โรงพยาบาลใหม่ที่แม่เลี้ยงย้ายมาเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่เพื่อนคนหนึ่งของเธอเปิด อุปกรณ์การรักษาล้วนมีความทันสมัย ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญหลายคน ที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าผลการตรวจจะออกมาเป็นยังไง เธอก็จะเชื่อถือมัน
แม่เลี้ยงเข้ามาพักได้ไม่นาน คุณหมอก็ให้เธอไปตรวจสแกนสมองส่วนลึก ฉันและเซียวหลิงหลิงรออยู่ข้างนอก
ฉันรู้ว่าขอแค่ฉันและเซียวหลิงหลิงได้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ เธอก็จะไม่มีทางปล่อยฉันไปแน่นอน
เธอเอาแต่พูดฉอดๆ อยู่ข้างหูและใช้ปลายนิ้วที่เธอไว้เล็บแหลมๆ ของเธอจิ้มที่หน้าฉันอยู่ตลอดเวลา ขาดแค่จิกไม่โดนหน้าฉันเท่านั้น
ฉันบอกกับเซียวหลิงหลิง “ที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะ คุณน้ากำลังตรวจอยู่ข้างใน พี่เบาเสียงหน่อยได้ไหม?”
“เซียวเซิง ดูไม่ออกเลยนะว่าเธอจะหน้าเนื้อใจเสือขนาดนี้”
ฉันขี้เกียจจะเสวนากับเธอจึงเบนหน้าไปอีกทาง แต่ไม่คิดว่าเธอจะหมุนตัวมาอยู่หน้าฉันและด่าฉันต่อ “เซียวเซิง ดูไม่ออกเลยนะเนี่ยว่าเธอเองก็เก่งใช่ย่อยที่เอาเซียวซือกับฉันเข้าสถานกักกันได้ ดูเหมือนเธอจะไปได้ดีในบ้านตระกูลสีนะ แม้แต่คุณหญิงท่านยังมาช่วยหนุนหลังให้เธอเลย เธอไปออเซาะฉอเลาะใส่พวกเขายังไงเหรอ? ดูท่าคงใช้วิธีเดียวกับที่ทำกับพ่อฉันล่ะสิ เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยสักนิด เขายังดูและเธอดีขนาดนี้อีก เธอบอกมาซิว่ายัยเด็กไม่รู้จักเจียมตัวอย่างเธอใช้วิธีอะไรมายั่วให้พ่อฉันหัวปักหัวปำได้ขนาดนั้นเหรอ?”
เซียวหลิงหลิงไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ เธอยิ่งพูดยิ่งฟังดูไม่เข้าท่า เธอด่าจนน้ำลายกระเด็นมาโดนหน้าฉันหมดแล้ว
“เซียวหลิงหลิง พี่รู้ไหมว่าพี่พูดอะไรอยู่?”
“ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ ชายหญิงมันก็มีแค่เรื่องพวกนั้นนั่นแหละ อายุต่างกันแล้วไง? พ่อฉันก็ใช่ย่อยนะ เธอหน้าเหมือนแม่เธอ พอแม่เธอตาย เขามั่วแม่ไปแล้วก็ไปมั่วลูกอีก สุดยอดเลยจริงๆ!”
เซียวหลิงหลิงบ้าไปแล้วจริงๆ ที่กล้าพูดคำพูดพวกนี้ออกมา
ในตอนที่คำพูดพวกนี้ถูกพ่นออกมาจากปากเธอ ฉันก็ฟิวส์ขาดทันที
ความใจเย็นก่อนหน้านี้ของฉันก็ปลิวหายไปหมดแล้ว ฉันยกมือขึ้นตบหน้าเซียวหลิงหลิงอย่างรุนแรงโดยไม่ทันได้คิดอะไร
แถมยังตบซ้ายขวาสองทีติดๆ กันซะด้วย ทำให้ทั้งเซียวหลิงหลิงและฉันชะงักไปในทันที
ฉันไม่เคยตบหน้าใครมาก่อน และตอนที่ฉันอยู่กับเซียวหลิงหลิง ฉันเป็นฝ่ายโดนเธอตบมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันตบเธอ
เซียวหลิงหลิงกุมใบหน้าของเธอไว้และเบิกตามองฉันอย่างงุนงง
ฉันเห็นแก้มซ้ายที่เธอไม่ได้ยกมือขึ้นมากุมไว้บวมแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้ฉันออกแรงไปเยอะเลย แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่รู้เลยว่าฉันใช้แรงไปเยอะขนาดนั้น
ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าเธอจะตั้งสติได้ เธอชี้มาที่หน้าฉันด้วยนิ้วที่สั่นเทา “เซียวเซิง แกกล้าตบฉันเหรอ!”
เซียวหลิงหลิงพุ่งเข้ามาหาฉันเพื่อหวังจะแหกอกฉัน เธอพุ่งเข้ามาหาฉันเหมือนกับสิงโตตัวเมียที่กำลังโกรธตัวหนึ่ง
ฉันไม่ได้หลบ จากนั้นเธอก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อมาจิกหน้าฉัน
เล็บของเธอทั้งยาวทั้งแหลม แถมยังทาเล็บอีก ถ้าเธอจิกหน้าฉันเป็นแผลขึ้นมา จะต้องอักเสบแน่ๆ
เซียวหลิงหลิงยกเล็บแหลมๆ ของเธอขึ้นมาและกำลังจะจิกหน้าฉันได้สำเร็จ
ในตอนนั้นเองก็มีมือคู่หนึ่งคว้ามือของเซียวหลิงหลิงไว้ และยังเอามือของเธอไปไขว้ข้างหลังอีกด้วย
เซียวหลิงหลิงกรีดร้องออกมา ฉันเองก็ยืนหอบหายใจ เพิ่งเห็นชัดๆ ในตอนนั้นเองว่าเจ้าของมือคู่นั้นก็คือสีชิงชวน
เขาผลักเซียวหลิงหลิงออกไป จากนั้นก็ปกป้องฉันให้ฉันอยู่ข้างหลังและหันมาถามฉัน “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
ยังดีที่ยังไม่ทันได้เกิดเรื่องอะไร เขาก็มาถึงก่อนแล้ว
“คุณมาได้ไง?” ฉันถามสีชิงชวน
“ทำไมคุณไม่บอกผมว่ามาทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้ฮวาหยุน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...