พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 34

ฉันถูกเฉียวอี้จับแต่งตัวจากนั้นก็ลากขึ้นรถไป ตลอดเวลาที่เดินทางฉันรู้สึกไม่มั่นใจที่จะต้องไปจับชู้มาก แต่เพราะรถกำลังแล่นค่อนข้างเร็วฉันเลยไม่กล้ากระโดดลงไป

เมื่อมาถึงที่โรงแรมแล้ว เพื่อนของเฉียวอี้ก็ได้รอพวกเราอยู่ที่ด้านหน้าโรงแรม ทำอย่างกับว่าเป็นสายลับอย่างนั้นแหละ “คนอยู่ไหน?”

“ยังอยู่ชั้นบน แค่สองคน”

“นานแค่ไหนแล้ว?”

“ประมาณสองชั่วโมงแล้ว”

“แย่ละสิ ไม่กลัวจะเจ็บตัวเลยสินะ” เฉียวอี้เอ่ยสบถออกมา “พวกเราจะเข้าไปยังไง ถีบประตูเข้าไปเลยดีไหม?”

“ประตูของโรงแรมนี้ทำมาจากกระจกอย่างดีทั้งหมด ต่อให้ใช้เท้าเตะก็เปิดไม่ออกหรอก ฉันได้ยินเพื่อนของฉันบอกว่าสีชิงชวนต้องการชุดนอนแบรนด์เนมสองชุดจากร้านชื่อดังที่ชั้นล่าง เธอแกล้งทำเป็นเคาะประตูเพื่อส่งชุดนอนก็ได้”

“เวรเอ๊ย เข้าใจเล่นดีนี่ ชุดนอนมันคงเร้าใจละสิท่า?” เฉียวอี้กำหมัดขึ้นมาอย่างเตรียมพร้อม “เซียวเซิง ตอนนี้เธออย่าเพิ่งรู้สึกแย่นะ พอเข้าไปเห็นเซียวซือแล้วก็ร้องไห้ด่ากราดไปเลย แต่ห้ามทำร้ายหล่อน เธอจะต้องแสดงบทบาทของภรรยาหลวงออกมาให้ได้”

“ฉันไปก่อนนะ พวกเธอก็ค่อยๆ จับชู้ไปเถอะ” เพื่อนของเฉียวอี้เตรียมที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว “แล้วก็อย่าขายเพื่อนฉันล่ะ ไม่อย่างนั้นพวกเราคงอยู่ที่เมืองฮวาต่อไปไม่ได้แน่”

“วางใจเถอะ เธอมีน้ำใจขนาดนี้ จะทำอย่างนั้นได้อย่างไร” เฉียวอี้ตบลงบนหน้าอกเสียงดัง

ความจริงแล้วพอเดินมาถึงหน้าประตูห้องของสีชิงชวนฉันก็รู้สึกไม่สบายใจมาก ก็เลยเดินชักช้าอืดอาดมาตลอดทาง

“เอาอย่างนี้ดีกว่าไหม สีชิงชวนคงจะต้องโกรธเธอแน่เลย อย่างนั้นเธอให้ฉันเคาะประตูก่อน จากนั้นเธอก็มาห้ามฉันเอาไว้ ยังไงเสียผลลัพธ์มันก็เหมือนกัน”

“เฉียวอี้ ฉันรู้ดีว่าเธอทำเพื่อฉัน แต่ว่า...”

“เธออย่าคิดมากเลยน่า เร็วเข้า” พอพูดจบแล้วเฉียวอี้ก็เคาะประตู ก่อนจะมีเสียงของสีชิงชวนดังลอดมาจากด้านใน

“ใคร?”

“สวัสดีค่ะ รูมเซอร์วิสค่ะ ชุดนอนที่คุณสั่งได้แล้วนะคะ”

มีเสียงเดินดังขึ้นมาจากในห้อง สีชิงชวนเปิดประตูแล้ว

ฉันรู้สึกตกใจมาก เดิมทีฉันก็ไม่ถนัดเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว จึงคิดจะหันหลังกลับ แต่ในเวลานี้เองประตูก็ได้เปิดออก สีชิงชวนยืนอยู่ด้านหน้าประตูแล้ว

ฉันกล้าพูดได้เลยว่าในชีวิตนี้ฉันไม่เคยรู้สึกอับอายขนาดนี้มาก่อน เฉียวอี้รีบคว้าตัวฉันพุ่งเข้าไปข้างในห้องของสีชิงชวน

การออกแบบของห้องชุดคือมีห้องนอนอยู่ด้านใน ส่วนตัวเฉียวอี้เริ่มเล่นบาสเกตบอลตั้งแต่ช่วงมัธยมต้น การเคลื่อนไหวของเธอจึงดูคล่องแคล่วปราดเปรียวมาก ฉันสะดุดโคมไฟที่ตั้งอยู่บนพื้นก่อนจะล้มลงไปบนโซฟา ส่วนเฉียวอี้ก็พุ่งตัวเข้าไปในห้องนอนก่อนแล้ว

โชคดีที่พื้นปูพรมนุ่มๆ เอาไว้เลยไม่ทำให้ฉันเจ็บ จึงสามารถยันโซฟาลุกยืนขึ้นมาได้ ภาพที่อยู่ตรงหน้าคือสองขาเรียวสูงที่ยืนนิ่งอยู่

ก็คือสีชิงชวนนั่งเอง เขาไม่ได้สวมเสื้อผ้าน้อยชิ้นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้ แต่สวมกางเกงขายาวและเสื้อเชิ้ต ยังนับว่าดูเหมาะสม

ศีรษะของฉันเย็นเฉียบ คิดดูแล้วสายตาของเขาในตอนนี้คงจะดูเย็นชามากแน่

ฉันยังไม่ทันจะได้เงยหน้ามองดูสีชิงชวน ก็ได้ยินเสียงของเฉียวอี้ดังขึ้นซะก่อน “เซียวซือ จะดีจะร้ายยังไงเสี่ยวเซิงก็เป็นน้องสาวของเธอ แต่เธอกลับทำอย่างนี้กับเสี่ยวเซิงเนี่ยนะ?”

เซียวซือร้องออกมาเบาๆ ในเวลานี้เองฉันกับสีชิงชวนก็รีบวิ่งเข้าไปดู เห็นแค่เพียงเซียวซือสวมแต่ชุดชั้นในนอนขดตัวอยู่บนเตียง ส่วนเฉียวอี้คว้าผ้าห่มเอาไว้ในมือ คงเป็นเพราะเมื่อกี้เธอกระชากจนผ้าห่มหลุดออกแน่นอน

สีชิงชวนรีบคว้ามือของเฉียวอี้เอาไว้และดึงผ้าห่มคลุมร่างของเซียวซือ

“สีชิงชวน คุณมันหน้าไม่อาย ทำไมคุณถึงได้...”

“เซียวเซิง เอาเพื่อไร้สมองของคุณออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้!” สีชิงชวนเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ

เขาหันหลังพูดกับฉัน ฉันเห็นแค่เพียงท้ายทอยของเขาและแผ่นหลังที่สงบนิ่ง แต่ไม่ต้องคิดก็รู้ได้เลยว่าตอนนี้สีหน้าของเขาคงดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก

เฉียวอี้ยังคิดที่จะลงมืออีก ฉันจึงรีบเข้าไปห้ามเธอได้ทันเวลา “เฉียวอี้ พวกเราไปกันเถอะ!”

“ไปทำไม แหกตาดูพี่รองของเธอสิ ตอนแรกเธอจะแต่งก็แต่งไปสิ แต่ดันมาเปลี่ยนใจก่อนแต่งงานซะได้ ตอนนี้น้องสาวของเธอแต่งงานกับเขาแล้ว เธอยังมายั่วยวนอีก พฤติกรรมของเธอนี่มันย้อนแย้งจริงๆ เลย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)