“คุยกันเรื่องงานในบริษัทหรือเปล่าคะ?” เพราะเซียวซื่อกรุ๊ปและบริษัทของฉินกวนทำธุรกิจร่วมกัน
“แต่เจินเสียนไม่มีส่วนรับผิดชอบตรงนี้นะ เธอไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อกับเซียวซือ”
นั่นมันก็จริง ฉันเป็นคนรับผิดชอบการติดต่องานกับบริษัทของฉินกวน ไม่กี่วันก่อนฉันลาออก และได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้ผู้บริหารระดับสูงคนอื่นไปแล้ว แต่ไม่ใช่เซียวซือ
เมื่อมาขบคิดดูดีๆ มันก็แปลกอยู่จริงๆ
ฉันกำลังเงียบ ฉินกวนจึงถามฉันอีกครั้ง “เซียวเซิง ผมถามคุณหน่อยได้ไหม ว่าทำไมคุณถึงตัดสินใจจะแยกทางกับสีชิงชวนอย่างเด็ดขาดขนาดนี้?”
ฉันไม่ได้ตอบ เพราะฉันไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง
“ไม่กี่วันก่อนผมเจอสีชิงชวนที่งานเลี้ยง สภาพจิตใจเขาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย แถมยังดื่มเหล้าไปเยอะด้วย ดูออกเลยว่าเขาแคร์คุณมาก ในความทรงจำผมคุณก็ดูจะชอบสีชิงชวนมากเหมือนกัน แล้วทำไมพวกคุณสองคนถึงกลายมาเป็นแบบนี้ไปได้?”
“เรื่องของเราสองคน อย่าว่าแต่คุณเลยค่ะที่ไม่เข้าใจ แม้แต่ฉันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ไม่อยากพูดเรื่องระหว่างฉันกับสีชิงชวนอีกแล้ว เรื่องที่มันไม่มีคำตอบ
“ผมแค่คิดว่าการตัดสินใจของคุณมันฉุกละหุกเกินไป ไม่เหมือนสไตล์แบบที่ผ่านๆ มาของคุณเลย เซียวเซิง คุณมีเรื่องกลุ้มใจอะไรอยู่กันแน่? คุณบอกผมได้ไหม?”
ฉันสามารถบอกฉินกวนได้ทุกเรื่อง แต่มีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ฉันต้องปิดมันไว้ไม่ให้ใครรู้
ฉันถือสายเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ฉินกวนจึงจำต้องบอกลาฉัน ในตอนที่กำลังจะวางสายลง ฉันก็เรียกรั้งฉินกวนเอาไว้ “คุณรู้ไหมคะว่าพ่อฉันเป็นใคร?”
ฉันต้องรวบรวมความกล้ามากมายกว่าจะเอ่ยถามประโยคนี้กับเขาได้
“ผมรู้” เขาบอก
ฉันตกใจ ฉินกวนรู้ได้ยังไง?
“คุณรู้เหรอคะว่าพ่อฉันคือใคร?”
“พ่อคุณเสียไปแล้ว ก่อนหน้านี้เขากับพ่อคุณเป็นเพื่อนกัน แม่คุณสมัยสาวๆ เธอสวยมาก ผู้ชายหลายคนต่างก็แห่กันไปจีบเธอ แต่เซียวเซิง คุณเชื่อได้เลยว่าแม่คุณไม่ใช่ผู้หญิงง่ายๆ แบบนั้นแน่นอน เรื่องระหว่างเธอกับพ่อแท้ๆ ของคุณผมไม่ค่อยรู้แน่ชัดเท่าไหร่”
ฉินกวนพูดจนฉันสับสนยิ่งกว่าเดิม เขาบอกว่าพ่อแท้ๆ ของฉันเสียแล้ว แต่คุณพ่อสีก็ยังมีชีวิตอยู่ดี หรือฉันจะมีพ่อแท้ๆ อีกคนโผล่มาอีกแล้ว?
ฉันว่าชีวิตฉันมันเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ร้องไห้ตามหาพ่อจนน้ำตาเป็นสายเลือดเรื่องหนึ่งแน่ๆ พอคิดว่าคนนี้ใช่แต่สืบไปสืบมาก็ไม่ใช่ แล้วพอคิดว่าคนนั้นใช่แต่สืบไปสืบมาก็ไม่ใช่อีก
คนคนนั้นที่ฉันไม่อยากยอมรับมากที่สุด ก็ดันเป็นพ่อของฉัน
“ดูเหมือนคุณจะไม่รู้นะ” ฉันพูดขึ้นช้าๆ
“หมายความว่าไง? พูดแบบนี้เหมือนคุณจะรู้แล้วว่าพ่อของคุณคือใคร?”
“ใช่ค่ะ ฉันรู้แล้ว” ฉันพูดขึ้นอย่างเศร้าซึม “ฉันรู้แล้วว่าเขาคือใคร เพราะงั้นเรื่องพวกนั้นที่คุณพูดมันฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด”
“แต่ผมพูดเรื่องจริงนะ ผมรู้เรื่องของแม่คุณดี หลังจากที่ผมกับเธอแยกทางกัน เรายังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ยังติดต่อกันตลอด พ่อคุณเป็นนักธุรกิจคนหนึ่ง แต่เขาเจ้าชู้มาก เขากับเซียวหยวนตกหลุมรักแม่คุณในเวลาไล่เลี่ยกัน บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขารู้ดีว่าควรเอาอกเอาใจผู้หญิงยังไง เพราะงั้นแม่คุณก็เลยรักเขาตั้งแต่แรก จากนั้นก็มีคุณ”
“แต่เขาไม่ได้แต่งงานก็หมดรักแม่คุณแล้ว ในช่วงเวลาที่ยากลำบากตอนนั้น โชคดีที่มีเซียวหยวนมาดูแลแม่คุณด้วยความเอาใจใส่ ถึงได้ออกมาจากความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวนั้นได้”
เมื่อได้ยินฉินกวนพูดด้วยความมั่นใจขนาดนี้ มันก็ทำให้ฉันสับสนมากจริงๆ
ได้ยินเขาพูดแบบนี้ พ่อฉันยังมีคนอื่นอีกเหรอ?
โอ๊ะ อย่าสิ
อย่ามาวนเวียนอยู่ใกล้ตัวฉันนะ วนเวียนจนฉันสับสนไปหมดแล้วเนี่ย
“คุณบอกว่าพ่อฉันเสียแล้วเหรอคะ? เป็นไปได้ยังไง เขายังมีชีวิตอยู่นะ”
“ตอนคุณอายุประมาณสิบขวบ เขาขับเฮลิคอปเตอร์และตกลงมาเสียชีวิต คุณน่าจะจำไม่ได้ แม่คุณยังพาคุณไปไหว้ศพเขาด้วย แต่แค่ไม่ได้บอกคุณว่าเขาคือพ่อคุณ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...