ฉันอาบน้ำ สวมชุดกี่เพ้าที่ฉันเพิ่งซื้อมา จากนั้นแต่งหน้าให้คมเข้ม
รูปร่างหน้าตาของฉันไม่เหมือนกับแม่เลี้ยงเลยแม้แต่น้อย แต่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
ฉันใส่วิกและส่องกระจก ฉันรู้สึกตกใจตัวเอง
อันที่จริงค่อนข้างน่ากลัวมาก ในเวลากลางดึกกลางดื่นแต่งตัวแบบนี้
จากนั้นฉันบันทึกเสียงลงภายในซอฟต์แวร์เปลี่ยนเสียงที่เฉียวอี้หามาให้ เมื่อถึงเวลานั้นก็จะเปิดคลิปเสียงนี้และฉันแต่งตัวแบบนี้ ฉันคิดว่าขณะที่เซียวซือกำลังหวาดกลัวอย่างสุดขีด หล่อนคงไม่เห็นหรอกว่าใบหน้าของฉันนั้นเหมือนกับใบหน้าของแม่หล่อนหรือไม่ คาดว่าหล่อนคงไม่กล้ามองด้วยซ้ำ
เมื่อฉันเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ฉันแสร้งทำเป็นปิดไฟและแสร้งนอนหลับ กระทั่งเวลาใกล้จะเที่ยงคืน ฉันเตรียมตัวลุกออกจากเตียง
ฉันพูดคุยกับเซียวหลิงหลิงไว้แล้วว่าให้หล่อนเคาะประตูห้องของเซียวซือในช่วงเวลาเที่ยงคืน จากนั้นหล่อนห้ามปรากฏตัว เคาะสองครั้งและรีบไปซ่อน จากนั้นเคาะอีกครั้ง ไปๆมาๆและเคาะสามถึงสี่ครั้งก็เพียงพอแล้ว
เซียวหลิงหลิงตอบรับอย่างรวดเร็ว เพราะว่าเครื่องประดับล้ำค่าของแม่หล่อนนั้นช่างเย้ายวน ไม่ว่าฉันจะให้หล่อนทำอะไรหล่อนก็ตอบตกลง
ส่วนฉันน่ะเหรอ จะเข้าไปทางด้านหน้าต่างของเซียวซือ
พวกเราอาศัยอยู่ชั้นสอง บังเอิญว่าห้องของฉันและห้องของเซียวซือนั้นมีระเบียงเชื่อมต่อกัน สิ่งที่ฉันต้องทำก็แค่ยืนบนระเบียงและเคาะหน้าต่างของหล่อน แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เธอตกใจกลัวจนแทบตายแล้ว
ฉันเดินย่องเบาเปิดหน้าต่างของตนเองและปีนไปยังระเบียง จากนั้นเดินไปด้านหน้าหน้าต่างของเซียวซือ
นับว่าฉันนั้นดวงดี ตอนนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ค่ำคืนนี้อากาศค่อนข้างร้อน ดังนั้นหน้าต่างของหล่อนกำลังเปิดอยู่
ฉันยืนนิ่งงันอยู่ตรงหน้าต่างของเธอ ด้านนอกผ้าม่าน รอคอยเสียงเคาะประตูของเซียวหลิงหลิง
ในไม่ช้าเสียงเคาะประตูดังขึ้น ก๊อกๆ ก๊อกๆ เคาะสั้นๆสามครั้งเคาะยาวๆครั้งหนึ่ง อันที่จริงเสียงเคาะประตูท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิดนั้นน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เซียวซือหลับไม่ลึกเท่าไรนัก ไม่นานนักหล่อนก็ตื่นขึ้นด้วยความตื่นตระหนก ผ่านผ้าม่านบางๆ ฉันเห็นเซียวซือลุกขึ้นจากเตียงและเอ่ยถาม “นั่นใคร?”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ แต่เสียงเคาะประตูยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
เซียวซือเดินไปเปิดประตู แน่นอนว่าหล่อนไม่เห็นใครเลย จากนั้นเดินกลับมายังเตียงนอน
หล่อนเดินตรงไปยังเตียงนอนและไม่ได้มองมาทางหน้าต่าง ดังนั้นหล่อนจึงไม่เห็นฉันที่กำลังยืนอยู่ด้านนอกหน้าต่าง
เรื่องนี้ไม่ต้องรีบร้อน ค่ำคืนยาวนานยังคงมีโอกาส
ครั้งนี้คาดว่าเซียวซือยังไม่คิดอะไรมากนัก หล่อนปิดไฟและล้มตัวลงนอนต่อ
แต่ทว่าเสียงเคาะประตูจากเซียวหลิงหลิงที่อยู่ด้านนอกดังขึ้นอีกครั้ง
เคาะสั้นๆสามครั้งเคาะยาวๆครั้งหนึ่งเช่นเคย เสียงไม่ดังมากนัก แต่ค่ำคืนที่เงียบสงัดเช่นนี้เซียวซือสามารถได้ยินอย่างชัดเจน
เซียวซือลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปเปิดประตูอีกครั้ง หล่อนไม่ได้เปิดไฟเลย มีเพียงแค่โคมไฟขนาดเล็กดวงหนึ่งเท่านั้น
แน่นอนว่าครั้งนี้เปิดประตูออกไปก็ยังไม่พบใคร
ฉันได้ยินเสียงแผ่วเบาของเซียวซือ “นั่นใคร? ใครกันแน่? อย่ามาเล่นพิเรนทร์แบบนี้”
เซียวหลิงหลิงซ่อนตัวได้อย่างดี อาจเป็นเพราะเซียวซือกลัวจริงๆเช่นนั้นหล่อนเลยไม่ได้เดินออกไปสำรวจอย่างละเอียด เมื่อไม่เห็นใครก็เดินกลับมา
หล่อนปิดประตูและเดินกลับไปยังห้องนอน ฉันยืนอยู่นอกหน้าต่างของหล่อนและจ้องมองหล่อน หล่อนเงยหน้าขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจและเหลือบมองมาทางหน้าต่าง จากนั้นหล่อนก็มองเห็นฉัน
แม้ว่าดวงไฟภายในห้องจะไม่สว่าง แต่ยังคงมีแสงจากโคมไฟและภายในสวนนั้นมีไฟทางเดิน เช่นนั้นหล่อนสามารถมองเห็นฉันได้อย่างชัดเจน
ผ้าม่านหน้าต่างของหล่อนนั้นบางมาก ปกปิดใบหน้าของฉันได้อย่างพอดี ทำให้ใบหน้าของฉันพร่าเลือน แต่สามารถมองเห็นได้แม้ว่าจะมองเห็นได้ไม่ชัดเจนก็ตาม
เป็นเพราะฉันสามารถเห็นแสงสว่างแห่งความหวาดกลัวฉายผ่านนัยน์ตาของเซียวซือได้อย่างชัดเจน จากนั้นเสียงกรีดร้องที่แสบแก้วหูพลันดังขึ้น “อ๊าก!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...
สามีแบบนี้ ควรทิ้งอ่ะ จะสอนก็สอน แต่ไม่ควรบีบบังคับหักหน้า ทำให้อับอายอย่างนี้ ไม่ให้อภัยเด็ดขาด ยิ่งรู้ว่านังซือยังไม่ตัดใจ ยิ่งต้องจัดการให้ชัดเจนแทนที่จะปล่อยคลุมเครือ...