หากเป็นเมื่อก่อน ถ้าได้รับคำเชิญแบบนี้ฉันคงจะไม่ยอมรับเด็ดขาด ทั้งยังจะหันหลังแล้วเดินจากไปเลย
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนกัน ตอนนี้ไม่ว่าจะยังไงฉันก็จะไม่ถอย แล้วอีกอย่างเพราะฝั่งตรงข้ามคือเซียวซือด้วย
เธอได้ใจมากแล้ว เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอมีหมดแล้วทุกอย่าง
ถ้าหากเธอมีหมดแล้วทุกอย่างจริงๆ มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรสำหรับฉัน
ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนฉันคงจะไม่เอามาใส่ใจ แต่ตั้งแต่เสวียเหวินเอาวีดีโอนั้นให้ฉันดู ฉันก็รู้เลยว่าสิ่งที่เซียวซือแย่งฉันมาทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของอะไร
เธอได้ใจมากใช่ไหม? งั้นฉันจะทำให้เธอต้องกลัดกลุ้มใจเอง
ฉันพยักหน้าให้เฉียวอี้ “ไป พวกเราเข้าไปร่วมแบ่งปันความสุข ความสนุกกับเซียวซือกัน”
เฉียวอี้ตื่นเต้นดีใจมาก เธอคิดไม่ถึงว่าฉันจะตอบโต้เกมส์กลับขั้นสูงแบบนี้
เธอดีดนิ้วแล้วพูดว่า “โอเค ไปกันเถอะ”
เลขาคนนั้นเกิดอาการตกใจเบาๆ ถ้าเอาตามที่ฉันเข้าใจ เธอคงคิดไม่ถึงว่าฉันจะกล้าเข้าไปข้างในจริงๆ
ตอนนี้ถึงได้รู้ว่าการเป็นคนคนหนึ่งที่คนอื่นไม่ค่อยเข้าใจ มันมีความรู้สึกดีแบบนี้เอง
ใครจะยอมให้คนอื่นมาเดาใจได้ถูก
ฉันกับเฉียวอี้เดินเข้าไปในบาร์ ดูแล้วเซียวซือให้ความสำคัญกับงานแต่งงานของเธอกับสีชิงชวนมากเป็นพิเศษ ขนาดในผับบาร์ยังตกแต่งสถานที่เป็นพิเศษ ธีมในการจัดงานเลี้ยงค่ำคืนนี้คือธีมเจ้าสาว พอฉันเข้าไปก็เห็นเซียวซือยืนอยู่บนเวทีของชั้นสอง สวมใส่ชุดสีขาวลากพื้นเหมือนชุดแต่งงาน
เฉียวอี้หัวเราะเยาะ “คิดไม่ถึงว่าเซียวซือจะหิวโหยการแต่งงานขนาดนี้ เซียวเซิง” เฉียวอี้หันหน้ามามองฉัน “ฉันเดาไม่ถูกเลยว่าถ้าครั้งนี้เซียวซือไม่ได้แต่งงานเธอจะเป็นยังไง?”
“ฉันก็เดาไม่ถูก แต่พวกเราสามารถรอดูได้เลย” ฉันเดินขึ้นบันไดเดินผ่านเซียวซือไป
สายตาเซียวซือมองฉันด้วยความเซอร์ไพรส์นิดนึง คิดว่าเธอน่าจะคาดไม่ถึงว่าฉันจะเข้ามาในงานจริงๆ
แต่เธอก็จัดการอารมณ์ของตัวเองอย่างรวดเร็ว พิงตรงราวบันได แสดงท่าทางอย่างนางพญาที่สูงส่ง
“เซียวเซิง คิดไม่ถึงว่าจะเจอกันเร็วขนาดนี้”
“ฉันก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะอดทนรอไม่ได้ขนาดนี้ หรือเพราะเธอกังวลว่าวันหมั้นของเธอจะมาไม่ถึงแน่ เธอเลยจัดงานไว้ก่อน?”
ที่จริงแล้วเวลาฉันใจร้ายฉันก็สามารถร้ายได้มากๆ แต่แค่ฉันเป็นใจดีเกินไป ไม่อยากให้ใครต้องมาลำบากใจเพราะฉันเท่านั้น
แต่ขนาดฉันดีขนาดนี้ คนอื่นยังบอกว่าฉันเป็นคนแรดเงียบ ไม่รู้จริงๆว่าจะไปอธิบายที่ไหนได้บ้าง
ฉันยั่วโมโหทำให้เซียวซือโกรธได้สำเร็จ เธอยืนหลังเกร็งไปครู่หนึ่งมือจับราวบันไดอย่างแน่น “เซียวเซิง ใครสอนให้เธอพูดคำเหล่านี้ หรือเพราะเธอมันใจดำตั้งแต่ข้างในกระดูกของเธออยู่แล้ว?”
ฉันขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับเธอ มองไปรอบๆทั้งสี่ทิศ “คืนนี้สีชิงชวนจะมาไหมนะ?เธออยากจะให้เขามาเห็นสารรูปแบบนี้ของเธอก่อนหรือเปล่า?
“วันนี้เป็นวันเลี้ยงสละโสดของฉัน ฉันเป็นตัวหลักของงานเลี้ยงนี้ เซียวเซิงฉันรู้ว่าตอนนี้เธอเป็นแม่หม้ายคนหนึ่งที่ถูกทิ้ง เห็นสามีเก่ากำลังจะแต่งงานกับฉันใจก็ต้องไม่สงบอยู่แล้ว”
“ก็แค่งานหมั้นเอง เซียวซือ” ฉันเตือนสติเธอ “การหมั้นกับการแต่งงานมันแตกต่างกันมากนะ ถึงจะเป็นวันแต่งงานแล้วก็เถอะ วันนั้นสีชิงชวนก็อาจจะเปลี่ยนใจไม่มาก็ได้ เพราะงั้นจึงไม่ต้องพูดถึงแค่การหมั้นเลย”
ฉันพูดไปถูกจุดที่เซียวซือกังวล ถึงจะอยู่ภายใต้แสงที่สลัวๆนี้ ฉันก็มองออกว่าสีหน้าของเซียวซือนั้นเปลี่ยนไป
คนที่มีความมั่นใจในตัวเองมากอย่างเซียวซือ ก็มีช่วงเวลาที่ประหม่าอยู่เหมือนกัน
เธอตั้งสติตัวเองแล้วพูดว่า “เซียวเซิง เธอรู้ไหมว่าการแสดงออกของเธอในตอนนี้เขาเรียกว่าเหมือนหมาจนตรอก? สำหรับคนขี้แพ้ตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างเธอ ฉันไม่อยากจะต่อปากต่อคำด้วยหรอกนะ ถ้าเธอยินดีจะอยู่ดูฉันมีความสุขละก็งั้นเธอก็อยู่ที่นี่ต่อได้เลย เธออย่าคิดว่าคำที่เธอพูดไม่กี่คำเมื่อกี้จะทำให้ฉันตกใจกลัวได้ ความมั่นใจอย่างอื่นฉันไม่ค่อยมีหรอก แต่กับเธอฉันมีความมั่นใจมาก สีชิงชวนรับปากฉันแล้วว่าจะแต่งงานกับฉัน ไม่ว่าใครหน้าไหนก็จะมาแย่งเขาไปจากมือฉันได้”
เซียวซือเดินผ่านหน้าฉันไป แล้วเอานิ้วมาชี้ที่จมูกฉัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...