ป๋ออวี่มาทักทายพวกเรา หลังจากนั้นก็เขาก็เดินจากไป
เขายังมีเรื่องที่ต้องจัดการ งานดูยุ่งมากจริงๆ
เขาให้พวกเราตามสบาย จะนั่งอยู่ตรงนี้นานแค่ไหนก็ได้ สามารถปรึกษากันอย่างไม่ต้องรีบร้อนเกี่ยวกับสัญญาการร่วมหุ้น
ในห้องรับแขกเหลือแค่ฉันกับเฉียวอี้สองคนแล้ว ในที่สุดก็สามารถพูดตามใจได้
เฉียวอี้ดีใจจับสัญญาไว้แน่น จูบสัญญาไปหลายครั้ง “เทพเจ้าโชคลาภ เชียวเซิง เธอเป็นเทพเจ้าโชคลาภของฉันจริงๆ ฉันว่าแล้วว่าเธอเป็นคนมีเสน่ห์มาก ผู้ชายทั้งโลกยอมทำให้เธอด้วยความเต็มใจทุกคน”
“เธอมันประสาท” ฉันผลักเฉียวอี้ “เธอพูดอะไรของเธอเลอะเทอะ? ถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมป๋ออวี่ทำแบบนี้”
ก็เขาชอบเธอไง นี่ยังแสดงไม่ชัดเจนอีกหรอ เธอลองคิดดู ตอนนั้นที่เธอเป็นภรรยาของสีชิงขวน เขายังกล้าสารภาพรักกับเธอเลย ตอนนี้เธอกับสีชิงชวนไม่มีความสัมพันธ์กันแม้กระทั่งเงินสลึงเดียว เธอคิดว่าเขาแค่ใช้โครงการโครงการหนึ่งมาตามจีบเธอ มันก็คุ้มค่าแล้ว” “ไม่หรอกมั้ง” เฉียวอี้พูดแบบนี้ ฉันยิ่งจิตใจไม่สงบ “งั้นฉันยิ่งไม่ควรรับข้อเสนอนี้”
“เขาไม่ใช่ส่งมอบให้เธอนี่ พูดอีกอย่าง ตอนนี้เธอก็โสด เธอมีสิทธิ์ที่จะเลือกผู้ชายคนไหนก็ได้ที่มาตามจีบเธอ”
“ฉันไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ ได้ไหม?” ขนาดเฉียวอี้ยังพูดแบบนี้ งั้นฉันคงต้องยิ่งกังวลใจไม่สงบแล้วแหละ
“ตอนนี้ยังไงฉันได้เซ็นชื่อไปแล้ว เรื่องนี้ถ้ามาคิดดูแล้วยังไงเราก็ได้กำไรไม่ขาดทุนนี่”
“เธอลองคิดดูสิ เขาลงทุนด้วยเงินของเขาเองทั้งหมด แต่สุดท้ายต้องมาแบ่งปันให้พวกเรา จะได้กำไรไม่ขาดทุนได้ยังไง?”
“แต่ภายหลังตอนเราได้เงินปันผลแล้ว เราก็หักเงินลงทุนที่เขาลงให้เราก่อนคิดเข้าไปนี่ เธอคิดว่าป๋ออวี่เป็นคนโง่หรอ”
“แต่ว่าระยะแรกพวกเราไม่ได้ลงทุนอะไรเลยนี่”
“จะบอกว่ายังไงฉันว่าป๋ออวี่ฉลาดหลักแหลมมาก เขารู้ว่าพวกเราสองคนต้องการความช่วยเหลือ ถ้าเขาให้ความช่วยเหลือในยามคับขันจะเทียบกับการช่วยเหลือตอนที่ยังไม่ถึงขั้นคับขันได้ยังไง” เฉียวอี้แสดงความดีใจเก็บสัญญานั้น “ฉันจะหาทนายที่สนิท ช่วยดูเรื่องเอกสารหน่อย พี่เสี่ยวฉวนไงดีไหม?” เขาพูดเสร็จก็หยุดพูดกะทันหัน มองมาที่ฉัน “พี่เสี่ยวฉวนหรอ ไม่ดีหรอก ไปหาคนอื่นเถอะ”
เฉียวอี้ยืนขึ้น แล้วลากฉัน “ไป ไป ไป ไปหาที่ดื่มกันเพื่อฉลองกันดีกว่า”
“เธอจะยอมรับข้อเสนอสัญญานี้จริงๆใช่ไหม?”
“เธอคิดว่าป๋ออวี่มองไม่ออกหรอว่า พวกเรารีบตอบรับข้อเสนอของโครงการนี้เพื่ออะไร? ก็เพื่อมุ่งเป้าไปที่เซียวซือไง ตอนนี้เซียวซือเป็นที่น่าสนใจ เธอผลักตัวเองให้ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด การที่เธอได้รับซื้อตอบรับดีอย่างมากไม่ค่อยดีกับบริษัทใหญ่เท่าไหร่นัก ถือเป็นการข่มขู่อย่างหนึ่ง เพราะงั้นเขาเลยเหมือนยิงปืนนัดเดียว ได้นกสองตัว ป๋ออวี่ช่วยพวกเราแบบนี้ แต่ที่จริงเขาก็ทำเพื่อตัวเองด้วยแหละ เธอเข้าใจหรือป่าว”
เฉียวอี้ตบ ตบที่บ่าขอฉัน “ไป ดื่มกันสักแก้ว”
สิ่งที่เฉียวอี้พูด ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ
ฉันขึ้นรถเฉียวอี้ นั่งอยู่เบาะหลังแล้วมองออกไปชมวิวนอกหน้าต่าง
เมื่อกี้คำพูดที่เฉียวอี้พูดมาคำนึง ฉันฟังแล้วคิดได้ เขาบอกว่าเมื่อโอกาสอยู่ตรงหน้าแล้วรับข้อเสนอแล้วก็ต้องไม่ลังเลที่จะไขว่คว้ามันไว้อย่างเต็มที่ ไม่ใช่ทำเป็นไม่มีความหมายอะไรแล้วผลักไสมันออกไป
เฉียวอี้ขับรถมาถึงย่านใจกลางเมือง ฉันเห็นรูปของเซียวซืออยู่บนหน้าจอLCDของห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
ตอนนี้เธอเป็นผู้คนโปรดปรานของทั้งวงการการเงินและวงการบันเทิง ขยับตัวนิดหน่อยก็เป็นที่พูดถึง
ฉันถูกกระจกรถขวางกั้นอยู่ เลยไม่ได้ยินว่าเซียวซือพูดอะไร แต่ท่าทางการพูดของเธอมันช่างน่าเกลียดยิ่งนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...