ตอน ตอนที่ 36 เขาถูกตีจนเพี้ยนไปแล้วเหรอ? จาก พ่ายรักเมียในนาม(จบ) – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 36 เขาถูกตีจนเพี้ยนไปแล้วเหรอ? คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายประวัติศาสตร์ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) ที่เขียนโดย Chompoo Prateung เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เฉียวอี้ไปขับรถมา ฉันรีบโอบรอบศีรษะของสีชิงชวนเอาไว้ สีหน้าของเขาดูสีขาวมาก ซีดขาวเหมือนกับกระดาษ
ฉันรู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน ถ้าหากสีชิงชวนถูกเฉียวอี้ทุบตายขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร?
ฉันยอมรับผิดแทนได้ เพราะถึงยังไงพ่อของฉันก็จากไปแล้ว ตัวฉันเองก็ไม่มีญาติเลยสักคน ไม่มีอะไรให้ต้องเป็นห่วงเลยสักนิด ฉันก็แค่บอกว่าฉันเป็นคนทุบเอง แล้วอิฐก้อนนั้นล่ะ?
ฉันหันกลับไปดู ก็พบว่าอิฐก้อนนั้นวางอยู่บนพื้นไม่ไกลนัก
เฉียวอี้ขับรถเข้ามา พวกเราช่วยกันออกแรงยกร่างของสีชิงชวนขึ้นรถ ตอนนี้ใจของฉันคิดว่าการกระทำในตอนนี้ก็เหมือนกับการฆ่าคนแล้วอำพรางศพอย่างไรอย่างนั้น
สีชิงชวนทั้งตัวสูงและตัวใหญ่ พวกเราต้องใช้เรี่ยวแรงมหาศาลถึงจะพาเขาขึ้นรถได้ ฉันลงจากรถอีกครั้งและไปหยิบอิฐขึ้นมา
“ออกรถเลย รีบไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด”
ฉันจำได้ว่าโรงพยาบาลซานอีอยู่ที่นี่เพียงแค่เลี้ยวซ้ายไปหนึ่งถนน
เฉียวอี้เร่งเครื่องยนต์ สีชิงชวนนอนพิงอยู่บนต้นขาของฉัน เขานอนหลับตาแน่นสนิท ในตอนนี้เองฉันถึงได้เพิ่งเห็นว่าเขาขนตายาวมากเหมือนกับผู้หญิงเลย
ฉันรู้สึกตกใจมากที่ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นขาวได้ถึงขนาดนี้ คงไม่ได้ตายแล้วหรอกนะ
ฉันเอื้อมมือออกไปสัมผัสที่ลมหายใจของเขา มันดูอ่อนแอมากและไม่มีแรงเลย
“เฉียวอี้ ขับไวกว่านี้หน่อย” ฉันเอ่ยเสียงสั่น
แผ่นหลังของเฉียวอี้ดูแข็งทื่อ เธอเองก็ตกใจมากเหมือนกัน
เธอขับรถไวเหมือนจรวดและเพราะว่าคืนนี้มีรถน้อยมาก ไม่นานก็มาถึงที่โรงพยาบาล
ฉันรีบลงจากรถอย่างรวดเร็วแล้วร้องเรียกหมอ จากนั้นฉันของห้องฉุกเฉินก็นำรถเข็นมาพาสีชิงชวนไป
เขาถูกนำเข้าห้องฉุกเฉิน ฉันถึงได้รู้ว่าตัวฉันเปียกชื้นไปหมดแล้ว ถึงแม้ว่าฉันจะสวมแค่ชุดชีฟองอยู่ ส่วนเสื้อโค้ตตกอยู่ที่ลานจอดรถไปตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
“เสี่ยวเซิง” ในเวลานี้เฉียวอี้ก็ยังคงคิดที่จะปลอบโยนฉัน “เรื่องนี้ฉันเป็นคนทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอเป็นผู้เสียหายนะ”
“เธอพูดจาเหลวไหลให้น้อยหน่อย” ฉันกระซิบเบาๆ “เธอกลับไปก่อน”
“ฉันจะกลับไปได้ยังไง ถ้าหากสีชิงชวนเป็นอะไรขึ้นมา คนตระกูลสีไม่ยอมปล่อยเธอไปแน่”
“จะดีจะร้ายยังไงฉันก็เป็นภรรยาของเขา อย่างมากก็เป็นเรื่องในครอบครัว”
“ฆ่าคนตายเป็นคดีอาญานะ”
“โดยรวมแล้ว สถานะของฉันเป็นประโยชน์กว่าเธอ”
ในขณะที่พวกเรากำลังร้อนใจกันแทบตาย ในเวลานี้ก็มีคนพูดกับพวกเราว่า
“ผู้ป่วยที่ส่งมาคือคุณสีใช่ไหมครับ?”
ก็คือหมอจากห้องผ่าตัดนี่เอง ฉันตื่นเต้นจนต้องกัดฟันเอาไว้
“ใช่ค่ะ เขาคือสีชิงชวน”
“คุณคือคุณนายสี?”
“ค่ะ”
“อ้อ อย่างนั้นช่วยมาเซ็นชื่อตรงนี้หน่อยครับ”
“เซ็นชื่ออะไรคะ?” มือและเท้าของฉันสั่นเล็กน้อย
“ที่ท้ายทอยของคุณสีมีบาดแผลประมาณสามเซนติเมตรและตอนนี้เย็บเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ เมื่อครู่นี้เป็นเวลาเร่งด่วนเลยต้องทำการรักษาก่อน ตอนนี้คุณช่วยมาลงนามในใบผ่าตัดทางนี้หน่อยนะครับ”
“สีชิงชวนเป็นอย่างไรบ้างคะ?” ถ้าเย็บแผลเสร็จแล้วก็คงจะมีชีวิตอยู่สินะ เพราะมันไม่มีเหตุผลอะไรเลยจะไปเย็บแผลให้คนที่ตายไปแล้ว
“บาดแผลไม่ใหญ่มากครับ กระดูกไม่หัก เพียงแต่เส้นเลือดใหญ่แตกก็เลยมีเลือดไหลเยอะ ตอนนี้คุณสีฟื้นแล้วครับ”
“เขายังมีชีวิตอยู่ไหมคะ?” ฉันตัวสั่นเล็กน้อย
“แน่นอนครับ คุณสีปลอดภัยดี เพียงแค่มีเลือดออกมาเท่านั้น อีกสักพักพวกเราจะจัดห้องให้คุณสีพักที่โรงพยาบาล”
ฉันโล่งอกขึ้นมาแล้วและได้ส่งสายตาให้กับเฉียวอี้ “เธอไปก่อน”
ฉันรอแล้วรออีก เปลือกตาของเขาเหมือนถูกไม้ขีดไฟค้ำเอาไว้ เบิกตาได้กว้างและโตมาก
เฉียวอี้โทรศัพท์หาฉัน ถามฉันว่าสีชิงชวนเป็นอย่างไรบ้าง สร้างปัญหาให้ฉันรึเปล่า
ฉันให้เธอดูสภาพของสีชิงชวนในตอนนี้ เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย “ทำไมตายตาไม่หลับล่ะ หรือว่าถูกฉันตีจนเป็นบ้าไปแล้ว?”
“หมอบอกว่าไม่ร้ายแรง อิฐก้อนนั้นก็ไม่ได้ใหญ่มาก อีกอย่างแรงเธอก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้นด้วย”
“ใครว่าล่ะ ก่อนหน้านี้ฉันเคยขว้างจักรมาก่อน อย่าได้สงสัยในความสามารถทางด้านกีฬาของฉัน”
“พอเถอะ” ตอนนี้ฉันไม่มีเวลามาฟังเธอพูดจาโอ้อวดความสามารถแล้ว “ฉันวางสายก่อนนะ จำเอาไว้ว่าถ้าใครมาถามเธอก็อย่าพูดอะไร”
ฉันวางสายโทรศัพท์ของเฉียวอี้ เพิ่งจะวางไปเท่านั้น จู่ๆ สีชิงชวนก็พูดได้แล้ว ทำให้ฉันตกใจยกใหญ่จนเกือบจะตกเก้าอี้ไปแล้ว
“ดูท่าคุณคิดจะรับผิดชอบยังไง?”
สีชิงชวนพูดได้แล้ว!
ฉันรีบเข้าไปดูอาการเขา ในที่สุดดวงตาของเขาก็ขยับแล้ว ทั้งยังมองมาที่ฉันด้วย
สวรรค์ ในที่สุดฉันก็โล่งใจได้สักที
พอได้ยินเขาพูดจาฉะฉานชัดเจนอย่างนี้ ดูแล้วคงไม่ได้ถูกทุบจนเพี้ยนไปสินะ
“สีชิงชวน” ฉันลุกขึ้นมาและมองดูเขา “คุณฟื้นแล้ว?”
“ฟื้นตั้งนานแล้ว ก่อนที่คุณจะกดกระดิ่งเรียกหาหมอหลายครั้งหลายหน”
“เฮ้อ” ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ทว่าเขากลับยิ้มเย็นชาเหมือนปกติ “ถ้าฉันเป็นเธอคงจะไม่มีความสุขขนาดนี้หรอก” มือที่อยู่ข้างใต้ผ้าห่มของเขาเริ่มมีการเคลื่อนไหว จากนั้นเขาก็ควักเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากผ้าห่ม
ในโทรศัพท์มือถือนั้นมีเสียงของเฉียวอี้อยู่ “ดูแล้ว เมื่อกี้ฉันคงจะไม่ได้ทุบสีชิงชวนจนเพี้ยนไปสินะ?”
“คุณยังคิดจะรับผิดแทนเธออยู่รึเปล่า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...