พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 39

สรุปบท ตอนที่ 39 ราชสีห์อ้าปากกว้าง: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)

อ่านสรุป ตอนที่ 39 ราชสีห์อ้าปากกว้าง จาก พ่ายรักเมียในนาม(จบ) โดย Chompoo Prateung

บทที่ ตอนที่ 39 ราชสีห์อ้าปากกว้าง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายประวัติศาสตร์ พ่ายรักเมียในนาม(จบ) ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Chompoo Prateung อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ช่างตัดผมอยู่ในห้องนี้นานมาก คาดว่าคงจะตัดผมของสีชิงชวนเป็นดอกไม้ได้แล้วละมั้ง

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่าช่างตัดผมจึงจะออกไป ฉันรู้สึกอยากเห็นทรงผมใหม่ของสีชิงชวน จึงแอบมองเข้าไป

เขายืนส่องกระจกหน้าอ่างน้ำมืออย่างหลงตัวเอง

ออ ที่แท้เขาก็ตัดทรงสกินเฮดนี่เอง เขาตัดผมด้านหน้าออก ท้ายทอยจึงไม่เป็นรูอีกต่อไป มีเพียงไหมเย็บแผลสีดำหนึ่งเส้น ดูผ่านๆ จะเหมือนรอยสัก ไม่ส่งผลต่อความหล่อของเขาสักนิด

มีคนบอกว่าหากต้องการรู้ว่าผู้ชายคนนี้หล่อจริงหรือเปล่า ก็ให้ดูตอนตัดผมสกินเฮด ถ้าตัดแล้วยังหล่อแสดงว่าหล่อจริง

ความจริงพิสูจน์ให้เห็นว่าคนหล่อเข้ากับทุกทรงผม ยกเว้นทรงผมยาว

เขาจัดทรงสกินเฮดแล้วก็เผยมุมหน้าผากออกมา แลดูเหมือนพี่ทหารคนหล่อนิดๆ ฮอร์โมนเพศชายปะทุขึ้นแบบไม่ยั้ง

ทันใดนั้นสีชิงชวนปรายตามองฉันในกระจก เขารู้ว่าฉันแอบมองเขาแล้ว

ฉันรีบดึงคอตัวเองกลับมา ทว่าเขากลับดีดนิ้วให้ฉัน หมายความว่าให้ฉันไปหา

ฉันจึงแสร้งทำเป็นใจกล้าเดินเข้าไป “ทรงนี้ดูดีมากเลย”

ประจบแล้วจะมีชัยไปกว่าครึ่ง

เขาทำตาขวางใส่ฉันด้วยความเย็นชาและดูแคลน “เซียวเซิง ไม่ใช่ว่าคุณกลายเป็นห่านแล้วเรื่องนี้ก็จะผ่านไป”

ฉันรู้อยู่แล้วว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้น ฉันปั้นรอยยิ้มส่งให้เขา “เอาที่คุณว่าเลย”

ต่อให้ต้องแก้ผ้าตอนนี้ ฉันก็จะทำตาม ทว่าเขาคงไม่มีอารมณ์กับฉันตอนนี้หรอก

ดังคาด ในที่สุดเขาก็ส่องกระจกเสร็จแล้วหันมามองฉัน “ผมจะเอาหุ้นส่วนเซียวซื่อกรุ๊ปร้อยละสิบ”

ฉันอึ้งค้าง สมองหมุนไม่ทันเขา “อะไรน่ะ?”

“ผมจะพูดอีกรอบนะ ผมจะเอาหุ้นส่วนร้อยละสิบในเซียวซื่อกรุ๊ป”

ฉันกะพริบตารัวๆ เขานี่เป็นนักขูดเลือดขูดเนื้อตัวยงเลย ยังคิดจะเอาหุ้นส่วนของบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปอีก

“ไม่ได้” ฉันปฏิเสธด้วยสัญชาตญาณ “ฉันไม่มีอำนาจนั้น”

“คุณมี คุณมีหุ้นร้อยละสามสิบในมือ คุณมอบให้ผมได้ และอีกอย่างพวกเราก็เป็นสามีภรรยากันด้วย”

“ไม่ได้ นั่นมันมรดกที่คุณพ่อมอบให้ฉัน ต่อให้จะรวบรวมหุ้นในเซียวซื่อกรุ๊ป ฉันก็ไม่ให้คุณ”

“งั้นเฉียวอี้ก็ต้องติดคุกแล้วละ ดูเหมือนเฉียวอี้จะไม่มีค่าเท่าหุ้นส่วนร้อยละสิบของเซียวซื่อกรุ๊ปนะ” สีชิงชวนยิ้มจนฉันอยากกระทืบเขา ทว่าฉันสู้เขาไม่ไหว

“นอกจากอันนี้ อย่างอื่นก็ได้หมด ฉันมีบ้านที่คุณพ่อให้อยู่หลังหนึ่ง คุณเอาบ้านไปสิ”

“คุณคิดว่าผมอยากได้บ้านงั้นเหรอ?” สีชิงชวนถามฉันด้วยเสียงหัวเราะในอารมณ์โกรธขึ้ง

จะว่าไปก็ถูก เขารวยล้นฟ้า มีบ้านไม่รู้ตั้งกี่หลัง และบริษัทสีซื่อกรุ๊ปก็ทำด้านอสังหาริมทรัพย์ด้วย สีชิงชวนมีความเคยชินอยู่อย่างหนึ่ง ทุกครั้งที่เขาสร้างบ้านโครงการใหม่ เขาจะเก็บไว้หลังอย่าง ตอนเขาอารมณ์ดีจะมอบให้กับแฟนสาวที่ตกเป็นข่าวกับเขาในช่วงนั้นๆ หรือมอบให้กับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ดังนั้นเขามีบ้านนับไม่ถ้วนเลย ทว่าฉันก็ให้เขาได้แค่นี้นี่นา

“ฉันยังมีเงินสดกับตราสารหนี้”

ตลอดช่วงบ่ายฉันไม่ได้ไตร่ตรองว่าจะโอนหุ้นให้สีชิงชวนดีไหม แต่ฉันวิ่งไปหายามรักษาความปลอดภัยตรงลานจอดรถ ฉันแต่งเหตุผลมากมายขึ้นหลอกอีกฝ่าย ประเด็นสำคัญคือฉันยัดเงินก้อนโตให้หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัย จากนั้นเขาก็ให้ฉันดูภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงนั้น

สีชิงชวนรู้จักเลือกสถานที่เหลือเกิน กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเมื่อคืนได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ตอนที่สีชิงชวนจับฉันไปขืนใจบนผนัง ต่อมาเฉียวอี้ก็วิ่งพรวดเข้ามาแล้วใช้ก้อนอิฐทุบหัวสีชิงชวน ซึ่งนับว่าเก็บภาพได้ทุกฉากทุกตอนจริงๆ

สันหลังฉันมีเหงื่อเย็นไหลพราก หากเอาหลักฐานนี้ไปให้ตำรวจ เฉียวอี้ต้องติดคุกเห็นๆ บวกกับสีชิงชวนมีอำนาจ แค่ใช้เงินหน่อยก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แม้แต่คุณพ่อเฉียวก็ไม่มีปัญญาช่วยเฉียวอี้ออกมาได้

ไม่ว่าอย่างไรฉันก็เป็นต้นเหตุของเรื่อง ฉันลบวิดีโอในช่วงนั้นทิ้ง หัวหน้ายามรักษาความปลอดภัยทำท่าไปเดินสำรวจด้านนอก แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น ฉันลบทิ้งสำเร็จแล้วก็เดินออกไป

ชั่วชีวิตนี้ฉันไม่เคยทำอะไรลับๆ ล่อๆ แบบนี้มาก่อน นี่เป็นครั้งแรก หากไม่ใช่เพราะเฉียวอี้ ฉันไม่มีวันทำตัวเหมือนผู้ร้ายแบบนี้หรอก

ดังนั้นความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่ฉันจนทำให้รู้สึกไม่ดีซะเลย ทว่าก็ช่วยไม่ได้ ฉันมอบหุ้นส่วนของคุณพ่อให้สีชิงชวนไม่ได้

ตอนนี้ไม่มีเทปบันทึกภาพแล้ว ส่วนอาวุธที่ใช้ทำร้ายเขานั้น เมื่อคืนฉันเอาอิฐไปล้างในห้องน้ำจนสะอาดสะอ้าน ไม่มีทั้งคราบเลือดและรอยนิ้วมือ จากนั้นก็โยนใส่กองอิฐในสวนดอกไม้ของโรงพยาบาล ซึ่งขณะที่กำลังก่อสร้าอาคารหลังใหม่อยู่ คาดว่าใช้สุนัขตำรวจมาดมกลิ่นก็คงหาไม่เจอ

ตอนนี้ฉันทำลายหลักฐานสำคัญทิ้งแล้ว เฉียวอี้น่าจะปลอดภัยขึ้นแล้วใช่ไหม?

ฉันควรเจรจากับสีชิงชวนก่อนดีไหม?

ฉันเดินใช้ความคิดเข้าโรงพยาบาล เพราะฉันไม่กล้ากลับบ้านตระกูลสี ไม่รู้ว่าเขาบอกเหตุผลที่ไม่กลับบ้านเมื่อคืนยังไง ดังนั้นฉันต้องกลับไปที่ห้องรักษาตัวของเขาก่อน

ฉันกำลังจะผลักประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงป๋ออวี่เล็ดลอดออกมา เขากำลังยืนรายงานต่อสีชิงชวนอยู่

“คุณสี ที่จริงคุณเซียวก็ฉลาดมากเลยนะครับ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)