นี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่ฉันเป็นฝ่ายริเริ่มจูบคนอื่นก่อน ฉันสัมผัสได้ว่าร่างกายของสีชิงชวนแข็งทื่อชั่วขณะ เขาคงคาดไม่ถึงว่าฉันจะเป็นฝ่ายเริ่มจูบก่อนเช่นนี้
ไม่สนแล้ว ในเมื่อฉันเป็นคนเริ่ม ฉันก็จะทำต่อไป
ประจวบเหมาะพื้นที่ภายในห้องลองชุดนั้นค่อนข้างคับแคบ หากสีชิงชวนคิดอยากจะขัดขืนไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจหลุดพ้นออกไปได้
บางทีตอนนี้ร่างกายของฉันนั้นไร้เสื้อผ้าดูวาบหวาม ภายในสายตาของสีชิงชวนฉันอาจแตกต่างจากอดีตเป็นอย่างมาก
ดังนั้นร่างกายของเขาเริ่มรุ่มร้อนมากยิ่งขึ้น ลมหายใจถี่ระรัวมากยิ่งขึ้นเช่นกัน
หลังจากที่เขาต่อต้านประมาณสองวินาที เขาเริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบฉันอย่างดุเดือด
เห็นได้ชัดว่าฉันเป็นฝ่ายจูบเขาก่อน แต่เพียงพริบตาเขากลับใช้กลยุทธ์สลับแขกเป็นเจ้าบ้าน[1]
เขาผลักฉันติดกับกำแพงห้องลองชุด กำแพงค่อนข้างเย็น ซิปด้านหลังของฉันนั้นกำลังเปิดอยู่ เมื่อแผ่นหลังแนบชิดกับกำแพงเย็นเยียบร่างกายของฉันสั่นสะท้านเล็กน้อย มือของเขาวางทาบลงบนแผ่นหลังของฉันในทันใด
ฝ่ามือของเขาร้อนระอุ เหมือนกับว่าขณะนั้นสติของฉันกำลังคลุ้มคลั่ง
ฉันไม่เคยทดลองจูบกับผู้ชายภายในห้องลองชุด ฉันคิดว่าสีชิงชวนเองก็น่าจะไม่เคยทดลองมาก่อนเช่นกัน สายตาของเขาพร่าเลือนมากยิ่งขึ้น มืออีกข้างหนึ่งของเขาไม่ได้อยู่บนแผ่นหลังของฉัน แต่กลับลูบไล้ไปทั่วเรือนร่างของฉัน
ลมหายใจของฉันรินรดใบหูของเขา เมื่อมองดูแล้วเขาดูตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
ลมหายใจของพวกเราทั้งสองคนทำให้ห้องขนาดเล็กนี้ร้อนเร่า ฉันรู้สึกว่าถ้าหากจูบต่อไปสีชิงชวนจะไม่สามารถควบคุมตนเองได้ จะต้องทำอะไรบางอย่างภายในห้องลองชุดนี้
เป็นแบบนี้ไม่ได้ ทำเรื่องแบบนั้นภายในที่สาธารณะค่อนข้างไร้ศีลธรรมเกินไป
ฉันหอบหายใจและซบศีรษะลงภายในอ้อมแขนของเขา เสียงหยอกล้อของเขาดังขึ้นเหนือศีรษะของฉัน “เป็นอะไรไป? ยอมแพ้เร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ฉันกลัวคุณจะอดไม่ไหวและทนไม่ได้” ใบหน้าของฉันแนบลงบนแผงอกของเขา ได้ยินเสียงหัวใจของเขา ตึกตัก ตึกตัก หนักแน่นเป็นอย่างมาก ฉันมีความรู้สึกอยากจะร้องไห้
ขณะนี้ฉันรู้แล้วว่าฉันรักสีชิงชวนมากแค่ไหน ฉันคิดถึงอ้อมแขนของเขามากเท่าไร
“คุณยั่วผมก่อน คุณยังต้องกังวลกับเรื่องไร้สาระเหล่านั้นด้วยเหรอ?”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองดวงตาเป็นประกายของสีชิงชวน ดวงตาของเขานั้นงดงามจริงๆ นัยน์ตาเต็มไปด้วยแสงประกายที่ฉันคุ้นเคย
ก่อนหน้านี้เขาเองก็เคยจ้องมองฉันแบบนี้ ฉับพลันฉันค้นพบความลับบางอย่างที่น่าเหลือเชื่อ นั่นก็คือสีชิงชวนยังคงปฏิบัติต่อฉันอย่างเช่นเคย
เขาชอบฉัน เวลานี้ขณะนี้เขาก็ยังคงชอบฉันเหมือนเมื่อก่อน ไม่เช่นนั้นผู้หญิงมากมายต่างก็ต้องการยั่วยวนเขา หากเขาไม่ชอบเขาก็คงไม่ยอมเข้ามาภายในห้องลองชุดและยอมจมปลักอยู่แบบนี้หรอก
เช่นนั้นฉันมีความมั่นใจ จากนั้นฉันอิงซบลงบนแผงอกของเขาและปฏิเสธไม่ยอมรับความผิดของตน
ฝ่ามือของเขายังคงอยู่บนแผ่นหลังเปล่าเปลือยของฉัน ลูบไล้ไปมาอย่างแผ่วเบา
“คุณอยากจะซบอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหน? ฮืม?” เสียงของสีชิงชวนอ่อนโยนมาก
“ฉันก็ไม่รู้ ต้องรอให้พวกคุณจากไปก่อน ฉันให้เซียวซือเห็นฉันไม่ได้หรอก”
“ทำไม? กล้าทำไม่กล้ารับงั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดเสียหน่อย อย่างไรก็ตามวันนี้ฉันไม่สามารถให้หล่อนเห็นฉันอยู่ที่นี่ได้ คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?”
เขาจ้องมองฉัน จากนั้นพยักหน้า “โอเค” เขานำเสื้อเชิ้ตที่ปลดกระดุมแล้วมาสวม จากนั้นสวมสูทอีกครั้งและเตรียมจะเดินออกไป
ฉับพลันฉันพบว่าการที่ตัวเองทำตัวเป็นผู้หญิงเลวนั้นก็ค่อนข้างน่าสนใจ ฉันจับแขนเสื้อของเขา เขาหันศีรษะกลับมามองฉันด้วยความงุนงง “มีอะไรอีก?”
ฉันเขย่งปลายเท้าและประทับจูบลงบนริมฝีปากเขา
เขาเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าราวกับว่าพอใจเป็นอย่างมาก เป็นเพราะว่าฉันเห็นรอยยิ้มบนริมฝีปากของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...