บรรดานักข่าวพากันส่องลำกล้องมาที่ฉัน เนื่องจากเป็นเวลากลางคืน แสงแฟลชของพวกเขาจึงสว่างมากเป็นพิเศษ พวกเขาเอาแต่ถ่ายรูปฉันไม่หยุด ราวกับต้องการสาดแฟลชทำให้ฉันตาบอด
สีชิงชวนที่อยู่ข้างๆ ฉันถอดเสื้อคลุมของเขาออกมาคลุมหัวของฉันเอาไว้ และดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็ว
ถึงมันจะรู้ปลอดภัยมากและรู้สึกอบอุ่นมาก แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกแปลกๆ นะ
ถ้าไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ถูกพ่อค้ามนุษย์ล่อลวงไปขาย ถูกช่วยเหลือออกมาอย่างยากลำบาก แล้วรู้สึกอับอายที่จะเจอผู้คน จนญาติที่อยู่ข้างๆ ต้องใช้เสื้อผ้ามาช่วยคลุมหัวให้เธอ
งั้นก็ต้องเป็นนักโทษที่ทำผิดมาแล้วถูกตำรวจจับได้ ถึงจะเอาถุงกระดาษมาครอบหัวของเขาเอาไว้เหมือนกัน
ในช่วงเวลาโกลาหลวุ่นวายแบบนี้ฉันก็ยังจะมาคิดเพ้อเจ้อได้อีกนะ ฉันละนับถือตัวเองเลยจริงๆ
ในขณะที่ศีรษะของฉันอยู่ในอ้อมอกของสีชิงชวน ฉันก็ได้ยินเฉียวอี้กำลังตะโกนใส่พวกเขาว่า “พวกคุณถ่ายอะไรกัน? พวกคุณมาจากสำนักข่าวไหน? ฉันขอบอกพวกคุณไว้เลยนะว่าอย่าได้เขียนอะไรมั่วซั่วออกไปเชียว”
ในเมื่อมีปาปารัซซีมากมายขนาดนี้มาแอบถ่ายฉันอยู่ที่นี่ พวกเขาต้องเขียนอะไรมั่วซั่วออกไปอย่างแน่นอน
และพวกเราเองก็ควบคุมเรื่องพวกนี้ไม่ได้เช่นกัน
ฉันขอแค่เซียวซือไม่เป็นอะไรมากก็พอ ถ้าเธอปลอดภัยดีฉันก็จะขอบคุณมาก
ฉันถูกเฉียวอี้กับสีชิงชวนจับยัดเข้ามาในรถ จากนั้นพวกเขาก็ประกบฉันซ้ายขวา เมื่อดึงผ้าม่านในรถขึ้นมาปิดแล้ว สีชิงชวนจึงปล่อยศีรษะของฉันออกมาจากอ้อมอกของเขา
เขาทำให้ผมของฉันยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว ฉันนั่งตกตะลึงมือไม้อ่อนด้วยสภาพหัวกระเซอะกระเซิง
เฉียวอี้ยื่นขวดน้ำเย็นมาให้ฉันทันที “ดื่มน้ำหน่อยจะได้ใจเย็นลง เซียวเซิง เธอไม่ต้องกลัวนะ เธอยังมีฉันอยู่! ”
ใช่แล้ว ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นฉันก็มีเฉียวอี้ ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรเธอก็ช่วยฉันแก้ปัญหาตลอด
สีชิงชวนเคยคิดจะให้เฉียวอี้แสร้งทำเป็นไม่สนใจฉัน จะได้ทำให้ฉันเข้มแข็งขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้มีเรื่องเกิดขึ้นกับฉันแล้ว เขาก็จะคอยเป็นโล่กำบังให้ฉันด้วยใช่ไหม?
ถ้าวันหนึ่งฉันเสียพวกเขาไป ฉันก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองจะเป็นยังไง จะกลายเป็นคนที่อ่อนแอยิ่งกว่าเดิม และกลายเป็นเต่าหัวหดโดยสมบูรณ์ หรือกลายเป็นคนที่เข้มแข็งขึ้นมาได้กัน?
รถพยาบาลที่มีเซียวซืออยู่ในนั้นนำอยู่ด้านหน้าของพวกเรา เมื่อมีรถพยาบาลขับเปิดทางให้ แม้แต่ไฟแดงก็ไม่จำเป็นต้องรอ และมาถึงโรงพยาบาลได้โดยไม่มีอะไรติดขัดตลอดทั้งทาง
ฉันยืนอยู่ที่ประตูรถของพวกเรา มองดูเซียวซือถูกเจ้าหน้าที่พยาบาลยกเธอลงจากรถแล้วยกเธอเข้าประตูโรงพยาบาลไป
ในช่วงหลายวันมานี้เซียวซือเข้าโรงพยาบาลบ่อยมากๆ จริงๆ ในช่วงเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่วันก็เข้าๆ ออกๆ หลายครั้งแล้ว และร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งด้วย
เธอถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉินเพื่อทำการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ส่วนพวกเราก็รออยู่ด้านนอก
เฉียวอี้บอกให้ฉันนั่งรอ แต่ฉันจะให้นั่งรอทั้งๆ ที่ร้อนใจอยู่อย่างนี้ได้ยังไงกัน?
ฉันเดินไปเดินมาอยู่หน้าประตูห้องฉุกเฉิน แต่แทนที่ฉันจะทำให้คุณหมอเดินออกมาจากด้านใน กลับทำให้ตำรวจเดินออกมาแทน
ตำรวจหลายนายเดินเข้ามาหาฉัน และถามฉันตรงๆ “คุณคือเซียวเซิงใช่ไหม! ”
ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาอธิบาย ฉันก็รู้แล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เป็นไปได้อย่างมากว่าเซียวหลิงหลิงเป็นคนแจ้งตำรวจ
ฉันพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยความตื่นตระหนก “ใช่ค่ะ ฉันเองค่ะ”
สีชิงชวนกับเฉียวอี้ดีดตัวขึ้นมาจากเก้าอี้มายืนอยู่ข้างๆ ฉันทันที พวกเขายืนชิดฉันมากราวกับเป็นผู้พิทักษ์มือซ้ายและมือขวาของฉัน
สีชิงชวนเอ่ยถามออกไปแทนฉัน “มีเรื่องอะไรเหรอครับ? ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...