สำหรับเรื่องของตัวเองฉันอาจจะยังโอเคอยู่นิดหน่อย แต่ฉันมีสัญชาตญาณในการปกป้องลูกตัวเองแน่นอน
เป็นไปได้มากว่าฉินกวนจะมีแฟน เพราะผู้หญิงอย่างเจินเสียนจะสติเลอะเลือนจนยอมมาคั่วกับเขาเล่นๆ ได้ยังไง?
ยัยบื้อเฉียวอี้นั่นยังมัวแต่ฝันกลางวันอยู่คนเดียวอีก วันนั้นฉันเห็นเธอกำลังถักผ้าพันคออยู่เลย ทำเอาฉันแทบช็อกเลยนะเนี่ย
ฉันไม่ได้ถามเธอว่าถักให้ใคร แต่ดูจากสีของมันแล้วเธอต้องถักให้ฉินกวนแน่ๆ
เฉียวอี้ถักผ้าพันคอ มันเป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายอย่างหนึ่ง ถือเป็นข่าวใหญ่พอๆ กับมีระเบิดนิวเคลียร์ ไม่ต้องพูดเลยว่าฝีมือของเธอมันดูไม่ได้ขนาดไหน? เธอแก่นเซี้ยวอย่างกับผู้ชายยังจะมาจับไม้นิตติ้งเพื่อถักสเวตเตอร์อีก มันทำให้รู้สึกตะลึงมากๆ เลย
ณ ตอนนี้ฉันรู้สึกสับสนสุดๆ ไปเลย ภายในระยะเวลาสั้นๆ แค่ไม่กี่นาทีฉันพยายามรวบรวมคำพูดในสมองอย่างสุดชีวิต
ฉันจะถามเขาให้เคลียร์ต่อหน้าเลยหรือว่าถามไปส่วนตัวดี แต่ว่าการถามคนอื่นแบบต่อหน้ามันไม่ใช่สไตล์ฉัน ฉันคิดอยู่นานกว่าจะเดินเข้าไป
เดาว่าสีหน้าที่ฉันแสดงออกมามันคงไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ แค่แป๊บเดียวคนฉลาดๆ และความรู้สึกไวอย่างเจินเสียนก็ดูออกแล้ว
แต่เธอไม่ได้พูดอะไร ทำเพียงแค่ถามฉันว่าจะทานของหวานไหม?
อันที่จริงฉันเห็นว่าของหวานของโต๊ะข้างๆ ดูท่าทางน่าอร่อยดี มันน่ากินจนน้ำลายสอ เดิมทีฉันอยากสั่งมาลองชิมดู แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากกินอะไรแล้วล่ะ
ฉันส่ายหน้าให้เจินเสียนและฝืนยิ้มออกมา
เมื่อมื้อเที่ยงจบลง เจินเสียนก็จะกลับไปที่บริษัท ฉันมีเรื่องอยากถามฉินกวน เรื่องแบบนี้ฉันปล่อยให้มันข้ามคืนไปไม่ได้เด็ดขาด
ฉันจึงถามเขาขึ้น “คุณไปส่งฉันกลับเซียวซื่อกรุ๊ปได้ไหมคะ? เมื่อกี้ฉันให้คนขับรถขับกลับไปก่อนแล้ว”
“ได้สิ” ฉินกวนตอบรับทันที ส่วนเจินเสียนก็มีไหวพริบมากและบอกว่าเธอจะกลับไปที่บริษัทเอง
ฉันบอกลาเจินเสียน จากนั้นก็ขึ้นรถของฉินกวน
มีหลายอย่างที่อยากถามฉินกวนให้เคลียร์แท้ๆ แต่พอตอนนี้เราสองคนนั่งหันหน้าเข้าหากัน ฉันกลับไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดว่ายังไงดี
ฉันก็เลยลังเลไม่กล้าพูดอยู่ตลอดทาง เหมือนกับท้องผูกอย่างไรอย่างนั้น
ฉันรู้ว่าฉินกวนมองออกว่าฉันมีเรื่องอะไรอยากพูด แต่คนอย่างเขาน่ะ ถ้าฉันไม่พูดเขาก็ไม่ถามหรอก ทำฉันอึดอัดแทบบ้า
รถกำลังจะขับไปถึงเซียวซื่อกรุ๊ปแล้ว ถ้ายังไม่ถามอีกก็จะไม่มีโอกาสแล้ว แต่ฉันกับฉินกวนก็เหมือนจะไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น สนิทจนถึงขั้นที่ฉันสามารถถามเรื่องส่วนตัวเขาออกไปตรงๆ ได้
ฉันค่อนข้างเป็นคนที่มีนิสัยพิรี้พิไรนิดหน่อย ในตอนนั้นเองคนขับก็ขับมาถึงหน้าประตูใหญ่ของบริษัทฉันแล้ว จากนั้นฉินกวนก็ลงจากรถมาเปิดประตูให้ฉัน
ฉันลงจากรถและมองเขาด้วยความสับสนสุดขีด
เขาค่อยๆ โน้มน้าว “มีเรื่องจะพูดกับผมเหรอ?”
เขาถามมาแบบนี้แต่ฉันกลับไม่รู้ว่าควรจะพูดว่ายังไง ฉันจึงส่งยิ้มที่ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่ให้เขาไป
เขาพยักหน้าให้ฉัน “ให้ผมส่งคุณขึ้นชั้นบนไหม?”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ แค่บันไดไม่กี่ขั้นเอง” ฉันโบกมือให้เขา จากนั้นก็หมุนตัวหันหลัง
ในตอนที่กำลังก้าวขึ้นบันได ก็ได้ยินเสียงของฉินกวนพูดขึ้นกับฉัน “เจินเสียนเป็นภรรยาเก่าของผม” ฉันชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็หมุนตัวกลับไปมองเขาทันที ที่แท้ฉินกวนก็เดาออกว่าฉันจะถามอะไร
มันทำให้ฉันช็อกมาก แต่ฉันจะมาสนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว เมื่อกี้เขาว่าไงนะ?
เจินเสียนเป็นภรรยาเก่าของเขาเหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...