ทันใดนั้นเขาก็วางสายจากฉัน อีกทั้งโทนเสียงก็ช่างเย็นชา
แต่ฉันค่อนข้างมั่นใจว่าเขาไม่ใช่ว่าไม่สนใจ ถ้าเขาไม่สนใจในตัวฉันเลยจริง ๆ เขาคงไม่มีเหตุผลที่จะขับรถกลับมาและบอกว่าไม่อยากฟังฉันอธิบายแบบนี้หรอก
ดูเหมือนเขาจะงอนฉัน และอยากให้ฉันปลอบเขาสักหน่อย
หวังว่าที่ฉันเดามันจะถูกต้องนะ
หลังจากที่ฉันคิดแล้วคิดอีก ก็โทรไปหาสีชิงชวนและเขาก็รับสายทันที
ถ้าเขาไม่สนใจฉันจริง ๆ เขาก็คงจะไม่รับสายฉันหรอก
“สีชิงชวน” ฉันแกล้งทำตัวน่าสงสาร เสียงของฉันดูขึ้นจมูกเมื่อพูดออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังร้องไห้อยู่ “ฉันเพิ่งจะข้อเท้าเคล็ด เดินไม่ไหวจริง ๆ”
เขาที่อยู่อีกฟากของโทรศัพท์ไม่ได้พูดอะไรออกมา ฉันเลยพูดขึ้นมาอีก “ฉันไม่ได้เอากระเป๋าสตางค์มา ในมือถือเองก็ไม่มีเงินแล้ว ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันไม่มีเงินสักบาทเลย จะนั่งแท็กซี่ก็นั่งไม่ได้”
“อย่าทำให้ตัวเองอับจนหนทางขนาดนั้น เดี๋ยวคุณก็หาวิธีได้เอง” ได้ยินเสียงถอนหายใจของสีชิงชวน เขากำลังจะวางสาย ฉันจะต้องรีบคิดวิธีโดยด่วน
ฉันกำลังเดินอยู่บนฟุตบาทในขณะที่กำลังคุยกับเขา ในตอนที่กำลังคิดถึงเรื่องอื่นก็เผลอก้าวเท้าพลาดจนอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องออกมา แต่ยังดีที่ฉันไม่ล้มลงไป
สีชิงชวนที่อยู่ในสายก็รีบถามในทันทีว่าฉันเป็นอะไรไป ?
เพียงแค่ประโยคเดียว ถึงแม้จะดูไม่ออกว่าเขาตกใจอยู่หรือเปล่า แต่ก็ดูให้ความสนใจฉันในช่วงพริบตา ฉันแกล้งทำเป็นตกใจและบอกสีชิงชวนไปว่าเพิ่งมีคนเอากระเป๋าของฉันไป เฮ้ เขากลับมาแล้ว นายอย่าเข้ามานะ จากนั้นฉันก็วางสายโทรศัพท์ไป
ฉันแกล้งทำเป็นว่าเจอโจรบนถนน หวังว่าละครเรื่องนี้ที่ฉันกำกับและแสดงเองจะสามารถหลอกสีชิงชวนได้
เฉียวอี้เคยพูดว่าการแสดงของฉันมันดูตั้งใจเกินไป ฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะสามารถหลอกเขาได้ไหม หรือว่า ตัวเขาจะยอมให้ฉันหลอกด้วยความเต็มใจกัน ?
ฉันวางสายโทรศัพท์และรออยู่ที่เดิม จริง ๆ แล้วฉันก็ค่อนข้างกระวนกระวายใจ ฉันไม่มั่นใจเลยว่าสีชิงชวนจะกลับมาหาฉันไหม
และไม่รู้เลยว่าการที่ฉันเพิ่งจะหลอกสีชิงชวนว่ามีคนเลวเข้ามา ตอนนี้ก็ได้พาคนเลวเข้ามาจริง ๆ
ฉันกำลังรออยู่ที่จุดเดิม ทันใดนั้นก็มีรถคันหนึ่งที่ขับไม่ช้าไม่เร็วมาอยู่ที่ข้างฉัน ในตอนแรกฉันไม่ได้สังเกตเห็นพวกเขาเลย แต่เมื่อฉันวางสายและเดินตามทางไปเรื่อง ๆ จึงพบว่ามีรถคันหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากฉัน
ฉันมองไปในรถคันนั้น และในรถรวมถึงคนขับรถเป็นผู้ชายทั้งหมด และพวกเขาก็มองมาที่ฉันด้วยสายตามุ่งร้าย
ทันใดนั้นฉันก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ฉันใส่กระโปรงสั้น เป็นกระโปรงลายดอกไม้ที่รัดบริเวณต้นขาและบั้นท้ายความยาวเหนือเข่า
กระโปรงตัวนี้ของฉันจะทำให้เห็นรูปร่างส่วนเว้นส่วนโค้งของบริเวณช่วงล่างได้อย่างชัดเจน ความยาวขาของฉันเองก็ค่อนข้างดูดี ทั้งยาว ผอม ขาว และตรงสวย ดึกดื่นป่านนี้กลางถนนแบบนี้ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงถูกพวกคนไม่ดีจ้องมอง
ฉันรีบเดินไปไม่กี่ก้าว รถของพวกเขาก็เริ่มขับเร็วขึ้นมา
ถ้าหากฉันหยุด พวกเขาก็จะขับรถช้าลง
เพราะแบบนั้นคนที่อยู่ในรถกำลังเล็งมาที่ฉันโดยไม่ต้องสงสัยเลย
ฉันควรจะกลับไปเฉียวอี้ไหม ? ฉันอยู่ที่สี่แยกไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก ถ้าวิ่งกลับไปหล่อนตอนนี้ก็ยังคงทันอยู่
ฉันกำลังจะหมุนตัวกลับ จู่ ๆ รถคันนั้นก็จอดที่ข้างฉันพร้อมกับเสียงเอี๊ยดอ๊าด หลังจากนั้นก็มีคนสองคนลงมาจากรถแล้วเดินมาหาฉัน
ฉันหันกลับแล้ววิ่งออกไป แต่กลับได้ยินเสียงวิ่งตามหลังมา ความเร็วของพวกเขานั้นเร็วกว่าฉันมาก
มีใครบางคนบีบข้อศอกของฉันไว้ แล้วพูดออกมาด้วยเสียงแผ่ว ๆ “น้องสาวนี่คงเป็นโชคชะตาแน่ ๆ น่าเบื่อมากเลยกว่าจะเจอใครสักคน ไปกันเถอะ ขึ้นรถ พี่ชายอยากจะคุยด้วยสักหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...