อู๋ซือเหมยเขาไม่สนใจฉันเลย ฉันรู้ว่าเธอดูถูกฉัน เธอรู้สึกว่าฉันเป็นคนขี้แพ้
เธอชำเลืองมองฉันแล้วพูดว่า “ ฉันเป็นภรรยาคนแรกของคุณเฉียว และฉันก็เป็นเจ้าของทรัพย์สินของเขา 50% ”
ฉันยิ่งสงสัยว่าสภาพจิตใจของอู๋ซือเหมยตอนนี้ไม่ปกติแล้วพูดกับเธอว่า “ คุณอู๋คะ คุณกับคุณพ่อเฉียวหย่ากันมามากกว่า 10 ปีแล้วนะคะ ”
“ พวกเราแยกกันอยู่ 10 กว่าปีก็จริง แต่ว่าพวกเราไม่ได้หย่ากัน ” อู๋ซือเหมยจู่ ๆ ก็เปิดกระเป๋า และเอาสมุดเล่มสีแดงออกมาแกว่งไปมาต่อหน้าฉันแล้วพูดว่า “ เธอเห็นแล้วหรือยัง ทะเบียนสมรสของฉันกับคุณเฉียวว่านซาน พวกเราไม่เคยหย่ากัน แม่ของเธอเป็นเมียน้อย เมียน้อยที่มักใหญ่ใฝ่สูง ! ”
อู๋ซือเหมยชี้ไปที่หน้าของเฉียวอี้ เฉียวอี้เธอใจเย็นมากยิ้มแล้วพูดว่า “ ตั้งแต่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ คุณก็ตามรังควานท่านมาตลอด ตอนนี้คุณพ่อเสียชีวิตแล้วคุณยังตามรังควานท่านอีกเหรอคะ ”
“ ฉันรู้ว่าว่าหล่อนไม่เชื่อ ตอนนี้ฉันได้พาทนายมา เขาจะพิสูจน์ว่าทะเบียนสมรสของฉันยังมีผลอยู่ ”
“ คุณกับคุณพ่อของฉันหย่าร้างกันไปตั้งนานแล้ว คุณพ่อและคุณแม่ฉันเคยไปจดทะเบียนสมรสด้วยกันค่ะ ”
“ แม่และพ่อของหล่อนไปจดทะเบียนสมรสที่ไหน ตอนนั้นแม่ของหล่อนดูเหมือนว่าไม่ได้ถือสัญชาติจีนนะ การจดทะเบียนสมรสของพวกเขาไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายเลย ” อู๋ซือเหมยชูทะเบียนสมรสในมือขึ้นสูงสูง ภูมิใจมากที่ได้แสดงให้ทุกคนรับรู้แล้วพูดว่า “ ฉันต่างหากที่เป็นภรรยาถูกต้องตามกฎหมายของเฉียวว่านซาน หล่อนและแม่ของหล่อนคนหนึ่งเป็นบุตรนอกสมรสคนหนึ่งเป็นเมียน้อย ! ”
ฉันกดไหล่ของเฉียวอี้เบาๆ กลัวว่าเธอทนไม่ได้ที่จะลุกขึ้นมา
เธอแตะที่มือของฉัน และพยักหน้ากับฉัน
ตอนนี้เธอควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีมากแล้ว
ทนายความที่อยู่ด้านข้างอู๋ซือเหมยพูดว่า “ ทะเบียนสมรสในมือของคุณอู๋ยังคงมีผลอยู่จริงครับ อีกทั้งพวกเรายังได้ไปตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วว่า ทะเบียนสมรสของคุณผู้หญิงอวี๋ฝานฉินกับคุณเฉียวว่านซานพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้รับการคุ้มครองจะกฎหมายครับ ”
เฉียวอี้เงยหน้าขึ้นมามองฉัน ฉันก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกข้างในของเธอจริง ๆ
ดูจากสีหน้าของเฉียวอี้ เธอเองก็ไม่แน่ใจ และก็ไม่ควรมั่นใจมากนัก
เธอเงียบไปสักพักแล้วพูดกับอู๋ซือเหมยว่า “ ไม่ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยคุณต้องให้เวลาฉันตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนนะคะ ตอนนี้คุณพาคนมามากมายก่อกวนที่บริษัทเรา ส่งผลกระทบการทำงานของเฉียวซื่อกรุ๊ปค่ะ คุณเป็นส่วนหนึ่งของเฉียวซื่อ คุณคงไม่อยากทำลายเลือดเนื้อของคุณพ่อใช่ไหมคะ ”
“ อย่ามาพูดอะไรกับฉันแบบนี้ไม่มีประโยชน์ หล่อนก็แค่อยากได้เกียรติยศชื่อเสียงเหล่านี้ไม่ใช่เหรอ ไม่งั้นฉันเอาส่วนนั้นของหล่อนแบ่งให้ หล่อนจะเอาไปใช้แต่งงานหรือเอาไปใช้ชีวิตก็ได้ ดีกว่าทนทุกข์อยู่ที่นี่ ”
“ อู๋ซือเหมย ฉันเห็นว่าคุณเป็นอดีตภรรยาของคุณพ่อนะคะ คุณอย่าทำเรื่องให้มันน่าสมเพชมากไปกว่านี้เลยนะคะ ”
อู๋ซือเหมยเป็นคนหัวโบราณ ฉันเลยไปคุยกับทนายของเขา
ฉันบอกว่า “ ตอนนี้เฉียวอี้เป็นประธานบริษัทแห่งเฉียวซื่อกรุ๊ป และอู๋ซือเหมยได้ทำให้การทำงานของ อู๋ซือกรุ๊ปได้รับผลกระทบ พวกเรามีเหตุผลที่สามารถไล่อู๋ซือเหมยออกไปได้ ตอนนี้จิตใจเธอดูไม่ค่อยปกติ พวกคุณเกลี้ยกล่อมเขาให้ดี ๆ ถ้าสถานการณ์ก่อกวนไม่ได้รุนแรงเกินไปก็รับมือเอาไว้ก่อน ส่วนเรื่องปัญหาของทะเบียนสมรสพวกเราจะตรวจสอบอย่างแน่นอน ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วจะส่งมอบให้กับพวกคุณเลยค่ะ ”
อู๋ซือเหมยไม่ปกติ เหล่าทนายความของเขาปกติ พวกเขาคิดทบทวนแล้วก็ไปกล่อมอู๋ซือเหมย พูดด้วยเหตุผลในที่สุดก็พาเธอออกไปได้
ปัญหาเกี่ยวกับทะเบียนสมรส ฉันกับเฉียวอี้แบ่งเป็นสองส่วน เธอกลับไปถามคุณแม่ของเธอเกี่ยวกับเรื่องการจดทะเบียนสมรสกับคุณพ่อเฉียว ส่วนฉันไปตรวจสอบว่าทะเบียนสมรสที่อู๋ซือเหมยถือนั้นยังมีผลอยู่หรือไม่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...