธเขาไป
เขาไม่ได้โมโหจนคว่ำถ้วยใส่หน้าฉัน ทำเพียงสั่งให้คนเข้ามาเก็บ จากนั้นก็นั่งลงข้างๆ ฉัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...