ฉันเชื่อว่าคนบางคนก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ตัวอย่างเช่นหนีอีโจว ตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันมักจะเบื่อหน่ายการอยู่ในอ้อมกอดของเขา ความรู้สึกในตอนนั้นเป็นความรู้สึกที่บริสุทธิ์จริงๆ ยังมีความรู้สึกส่วนตัวแบบชายหญิงไม่มากนัก ภายหลังถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วฉันชอบหนีอีโจว เป็นความรู้สึกชอบแบบที่เด็กผู้หญิงชอบเด็กผู้ชาย
แต่หนีอีโจวได้ไปที่ประเทศอังกฤษแล้ว ต่อมาฉันได้แอบบอกเขาผ่านในจดหมาย แต่เป็นไปได้ว่าในตอนนั้นเขาอาจจะออกจากประเทศอังกฤษไปแล้วจึงไม่เห็นจดหมายนั้น
อ้อมกอดของเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด ยังคงอบอุ่นและกว้างใหญ่เหมือนอย่างเคย
เขาเองก็โอบกอดฉันไว้แน่นเช่นกัน ฉันเอาใบหน้าซบเข้าไปด้านในเสื้อตัวนอกของเขา
เมื่อก่อนเขามักจะชอบใส่เสื้อเชิ้ตยีน บนเสื้อจะมีกลิ่นหอมๆ ของน้ำยาซักผ้า ฉันชอบความรู้สึกหยาบๆ ของเสื้อเชิ้ตยีน มันมีชีวิตชีวามาก
ความไม่สบายใจและความหงุดหงิดกระสับกระส่ายในช่วงตลอดหลายวันที่ผ่านมานี้ หายวับไปในอ้อมกอดของหนีอีโจวทันที
เวลานี้เอง ประตูลิฟต์ก็เปิดออก ฉันคล้ายๆ จะรู้สึกว่ามีคนสองคนยืนอยู่หน้าประตู
แต่ฉันไม่ได้สนใจ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าพวกเรากำลังจะไปชั้นไหนเหมือนกัน เพราะถึงยังไงฉันก็อยากกอดหนีอีโจวอยู่แบบนี้ ไม่อยากคิดเรื่องอื่นๆ ให้มากนัก
แต่ฉันก็ได้ยินเสียงเสียงหนึ่งที่ทำให้ฉันตัวสั่นขึ้นมาทันที เพราะเสียงนี้เป็นเสียงที่มาจากนรกสิบแปดขุม
“เซียวเซิง”
ฉันที่อยู่ในอ้อมกอดของหนีอีโจวค่อยๆ หันหน้ากลับไปมองทางประตูอย่างช้าๆ
หน้าประตูมีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่สองคนยืนอยู่ และเป็นคนที่ฉันรู้จัก
คนแรกคือป๋ออวี่ มังกรหน้าหยกผู้สง่างาม และอีกคนคือสีชิงชวน ราชาปีศาจแห่งขุมนรกผู้มีใบหน้าเย็นชาไร้อารมณ์
ฉันรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อตขึ้นมาทันที ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงต้องโชคร้ายมาเจอสีชิงชวนที่นี่แบบนี้ด้วย
ฉันอ้าปากค้าง ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ถึงจะเปล่งเสียงพูดออกมา “ไง บังเอิญจังนะ”
“ไม่แนะนำหน่อยเหรอ? ” สีชิงชวนยิ้มเยาะ
ฉันกลัวที่สุดเวลาที่เห็นเขายิ้มเยาะ ตอนที่เขาทำสีหน้าไร้อารมณ์ยังจะดีกว่าเสียอีก เวลาที่เขายิ้มเยาะมันทำให้ฉันรู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัวจริงๆ
“นี่ทนายของฉัน หนีอีโจว”
“อ้อ แล้วไม่แนะนำผมหน่อยเหรอ? ”
“เอ่อ” ฉันเลียริมฝีปาก “สีชิงชวน”
“ฮ่า” เขาหัวเราะออกมาอย่างมีความสุขมาก และเอียงศีรษะชื่นชมพวกเรา “คุณคิดจะกอดกันอยู่แบบนี้ไปตลอดเลยไหม? ”
คราวนี้ฉันจึงนึกขึ้นมาได้ว่าฉันยังอยู่ในอ้อมกอดของหนีอีโจวอยู่ จึงรีบร้อนถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวจนแผ่นหลังชนเข้ากับผนังลิฟต์ หนีอีโจวดึงฉันไว้อย่างรวดเร็วและลูบแผ่นหลังของฉัน “เจ็บไหม? ”
ทันใดนั้นข้างกายก็มีความรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ส่งมา ฉันส่ายหน้าให้เขา “ไม่เจ็บค่ะ”
สีชิงชวนยื่นมือออกมาจับข้อมือของฉันไว้อย่างรวดเร็ว และดึงฉันออกไป หัวของฉันชนเข้ากับหน้าอกของเขา หน้าอกของสีชิงชวนแข็งราวกับแผ่นเหล็ก และหน้าผากของฉันยังบวมอยู่เล็กน้อย ดังนั้นมันจึงเจ็บมาก
ฉันร้องโอ๊ยออกมา และเอามือกุมหน้าผาก
“เซียวเซิง คุณไม่เป็นไรนะ? ” หนีอีโจวเอ่ยถาม
สีชิงชวนไม่ให้โอกาสฉันได้ตอบกลับไป เขาใช้มือข้างหนึ่งโอบคอของฉันจากนั้นก็หมุนตัวกลับเดินไปทางลานจอดรถ
ที่แท้ลิฟต์ก็ลงมาถึงชั้นลานจอดรถใต้ดินแล้วนี่เอง
ฉันได้ยินแค่เสียงของป๋ออวี่ที่กำลังพูดกับหนีอีโจวว่า “สวัสดีครับทนายหนี คุณวางใจได้เลยครับ คุณนายสีอยู่กับคุณสี เธอจะปลอดภัยมากครับ”
ที่แท้ป๋ออวี่ก็เป็นคนประเภทลู่ไปตามลมมากๆ คนหนึ่งเหมือนกันนี่เอง ก่อนหน้านี้เรียกฉันว่าคุณเซียวมาโดยตลอด ตอนนี้พอมาอยู่ต่อหน้าหนีอีโจวกลับเรียกฉันว่าคุณนายสีซะงั้น
ลำคอของฉันถูกสีชิงชวนบีบไว้จนแทบจะหายใจไม่ออก เขาเอาหัวของฉันมาหนีบไว้ที่รักแร้เหมือนหัวฉันเป็นลูกบาส โชคดีที่เขาไม่มีกลิ่นตัว ไม่อย่างนั้นฉันคงจะสำลักกลิ่นจนเป็นลมไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...