เจอกับป๋ออวี่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่น่าแปลกใจอะไร เขาลาออกนานแล้ว ตอนนี้เขาสืบทอดธุรกิจของพ่อเขาอยู่ ถือได้ว่าเป็นนายทุนใหญ่ที่มีชื่อเสียงและเงินทอง
เฉียวอี้ก็จำเขาได้แล้ว กระซิบกับฉันด้วยเสียงอันเบาว่า “คือป๋ออวี่นี่เอง คนรอบข้างของสีชิงชวนนี่เป็นคนในวงการเดียวกันหมดเลย หลังจากเขารับช่วงต่อกิจการจากพ่อเขาก็เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว หมดกัน ถ้าครั้งนี้เขาประมูลโครงการไปได้ บริษัทอื่นก็ไม่ต้องไปคิดแล้วแล้วยิ่งพวกเราไม่ต้องไปคิดเลย”
ใช่นะสิฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน เดิมทีคนที่มาประมูลงานนี้มีไม่มาก บวกกับศักยภาพของป๋ออวี่ดีขนาดนี้ พวกเราก็ถือว่าแค่มาชมงานมารอดูสถานการณ์ก็เท่านั้นแหละ
การประมูลครึ่งแรกกำลังจะจบลงแล้ว งานครึ่งหลังเป็นการประกาศว่าใครจะชนะการประมูล
“เหมือนจะมีคนเสนอใบราคาไปทั้งหมดสามเจ้า ป๋ออวี่น่าจะชนะแบบไม่ต้องสงสัย ถ้าเทียบกับอีกสองบริษัทแล้วบริษัทของป๋ออวี่มีความแข็งแกร่งกว่า แล้วมีศักยภาพมากกว่ายังไงครั้งนี้เขาก็ชนะแล้วละ”
ไม่ต้องให้เฉียวอี้พูดฉันก็พอจะเข้าใจฉันยิ้มกับเธอ ไม่ต้องพูดว่าเราสองคนไม่มีบริษัท ถึงแม้เราสองคนจะมีบริษัทก็ต้องวิ่งหนีอยู่ดี
ในขณะที่กำลังพัก พวกเรากำลังหาของกินฟรีที่เจ้าของงานจัดไว้ แล้วเล่นมือถือไปพลาง เห็นข่าวของสีชิงชวนหมั้นหมายกับเซียวซือ
พวกเขาสองคนช่างขี้โอ้อวดจริง เหมือนอยากจะให้คนทั้งโลกรู้ก็แค่การหมั้นหมายกันเท่านั้น สื่อยังนำเสนอหัวข้อพิเศษของพวกเขาตั้งแต่ทั้งสองเริ่มรักกันถึงเลิกรากันแล้วกลับมาคบกันอีกแล้วตอนนี้กำลังจะหมั้นหมายกัน บรรยายสาธยายซะยาวเหยียดเหมือนละครน้ำเน่าที่ดำเนินเรื่องเรื่อยๆยาวเรื่องหนึ่ง
ส่วนฉันหรอ ไม่เห็นเขียนถึงสักตัวเลยตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วฉันเป็นคนไม่มีตัวตนคนหนึ่ง
ก็ใช่ อืม ตอนนี้สื่อกำลังวุ่นกับการเขียนข่าวเรื่องราวความรักของพวกเขา ถ้ามีการพูดถึงฉันขึ้นมาน่าจะทำให้เสียบรรยากาศหมด
ขณะที่ฉันกำลังไถเล่นมือถือ มีคนคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าฉัน “เชียวเซิง อะไรจะบังเอิญขนาดนี้?”
น้ำเสียงคุ้นหูมาก ฉันเงยหน้าขึ้นมาคนยิ่งคุ้นเคยไปใหญ่
เขาคือป๋ออวี่ ฉันยืนขึ้นมา ได้พบเขาฉันก็ดูเก้อเขิลทำไรไม่ค่อยถูก
เพราะมือถือฉันกำลังเปิดข่าวการหมั้นของสีชิงชวนกับเซียวซืออยู่ ฉันเลยรีบปิดมือถือแล้วยิ้มเบาๆ “สวัสดี ป๋ออวี่”
หลังจากครั้งนั้น ที่ป๋ออวี่สารภาพรักกับฉัน ภายใต้แรงกดดันของสีชิงชวน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้พบหน้ากัน
“ที่จริงแล้วตอนอยู่ในงานฉันมองไปแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นเธอ พวกเธอก็มีความสนใจในโครงการนี้เหมือนกันเหรอ?”
ป๋ออวี่มองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นฉันเหรอ?
เฉียวอี้อุตส่าห์ทุ่มเทแต่งปลอมตัวให้ฉันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถูกคนอื่นมองออกตั้งแต่แว๊บแรก?
“ก็ต้องสนใจอยู่แล้ว เป็นโครงการที่ดีขนาดนี้ คนที่ทำธุรกิจเป็นก็ต้องให้ความสนใจอยู่แล้ว แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีศักยภาพแบบนั้นทุกคน ”เฉียวอี้ลุกขึ้นมาพูดกับป๋ออวี่
“ถ้าหากพวกเธอสนใจก็สามารถเข้าร่วมได้นะ ถ้าหากฉันประมูลสำเร็จฉันสามารถแบ่งปันตั๋วให้พวกเธอได้”
“แบ่งปันตั๋วการประมูลจะไปมีความหมายอะไร ถ้าจะเอาก็ต้องเอาหัวหลักไปเลย”
“แล้วพวกเธอยื่นใบราคาหรือยัง”
ฉันส่ายๆหัว : “ไม่ได้เสนอ พวกเราในตอนนี้ไม่มีเงินลงทุนขนาดนั้น”
ป๋ออวี่มองดูฉันอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็พยักๆหัว “ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ฉันไปก่อนนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...