พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 51

“เป็นไปไม่ได้” ฉันนึกออกเลยว่าถ้าเรื่องแดงขึ้นมาฉันจะมีจุดจบน่าเวทนาแค่ไหน สีจิ่นยวนเป็นลูกชายคนเล็กในบ้าน แน่นอนว่าแม่สีจะต้องทำใจด่าเขาไม่ได้ งั้นคนที่โชคไม่เข้าข้างก็คงมีแค่ฉันเพียงคนเดียว ฉันต้องทำให้เขาตื่นจากความฝันอันแสนหวานนี้สักที “ถ้าคุณจะเลี้ยงเดี๋ยวฉันมอบให้ คุณไปขอแม่เอา เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันทั้งนั้น”

“พูดไปตรงๆคงไม่ได้ ทำได้แค่แอบเลี้ยง” ซึ่งเขารู้ตัวดี

“แอบเลี้ยงไม่ได้ งั้นฉันมอบให้คุณ คุณไปเลี้ยงของคุณเอง ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลยสักนิด” ฉันอุ้มลูกสุนัขจรจัดยัดให้กับเขา

เขาอุ้มมันไว้แน่น ท่าทางน้อยอกน้อยใจ “แต่ผมดูแลสุนัขไม่เป็น เซียวเซิง พวกเราช่วยกันดูแลมันดีไหม”

“ไม่ดี อย่ามาแอ๊บแบ๊วใส่” ฉันหมุนตัวไปทางอื่นไม่สนใจเขา

“งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน รอให้ผมเปิดเรียนเทอมหน้าก่อน แล้วผมจะพามันไปอเมริกาด้วย ในช่วงระยะเวลานี้จะไม่ให้ใครรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด”

เออใช่ สีจิ่นยวนยังเป็นนักเรียนอยู่ไม่ใช่หรือ ตอนนี้ยังไม่ถึงช่วงปิดเทอมฤดูร้อนเลยนี่นา ทำไมเขาถึงไม่ไปโรงเรียนล่ะ?

“ทำไมคุณถึงไม่ไปโรงเรียน?”

“ผมป่วยครับ จึงพักการเรียนไป” เขามีท่าทีน้อยเนื้อต่ำใจ

ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกใจอ่อนขึ้นมา “ป่วยเป็นอะไรเหรอ? ไม่สะดวกพูดก็ไม่เป็นไรนะ”

“โรคหัวใจครับ” เขาก้มหน้าลง ทำให้เส้นผมไปบดบังดวงตาอันงดงามของเขา

เห็นเขาสภาพเช่นนี้ ฉันก็ใจร้ายไม่ลง อีกอย่างเขายังใช้วาทศิลป์ในการเกลี้ยกล่อมฉันอย่างสุดความสามารถ “ขอร้องล่ะ เซียวเซิง พวกเราเอามันไปเลี้ยงเถอะนะ ผมสัญญาว่าจะไม่ให้ใครรู้ทั้งนั้น ให้มันนอนห้องคุณสลับกับห้องผมอย่างละคืน ดีไหมครับ?”

การได้เผชิญหน้ากับคำขอร้องอ้อนวอนจากหนุ่มหล่อเช่นนี้ ทำให้ฉันหมดปัญญาปฎิเสธไปโดยปริยาย ทำได้แค่พูดไปอย่างข้างๆคูๆ “ตกลงกันก่อนนะ ถ้ามันสร้างความวุ่นวายขึ้นมา ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องปล่อยมันไป อีกอย่างห้ามให้ใครรู้ทั้งนั้น”

“รับทราบครับ” เขาดีใจจนต้องกระโดดโลดเต้น พร้อมทั้งยกสุนัขตัวน้อยไว้เหนือศีรษะ “เย้ เซียวเซิง พวกเราไปซื้อของให้มันกัน คุณขับรถเป็นไหม?”

“ขับเป็น”

“งั้นผมไปหยิบกระเป๋าตังค์ที่ห้องก่อน คุณรอผมด้วยนะ”

สีจิ่นยวนยัดลูกสุนัขไว้ในอ้อมแขนฉัน จากนั้นก็วิ่งเข้าห้องไป

ฉันโดนเกลี้ยกล่อมไปแบบดื้อๆได้ยังไงกัน มิหนำซ้ำตอนนี้ยังต้องไปซื้อของให้ลูกหมาอีกต่างหาก พอกันที

สีจิ่นยวนสะพายเป้ใบหนึ่งออกมา แล้วยัดลูกหมาเข้าไปในกระเป๋า จากนั้นก็รูดซิบให้เหลือช่องว่างไว้ให้อากาศถ่ายเทนิดนึง แล้วพวกเขาทั้งคู่ก็ขับรถออกไป

ในซุปเปอร์มาร์เก็ตมีของใช้ให้เลือกได้อย่างครบครัน เรียกได้ว่ามีตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ

สีจิ่นยวนตั้งใจเลือกเป็นพิเศษ เขาเดินเลือกแชมพูสุนัขหลากหลายยี่ห้อตรงหน้า พร้อมกับไถ่ถามฉันอยู่ตลอด “เซียวเซิง คุณว่าพวกเราควรจะซื้อแบบมอยส์เจอไรเซอร์หรือแบบกำจัดแบคทีเรียดี?”

“ได้ทั้งนั้น”

“งั้นสู้เราซื้อไปทั้งสองแบบเลยดีไหม จะได้สับเปลี่ยนกันใช้”

“คุณก็ดูเอาแล้วกัน” จิตใจฉันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย เพราะเจ้าลูกหมามักจะโผล่หัวออกมาจากกระเป๋าทำหน้าแบ๊วใส่อยู่เนืองๆ

ฉันว่าสีจิ่นยวนเหมาะที่จะเป็นเจ้าของมันมากๆ ทั้งคนทั้งหมาล้วนแต่ก็หน้าหนาหน้าทนพอๆกัน

สุดท้ายเราก็ได้ซื้อของมาพะรุงพะรัง แค่อาหารหมาอย่างเดียวก็หลายยี่ห้อแล้ว

จิตใจของฉันกระวนกระวายไปหมด “เยอะแยะมากมายขนาดนี้จะเอาไปไว้ไหนล่ะทีนี้?”

“เอาไว้ที่ห้องผม” เขาทุบอกตัวเอง “เดี๋ยวผมจะเก็บไว้ในตู้ แม่บ้านที่เข้ามาทำความสะอาดไม่กล้ารื้อตู้ของผมหรอก”

“ยังไงก็แล้วแต่ ถ้าเรื่องแดงขึ้นมาคุณจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างนะ”

“วางใจเถอะ ผมไม่ขายคุณหรอก”

หลังจากเอาของใช้ของสุนัขกลับมาที่บ้านตระกูลสีอย่างพะรุงพะรัง พวกเราก็พามันไปอาบน้ำ

เดิมทีนึกว่ามันตัวสีเทา แต่พออาบน้ำเสร็จกลับพบว่ามันตัวสีขาว หลังจากที่เป่าจนแห้งก็เหมือนกับมาร์ชเมลโล่ น่ารักเอาซะมากๆเลย

ฉันอุ้มไว้ทำใจปล่อยมือไม่ได้ สีจิ่นยวนกอดอกชำเลืองสายตามองมาหาฉันพร้อมกับหัวเราะฮาฮา “ผู้หญิงอย่างคุณมองแค่รูปร่างภายนอกอย่างเดียวใช่ไหม ตอนนี้เห็นมันหน้าตาดีหน่อยก็ดันตกหลุมรักมันเข้าแล้วหรือ?”

ฉันไม่สนใจเขา เขาจึงเอ่ยขึ้นอีกรอบว่า “พวกเราตั้งชื่อให้มันเถอะ!”

แหงอยู่แล้วว่ามันต้องมีชื่อ ฉันครุ่นคิดประหนึ่งเดี๋ยวจึงเอ่ยขึ้น “เสว่ยฉิว เป็นไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)