พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 32

สรุปบท ตอนที่ 32 ยินดีด้วย เธอกลายเป็นคนรวยแล้ว: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

อ่านสรุป ตอนที่ 32 ยินดีด้วย เธอกลายเป็นคนรวยแล้ว จาก พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung

บทที่ ตอนที่ 32 ยินดีด้วย เธอกลายเป็นคนรวยแล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Chompoo Prateung อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ทนายไห่พยักหน้าให้พวกเราทุกคนและเดินออกจากคฤหาสน์ไป เซียวหลิงหลิงเริ่มอาละวาดอย่างบ้าคลั่งและฉีกสำเนาเอกสารออกเป็นชิ้นๆ

“หรือว่าคุณพ่อยกหุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ให้เธอตอนที่ยังไม่ได้สติ! เซียวเซิง เธอพอใจแล้วรึยัง? พอใจรึยัง?” เซียวหลิงหลิงร้องตะโกนเสียงดังมาทางฉัน

ตอนนี้ไม่สามารถอยู่ที่นี่นานได้อีกต่อไปแล้ว ฉันก้มลงไปค้นหาลายเซ็นของคุณพ่อฉันในกองสำเนาเอกสารที่ถูกเซียวหลิงหลิงฉีกออกเป็นชิ้นๆ และนำใส่กระเป๋า

ฉันอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับพวกเธอ แต่คิดว่าพวกเธอคงจะไม่ฟังฉันพูด

เซียวซือที่นั่งเงียบมาโดยตลอด จู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนขึ้น เธอไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันสักนิดก็เดินออกไปจากห้องโถง

เซียวหลิงหลิงเป็นบ้าไปแล้ว เธอคิดที่จะกระโจนเข้ามา แค่คาดว่าแม่เลี้ยงคงจะเห็นสีชิงชวนนั่งอยู่ จึงได้ห้ามปรามเธอเอาไว้ ฉันเลยฉวยโอกาสนี้รีบเดินออกจากคฤหาสน์

เมื่อเดินออกมาจากสถานที่ที่วุ่นวายนั้นแล้ว ฉันก็ถอนหายใจลากยาวด้วยความโล่งอก

ฉันกำลังจะเดินไปที่รถเพราะเฉียวอี้รอฉันอยู่บนรถ

ทว่าเสียงของสีชิงชวนก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังซะก่อน “คงต้องแสดงความยินดีกับเธอสินะ ในเวลาสั้นๆ แค่ยี่สิบนาทีก็ทำให้เธอกลายเป็นเศรษฐีคนหนึ่งไปแล้ว”

ฉันหยุดก้าวเดินและหันหลังกลับไป ในเวลานี้ก็มีลมพัด แสงอาทิตย์ในยามเช้าลาลับไปแล้ว สีชิงชวนในชุดสูทสีดำตลอดทั้งตัวอยู่ท่ามกลางสายลม สายลมที่พัดแรงนั้นไม่สามารถทำให้ทรงผมที่ผ่านการสเปรย์ตกแต่งมาแล้วของเขาขยับได้เลย

เขาดูเหมือนต้นไม้ที่สูงที่สุดในคฤหาสน์หลังนี้ หรือไม่ก็รูปปั้นแกะสลัก หรือไม่ก็ภูเขาจำลอง โดยที่กล่าวมานั้นพอมาอยู่ตรงหน้าทำให้ฉันรู้สึกกดดันมาก

ฉันเลียริมฝีปากเล็กน้อยและเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ขาดห้วงเป็นอย่างมาก “ฉันก็คิดไม่ถึง ฉันไม่ได้อยากได้”

“ทั้งที่ได้ผลประโยชน์ แต่กลับบอกว่าตัวเองไม่ต้องการ ที่แท้คุณก็เป็นนักลงทุนคนหนึ่ง” เขายิ้มและพยักหน้าเบาๆ “ถ้าไม่อยากได้ก็กลับไปบอกคนในบ้านว่าคุณจะยกของทั้งหมดให้พวกเขาซะ รับรองว่าพวกเธอจะต้องทำดีกับคุณกว่านี้แน่”

ความจริงแล้วตอนนี้ฉันก็มีความรู้สึกหนึ่งที่อยากจะพุ่งกลับเข้าไปบอกพวกเธอว่าฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น

เพียงแต่ฉันหยุดยั้งการกระทำของตัวเองเอาไว้

หุ้นสามสิบเปอร์เซ็นต์ที่คุณพ่อให้ฉันเป็นสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดมาก่อน ฉันไม่รู้ว่าคุณพ่อทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร

ในช่วงเวลาที่ฉันไม่เข้าใจนี้ ฉันไม่มีทางเคลื่อนไหวเป็นอันขาด

ฉันมองดูสีชิงชวนคลี่รอยยิ้มที่ไม่น่ามองที่สุดและหันหลังเดินไปที่รถ

ในตอนที่หันหลังนั้น ฉันมองเห็นรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามของสีชิงชวน

เขาคงจะคิดว่าปากฉันบอกไม่ต้องการ แต่ในใจกลับยินดีราวกับดอกไม้ที่ผลิบาน

พอฉันขึ้นรถเสร็จแล้ว เฉียวอี้ก็พุ่งตัวเข้ามาถามฉัน “เป็นอย่างไรบ้าง?”

ฉันนำพินัยกรรมในมือยื่นให้เธอ เธอก้มลงอ่านอย่างตั้งใจ

“ลุงสวี ออกรถได้เลยค่ะ” ฉันพูดกับคนขับรถ

คนขับรถสตาร์ทเครื่องยนต์ “กลับตระกูลสีรึเปล่าครับ?”

ฉันไม่รู้เลยว่าควรไปที่ไหน ฉันมองออกไปข้างนอกหน้าต่างด้วยความสับสน สีชิงชวนกำลังเดินไปที่รถของเขาและเปิดประตูขึ้นไปนั่ง

ฉันเปิดกระจกและยื่นศีรษะออกไปพูดกับเขาว่า “ฉันขอไปค้างที่บ้านของเฉียวอี้หนึ่งคืนได้ไหม?”

เขาคงจะได้ยินแล้ว เพียงแต่ไม่สนใจฉันเลยสักนิด ก่อนจะเข้าไปนั่งข้างในรถ

ฉันเลยถือว่าเขายอมรับอย่างเงียบๆ แล้ว

ตอนนี้ฉันต้องการคนอยู่เคียงข้างมากๆ ต้องการเพื่อนที่ดีอย่างเฉียวอี้ ต้องการให้เธอบ่นพึมพำอยู่ข้างหูฉัน เติมเต็มจิตใจของฉันได้บ้าง

อ้อมกอดของเฉียวอี้ทั้งอบอุ่นและเชื่อใจได้มากมาโดยตลอด ฉันโอบรอบคอของเธอเอาไว้และถอนหายใจออกมา “ฉันไม่อยากได้ของพวกนี้ ฉันแค่ต้องการให้คุณพ่อมีชีวิตอยู่”

เฉียวอี้ที่เมื่อกี้นี้เพิ่งจะตื่นเต้นดีใจตอนนี้ก็ได้สงบลงแล้ว เธอไม่ได้พูดอะไรอยู่นาน เพียงแค่ตบลงบนหลังของฉันเบาๆ “เซิงเซิงตัวน้อยที่น่าสงสาร อย่ากังวลใจไปเลย วันหน้าฉันจะอยู่ข้างๆ เธอเอง ไม่ให้ใครมาทำร้ายเธอแน่นอน”

ยังดีที่ฉันมีเฉียวอี้

ฉันและเฉียวอี้กลับมาที่บ้านของเธอ วันนี้คุณพ่อและคุณแม่ของเธอต่างก็ไปร่วมงานศพด้วย ต่อมาพอทนายไห่ได้อ่านพินัยกรรมพวกเขาจึงได้กลับมาก่อน

คุณพ่อเฉียวออกไปที่บริษัท คุณแม่เฉียวอยู่ที่บ้าน

เฉียวอี้รู้สึกตื่นเต้นจนอดใจไม่ไหวและเล่าเรื่องพินัยกรรมของฉันให้คุณแม่เฉียวฟัง พวกเธอดีใจราวกับว่าคนที่ได้ของเหล่านั้นคือพวกเธอเอง

ฉันรู้ดีว่าพวกเธอมักจะรู้สึกว่าหลายปีมานี้ฉันมีชีวิตที่ลำบากมาก เนื่องจากประสบการณ์ชีวิตที่คล้ายกันเลยทำให้ฉันและเฉียวอี้สนิทกันตั้งแต่เด็ก ในตอนที่คุณแม่ยังอยู่ก็เข้ากันได้ดีกับคุณแม่เฉียว

หลังจากที่คุณแม่จากไปแล้ว คุณแม่เฉียวก็ร้องไห้เสียใจอย่างหนัก ในตอนที่คุณพ่อไม่อยู่และฉันถูกรังแกอยู่ที่ตระกูลเซียว ก็เป็นเธอเองที่ไปรับฉันมาอยู่ด้วยกันสักระยะ จนกระทั่งคุณพ่อกลับมาเธอถึงได้ส่งฉันกลับไป

ฉันคุ้นเคยกับแม่บ้านและคนรับใช้ทุกคนในครอบครัวของพวกเขาเป็นอย่างดี แม่บ้านไช่เป็นคุณป้ารูปร่างอวบอายุราวๆ ห้าสิบปี ตอนที่เฉียวอี้และฉันยังเป็นเด็กก็มักจะเรียกเธอว่าคุณป้าดอกกะหล่ำมาโดยตลอด เธอเป็นคนที่ใจดีมากๆ เลยล่ะ

เธอชงชาให้ฉัน ทั้งยั้งเอาใจใส่ฉัน ฉันนั่งรออยู่ที่โซฟาเป็นเวลาครึ่งวันสองแม่ลูกคู่นั้นถึงจะหยุดดีใจ

คุณแม่เฉียวเข้ามากอดฉันเอาไว้ “ไอ้หยา เสี่ยวเซิงเซิงของแม่ ตอนนี้ได้ลืมตาอ้าปากสักทีนะ ส่วนแบ่งหุ้นตั้งสามสิบเปอร์เซ็นต์ ฮ่าๆๆ” เธอยิ้มตาหยี “เซียวหลิงหลิงอยากจะเข้าเซี่ยวซื่อกรุ๊ปใจจะขาดแต่สุดท้ายก็ไม่ได้เข้าไป เสี่ยวเซิงเซิง พรุ่งนี้ตั้งใจทำงานที่เซียวซื่อกรุ๊ปให้ดีๆ นะ วันหน้าก็เป็นซีอีโอหญิง”

“ว้าว เซียวเซิง ฉันจะเป็นเลขาให้เธอเอง” เฉียวอี้พูดแทรกขึ้นมา

ฉันมองดูรอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเธอ จู่ๆ ก้อนน้ำแข็งในใจของฉันก็พังทลายลง หยาดน้ำตามากมายไหลทะลักออกจากดวงตาของฉัน

“คุณแม่บุญธรรม” กลางฝ่ามือของฉันเปียกชื้นขึ้นมา ราวกับว่าน้ำใจร่างกายได้ไหลซึมผ่านทุกอณูในร่างกายของฉัน “หนูไม่มีคุณพ่อแล้ว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)