พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 58

เมื่อดื่มน้ำจนอิ่มแล้ว ฉันก็ไม่รู้สึกง่วงนอนอีก สีชิงชวนกลับไปนั่งวุ่นวายกับคอมพิวเตอร์ของเขาต่อที่โซฟา ฉันรู้ว่าเขากำลังทำงาน และงานเขาก็ยุ่งมาก งานยุ่งทั้งวันไม่มีหยุดอะไรทำนองนั้น ตัวเขาเองก็เต็มที่กับมันด้วย คนทั้งสีซื่อกรุ๊ปล้วนกลัวเขากันทั้งนั้น รวมทั้งพี่ใหญ่และพี่รองของเขาก็เขาเช่นกัน

มุมที่ฉันนอนอยู่บนเตียงตรงนี้สามารถมองเห็นสีชิงชวนได้พอดี ว่ากันว่าผู้ชายที่กำลังทำงานนั้นดูหล่อมาก แต่สีชิงชวนเขาก็หล่อไปหมดทุกตอนอยู่ดีไม่ว่าจะเป็นทำอะไรก็ตาม

ยังไงก็นอนไม่หลับแล้ว ฉันอยากหาคนคุยด้วย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ถึงตอนนี้ตรงหน้าฉันจะเป็นผี ฉันก็สามารถคุยด้วยได้

“สีชิงชวน” ฉันเรียกชื่อเขา

เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ ไม่มองฉันเลยสักนิดเดียว

“สีชิงชวน” ฉันเรียกเขาอีก “ฉันคุยกับคุณได้ไหม?”

“ไม่ได้” เขาปฏิเสธฉันแบบสั้นๆ ได้ใจความ

ฉันรู้อยู่แล้ว งั้นก็แล้วแต่เลยแล้วกัน ยังไงเขาก็อยู่ตรงนี้ ฉันพูดเองคนเดียวก็ได้ เขาจะฟังไหมก็เรื่องของเขา

“สีชิงชวน เรื่องที่แม่เลี้ยงฟ้องฉันขึ้นศาล แล้วก็เรื่องที่ฉันไม่ใช่ลูกสาวของคุณพ่อคงสร้างปัญหาให้ตระกูลสีมาก ฉันก็เลยคิดว่าเราจบสัญญาของพวกเราล่วงหน้าได้เลยนะ ยังไงซะเร็วไปครึ่งปีหรือช้าไปครึ่งปีก็ไม่มีอะไรอยู่แล้ว”

ในที่สุดสีชิงชวนก็มีปฏิกิริยาตอบโต้ เขาเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์แล้วมองฉัน “คุณเลือกใช้เวลานี้เพื่อจะหย่ากับผมเหรอ คุณไม่รู้เหรอว่ามันจะกระทบกับการฟ้องร้องคดี สมองคุณอยู่ไหน? เอาให้หมากินไปแล้วเหรอ?”

เวลาสีชิงชวนด่านี่ช่าง… มันเหมือนกับการตบหน้าแรงๆ สักฉาด และแรงตบนั้นมันสามารถทำให้ฉันปลิวจนแยกทิศทางไม่ออกเลยทีเดียว

ได้ยินว่าตอนสีชิงชวนประชุมหุ้นบริษัท เขาสามารถด่าผู้บริหารตำแหน่งสูงและหุ้นส่วนที่อายุมากกว่าเขาทั้งหลายจนหงายหลังได้ และผู้ถือหุ้นเหล่านั้นเป็นคนใหญ่คนโตทั้งนั้นเลยด้วย

ส่วนการที่เลขาและผู้ช่วยของเขาโดนด่าจนร้องไห้นั่นก็เป็นเรื่องปกติ ยกเว้นป๋ออวี่ ฉันรู้เรื่องความสัมพันธ์ของเขากับป๋ออวี่ ดังนั้นก็พอเข้าใจได้ที่เขาเมตตาป๋ออวี่เป็นพิเศษ

แต่ตอนนี้ฉันไม่สามารถถูกรบกวนจากอิทธิพลภายนอกได้ บางทีคงเป็นเพราะต้องใช้ชีวิตกับเซียวหลิงหลิงและแม่เลี้ยงตั้งแต่ยังเด็ก พวกเธอชอบใช้คำพูดที่เหมือนกับมีดแหลมคมทิ่มแทงจนฉันชินแล้วล่ะ

“ไม่เป็นไร จริงๆ จะฟ้องร้องชนะหรือไม่ชนะ ฉันก็ไม่สน ฉันไม่ใช่ลูกของคุณพ่อ จะมาแบ่งทรัพย์สินของครอบครัวท่านได้ยังไง”

“คุณไม่แคร์จริงๆ หรือเสแสร้งกันแน่?” เขามองฉันอย่างไม่เชื่อใจ

เขาจะคิดกับฉันยังไงก็เรื่องของเขา ฉันไม่ได้แคร์สักหน่อยว่าภาพลักษณ์ของฉันในใจเขาจะเป็นยังไง

“คุณก็คิดซะว่าฉันเสแสร้งแล้วกัน!”

ทันใดนั้นสีชิงชวนก็ลุกขึ้นแล้วเดินมาทางฉัน ฉันรีบถอยหลังไปบนที่นอนทันที กลัวเขาจะบ้าจนลากฉันลงจากเตียงแล้วเอาฉันไปฟาด

“คุณรู้ไหมว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของเซียวซื่อกรุ๊ปมันเป็นเงินเท่าไหร่?” เขายืนอยู่หน้าเตียงของฉัน สองมือล้วงกระเป๋าแล้วมองต่ำลงมาที่ฉัน

ฉันพยายามคิดคำนวณ จากนั้นจึงบอกเขา “เยอะ”

เขาเผยรอยยิ้มเหยียดหยามที่มุมปาก “เอาแบบนี้ ผมช่วยให้คุณชนะคดี แล้วคุณแบ่ง 15 เปอร์เซ็นต์ของคุณมาให้ผม”

เขานี่เป็นนักธุรกิจที่เห็นแก่ผลประโยชน์จริงๆ แถมยังโหดเหี้ยมและโลภมากอีกด้วย ครั้งก่อนเพราะเรื่องของเฉียวอี้ เขายังบังคับเอาจากฉันสิบเปอร์เซนต์ แต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนเป็น 15 เปอร์เซ็นต์แล้ว

“นั่นเป็นเซียวซื่อกรุ๊ปนะ มันเกี่ยวอะไรกับคุณ?”

“ร่วมงานกับผม ผมยังมีอีก 15 เปอร์เซ็นต์ที่เอามาได้ ไม่งั้นมันจะอยู่ในมือของแม่เลี้ยงคุณทั้งหมด พวกเธอจะไม่ขอบคุณคุณด้วย” เขาก้มตัวลงแล้วใช้มือทั้งสองข้างยันกำแพงด้านหลังฉันไว้

เขานี่เจรจาธุรกิจได้ทุกที่ทุกเวลาจริงๆ สินะ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)