พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 345

เวลาสีชิงชวนเดินไปไหนมาไหนจะไม่ค่อยมีเสียงอยู่แล้ว ดังนั้นฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไหร่

เขากลับมาได้ไง สิ่งแรกที่ฉันคิดก็คือคุณย่าโทรไปหาเขา บอกว่าเฉียวเจี้ยนฉีอยู่ที่บ้านตระกูลสี สีชิงชวนก็เลยกลับมา

จริงๆ เขาไม่ต้องกังวลอะไรเลยด้วยซ้ำ ในบ้านตระกูลสีมีคนอยู่ตั้งเยอะแยะ ฉันคงไม่สวมเขาให้เขาต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้หรอก

แต่ว่าฉันรู้สึกกังวลนิดหน่อย ฉันกลัวว่าสีชิงชวนจะหุนหันพลันแล่นขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่สามารถจัดการได้

ฉันเกือบจะบอกให้เฉียวเจี้ยนฉีรีบหนีไปอยู่แล้ว แต่เขากลับก้าวไปข้างหน้าและยื่นมือไปให้สีชิงชวน “สวัสดีครับ”

สีหน้าสีชิงชวนราบเรียบ แม้แต่คิ้วก็ไม่ขยับเลยสักนิด เหมือนกับมองไม่เห็นว่าเฉียวเจี้ยนฉียื่นมือมาให้เขาอย่างนั้นแหละ สายตาเขามองผ่านเฉียวเจี้ยนฉีมาและถามฉัน “เขามาอยู่นี่ได้ไง?”

“บังเอิญเจอกันที่เฉียวกรุ๊ปน่ะ ก็เลยกลับมากินข้าวด้วยกัน”

“ตอนนี้กินเสร็จแล้วใช่ไหม?” สีชิงชวนเดินเข้ามาโอบไหล่ฉันไว้ “งั้นก็ให้พี่สี่ส่งแขกเถอะ!”

จากนั้นเขาก็พาฉันเดินมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์

“ทิ้งแขกไว้แบบนี้ มันจะดู…”

“แขกที่ไม่ได้รับเชิญ ไม่ถือว่าเป็นแขก” สีชิงชวนไม่หันกลับไปมองเลยสักนิด

ฉันหันกลับไปมองเฉียวเจี้ยนฉีแวบหนึ่งด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำได้เพียงยื่นมือออกโบกให้เขาเท่านั้น

เฉียวเจี้ยนฉีที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ยิ้มและโบกมือให้ฉันเช่นกัน

“สีชิงชวน ยังไงเฉียวเจี้ยนฉีก็เป็นพี่ชายของเฉียวอี้นะ”

“ก็แค่พี่ชายต่างแม่ อีกอย่างพวกเขาสองคนไม่ลงรอยกันด้วยซ้ำ”

เมื่อพูดถึงเฉียวอี้ ฉันก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาทันที เธอบอกว่าเสร็จธุระแล้วจะโทรหาฉัน ดูเวลาตอนนี้ก็น่าจะทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้ว น่าจะมีเวลาว่างได้แล้วนะ

พี่สี่ไปส่งเฉียวเจี้ยนฉีแล้ว ฉันล้วงโทรศัพท์ออกมาดูไม่หยุด

“เป็นไง? คุณกำลังรอสายสำคัญคนไหนอยู่เหรอ?”

“จากเฉียวอี้” สติฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“สายจากเฉียวอี้สำคัญกับคุณขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”

ต้องอธิบายด้วยเหรอ? เหมือนจะไม่ต้องมั้ง!

ในเมื่อกลับมาแล้ว งั้นฉันก็ขึ้นไปนอนชั้นบน ฉินกวนโทรเข้ามาหาฉันและบอกว่าพอจะสืบได้เรื่องนิดหน่อยแล้ว

ฉันรีบหยิบโทรศัพท์ไปฟังที่หน้าต่างทันที ฉินกวนบอกว่าชายอ้วนๆ คนนั้นเป็นหัวหน้าแผนกของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งของเซียวซื่อกรุ๊ป ปกติจะเป็นคนที่ชอบทำตัวประจบสอพลอคนอื่นมาก

เขาไปเอาคีย์การ์ดที่แผนกต้อนรับในเวลาหกโมงเย็น ในกล้องวงจรปิดเห็นว่าเซียวซือไม่ได้พูดคุยกับเขาตรงๆ การคุยผ่านโทรศัพท์น่าจะเป็นเรื่องจริง

จากนั้นฉินกวนจึงตัดสินคดี “จริงๆ คุณไม่ต้องสืบให้มันชัดเจนกว่านี้หรอก เรื่องมันชัดเจนแล้ว ต่อให้เซียวซือจะไม่ใช่ตัวการ งั้นตัวการก็ต้องเป็นแม่เลี้ยงคุณแน่นอน เซียวซือก็ทำหน้าที่เป็นคนกลาง เรื่องทั้งหมดนี้เซียวซือก็มีส่วนร่วมด้วย”

ความจริงฉันน่าจะเดาได้เหตุการณ์ตอนนี้ได้นานแล้ว ถ้าเซียวซือไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริงๆ เธอต้องดึงตัวเองออกมาจนสะอาดหมดจดแน่ๆ

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ผู้หญิงฉลาดๆ แบบเธอไม่มีทางนิ่งเงียบแน่นอน หัวใจฉันเหมือนจะจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้งในทันที และมีความรู้สึกบางอย่างที่พูดไม่ออก

เฉียวอี้บอกฉันอยู่ตลอดว่าเซียวซือเป็นผู้หญิงแอ๊บใสและร้ายลึกมากๆ คนหนึ่ง แต่ฉันไม่เคยเชื่อเธอ

เพราะหลายปีมานี้ไม่ว่าเซียวหลิงหลิงจะทำให้ฉันรู้สึกลำบากใจยังไง เซียวซือก็ไม่เคยรังแกฉันเลยสักครั้ง

แต่พอถึงตอนนี้ เมื่อกลับมาคิดๆ ดูแล้ว เซียวซือก็ไม่เคยช่วยฉันเลยสักครั้งเหมือนกัน

ครั้งก่อนตอนที่ฉันอยู่ในงานเลี้ยง เซียวหลิงหลิงตัดชุดตรงเอวด้านหลังฉันขาดด้วยกรรไกรผ่าตัด ตอนนั้นเซียวซือเองก็อยู่ข้างๆ เธอทำเพียงแค่มองฉันแวบเดียว จากนั้นก็เดินออกไป ฉันไม่เจอเธออีกทั้งคืน ฉันต้องกำชุดที่เอวด้านหลังอยู่อย่างนั้นจนจบงานวันเกิด

ผ่านไปนานฉันถึงรู้สึกได้ว่าความรู้สึกนั้นของฉันน่าจะเรียกว่าความผิดหวัง ในใจฉันคิดว่าเซียวซือเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่สุดท้ายกลับเป็นฉันที่มองผิดไป

ดังนั้นความรู้สึกหดหู่แบบนี้น่าจะเรียกว่าผิดหวัง

“เซียวเซิง” ฉินกวนเรียกชื่อฉันเบาๆ ผ่านมาตามสาย

“ฮะ…” ฉันตอบ “ฉันฟังอยู่”

“คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)