เรื่องแบบนี้ยังแล้วแต่ได้ ฉันคิดว่าสีชิงชวนจะเยาะเย้ยฉันให้หนัก แต่กลับไม่เป็นอย่างนั้น จากนั้นเขาก็เดินออกไปเลย
ฉันแอดมิทโรงพยาบาลไปหนึ่งสัปดาห์เต็ม ตรวจนั้นตรวจนี้สารพัด
คุณหมอบอกว่ากระดูกที่หักของฉันงอกขึ้นมาใหม่แล้ว เส้นเอ็นก็ต่อกันดี แค่พักผ่อนให้ดีแล้วทำการยืดตัวบวกกับทำกายภาพบำบัดหน่อยก็ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องการออกกำลังกายแล้ว ขอแค่ไม่หนักมากก็พอ
ออกจากโรงพยาบาลรอบนี้ ฉันกลับไปที่บ้านสี เพราะคุณย่ากำชับมาว่าให้กลับบ้านสี ถ้ายังพักอยู่ข้างนอกกับสีชิงชวนล่ะก็ อย่าคิดว่าจะมีชีวิตต่อได้เลย
ถึงแม้คุณย่าจะดูเว่อร์ไปบ้าง แต่ถ้ากลับบ้านสีมีคนอยู่เยอะ ย่อมดีกว่าเผชิญหน้ากับสีชิงชวนคนเดียวอยู่แล้ว
อีกวันหนึ่งก็เป็นวันเกิดของแม่เลี้ยงแล้ว ฉันรับปากเซียวซือไว้ก็ต้องไปให้ได้ และไม่ว่ายังไงแม่เลี้ยงก็เป็นภรรยาของพ่อฉันเหมือนกัน
ฉันไม่ได้บอกเฉียวอี้ เพราะรู้ว่าเธอต้องไม่เห็นด้วยแน่นอน
ตอนเย็น ขณะที่ฉันกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่นั้น สีชิงชวนก็กลับมาถึงแล้ว เขาเห็นฉันแต่งตัวก็ไม่ได้ถามอะไร ฉันคิดว่าเขาก็น่าจะไปเหมือนกัน
ก่อนออกไป สีชิงชวนเพียงแค่พูดกับฉันประโยคเดียวว่า “ทำทุกอย่างตามความสามารถของตน คุณแน่ใจเหรอว่าสภาพโซซัดโซเซของคุณแบบนี้จะไปงานเลี้ยงไหว?”
“ฉันรับปากเซียวซือไว้แล้ว” ฉันกล่าว
เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ เพียงแค่ยกมือฉันขึ้น
ฉันรู้สึกไม่ชินที่เขาจับมือ พอจะดึงกลับก็ถูกเขาจับไว้แน่นกว่าเดิม
“ถ้าคุณไม่อยากล้มหัวฟาดพื้นก็ประคองผมไว้ดีๆ ผมยังไม่ถือที่พยุงหลี่เถียไกว่ [1] เลย คุณยังจะถือสาอีก?”
“หลี่เถียไกว่เป็นผู้ชายจ๊ะ” ฉันเถียง
เขาเบะปากต้องยอมรับ
งานเลี้ยงวันเกิดของแม่เลี้ยงถูกจัดขึ้นที่ภัตตาคารอาหารจีนที่ดังมากแห่งหนึ่งในเมืองฮวา แม่เลี้ยงชอบเข้าสังคมอยู่แล้ว ท่านจึงมีเพื่อนนักธุรกิจต่างๆ ที่ล้วนเป็นธุรกิจใหญ่ๆ
วันนี้แม่เลี้ยงแต่งตัวสวยสะพรึงตามาก เป็นชุดกี่เพ้าสีแดงตระการตาประดับมุก ออร่าจับมาก
ความจริงฉันแอบรู้สึกว่าการที่แม่เลี้ยงมาจัดงานเลี้ยงวันเกิดยิ่งใหญ่หลังจากที่พ่อเพิ่งเสียไปได้ไม่นานแบบนี้มันดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ฉันเตรียมของขวัญไว้ให้แม่เลี้ยง ไม่รู้ว่าท่านจะชอบหรือเปล่า
แต่ก่อนฉันจะมอบของขวัญให้ท่านในงานวันเกิดทุกปี แต่ทุกครั้งดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นัก บางชิ้นถึงขั้นให้คนใช้เอาไปเก็บโดยไม่เปิดดูเลยด้วยซ้ำ คาดว่าน่าจะวางเป็นขยะอยู่ในห้องเก็บห้องนั่นแหละ
ครั้งนี้ฉันมอบของขวัญให้กับท่าน ท่านกลับยิ้มตาหยี่แล้วขอบคุณฉัน จากนั้นก็เปิดกล่องของขวัญออก
ของขวัญที่ฉันมอบให้คือเข็มกลัดมรกตราคาแพงมาก เพราะของราคาถูกไม่เคยต้องตาท่าน
แม่เลี้ยงชมฉันไม่หยุด บอกว่าฉันมีใจเลือกของขวัญให้
แต่ฉันรู้ดีว่ารอยยิ้มนี้ไม่ได้ให้ฉันหรอก ให้สีชิงชวนที่อยู่ข้างกายฉันต่างหาก
ด้วยบุญบารมีของสีชิงชวน แม่เลี้ยงแสดงออกต่อฉันด้วยสีหน้าที่ดี ทำให้ฉันสามารถนั่งร่วมโต๊ะได้
ใช่ ไม่นานฉันก็มองเห็นเซียวซือ เธอยังคงสวมชุดขาวทั้งตัว เธอสวมชุดเดรสสีขาวยาวลากพื้น และเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวที่สวมชุดขาวแล้วไม่เพียงแต่ดูหรูหราสง่างดงาม แต่ยังแตกต่างจากคนอื่นเท่าที่ฉันเคยเจอมา
เซียวซือพยุงแขนฉัน “ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาจริงๆ ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าถ้าไม่สะดวกไม่ต้องมาก็ได้”
“ฉันไม่เป็นไร” ฉันตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...